“ปณท”ร่วมทุนปั้น“ฟิ้วซ์ โพสต์”ลุยธุรกิจขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ

นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ได้ลงนามบันทึก ข้อตกลง (เอ็มโอยู) กับ บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) และ แฟลช เอ็กซ์เพรส เพื่อร่วมทุนในการดำเนินธุรกิจขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน หรือ Cold Chain Express  ภายใต้แบรนด์ “ฟิ้วซ์ โพสต์” โดยการนำจุดแข็งของแต่ละบริษัท คือ ปณท ที่มีเครือข่ายเชี่ยวชาญขนส่งแบบส่งถึงประตูบ้าน ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่ วประเทศ และ เจดับเบิ้ลยูดีเชี่ยวชาญด้านการขนส่งควบคุมอุณหภูมิ และ แฟลช เอ็กซ์เพรส ที่แข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี มาผนวกเพื่อให้สามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รับกับสถาณการณ์โควิด-19 ที่มีคนหันมาประกอบ อาชีพขายของออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นของสดที่เน่าเสียได้ง่าย เช่นผักผลไม้ อาหารสด อาหารทะเล ฯลฯ

“ตลาดขนส่งแบบควบคุมอุณภูมิ มีการเติบโตปีละ 8-10% มีมูลค่าประมาณ 34,000 ล้านบาท และคิดเป็นสัดส่วน 5% ของตลาดโลจิสติกส์ทั้งหมด ขณะที่มีผู้ดำเนินธุรกิจอยู่ 2-3 ราย จึงเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีโอกาส ซึ่งการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน ม.ค.65 เนื่องจากมีขั้นตอนภายในของแต่ละบริษัท การเซ็นเอ็มโอยูก่อน เพื่อให้บริการได้เร็ว เนื่องจากแต่ละบริษัทมีความเชี่ยวชาญ และมีทรัพยากรต่างๆ อยู่แล้ว”

นายดนันท์ กล่าวต่อว่า ฟิ้วซ์ โพสต์ จะเริ่มให้บริการในวันที่ 1 ก.ย.นี้ แบบเข้าไปรับสินค้าตรงถึงที่ โดยผู้ใช้บริการต้องบุ๊กกิ้งผ่านเว็บไซต์ www.fuzepost.co.th  โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ธุรกิจแบบบีทูซี และบีทูบี ขนาดเล็ก ช่วงแรกจะให้บริการในพื้นที่ กทม.ก่อน และมีแผนจะเปิดให้บริการจุดรับฝาก เช่น ที่ทำการ ปณ. และขยายเส้นทางขนส่งทั่วประเทศในเดือน ม.ค. 65 และหากประสบความสำเร็จในไทยจะขยายธุรกิจ ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา ต่อไปด้วย

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เจดับเบิ้ลยูดี มีองค์ความรู้และความชำนาญครบทั้งในด้าน คลังจัดเก็บและบริหารจัดการสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ศูนย์กระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิ การขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ รวมไปถึง การบริหารจัดการซัพพลายเชนของธุรกิจอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการผลิตหรือแปรรูปอาหาร การผนึกกำลังร่วมกับไปรษณีย์ไทย และแฟลช เอ็กซ์เพรส ในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวที่สำคัญที่สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในธุรกิจ Cold Chain Express โดยในช่วง 2  ปีที่ผ่านมา มีรายได้ในส่วนของธุรกิจขนส่งแบบควบคุมอุณภูมิ มีรายได้ ปีละ 100 กว่าล้านบาท ซึ่งในปีนี้เชื่อว่าจะสามารถเติบโตได้เท่าตัว โดยขณะนี้ทั้งสามบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการจัดทำแผนธุรกิจ เชื่อว่าจะสามารถขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ได้ในอนาคต

ด้านนายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมาพัฒนาระบบ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจ ขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ มีประสิทธิภาพ เป็นการช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่งของไทย และยังเป็นการช่วยพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณภูมิที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น

“ทีมงาน ไอที ของแฟลชกว่า 100 คน ได้เตรียมวางระบบขนส่งในรูปแบบ Cold Chain Management System ทั้งในส่วนของ Fast optimization and tech adaption หรือ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมาปรับปรุงระบบให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน และแก้ไขปัญหาอย่างท่วงทัน ท่วงที, Cloud computing หรือ การคำนวณด้วยเทคโนโลยี, System infrastructure ตลอดจนการวางระบบเชื่อมการทำงานเข้ากับระบบปฏิบัติการ (Application Programming Interface: API), ระบบจัดการคำสั่งซื้อ หรือ Order Management System: OMS ฯลฯ  โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย และในอาเซียนต่อไป”