เมื่อเวลา17.30 น. วันที่ 29 ม.ค. บริเวณใต้ทางด่วนชุมชนวัดมะกอกส่วนหน้า เขตพญาไท กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. วิเคราะห์ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทยและพรรคพลังประชารัฐ จับมือกันเพื่อตั้งรัฐบาล ที่เหลือเป็นฝ่ายค้านทั้งหมด ว่าต้องขอบคุณนายวันชัยและ ส่วนตัวเชื่อมือในฐานะที่เป็นนักกฎหมาย แต่ในเรื่องของการจับขั้วทางการเมือง ขอให้พรรคภูมิใจไทยได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยนำคะแนนและจำนวน ส.ส.ที่ ประชาชนมอบให้พรรรคเป็นตัวกำหนดทิศทาง

พรรคภูมิใจไทย จะพยายามไม่แบ่งเป็นขั้วหรือแบ่งฝ่าย และเชื่อว่าไม่มีประชาชนคนไหนอยากเห็นความขัดแย้ง ดังนั้น ควรให้ผลของการเลือกตั้งเป็นตัวตัดสิน ดีกว่าที่จะมาบอกว่าจับมือกับคนนั้นไม่ได้ คนนี้ไม่ได้ เพราะหากตั้งแง่ เขาจะมาดิสเครดิตเรา และเราต้องมาค่อยตอบโต้ ยิ่งสร้างความขัดแย้งให้ทวีคูณพรรคภูมิใจไทยไม่ทำเช่นนี้ ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินและใครได้คะแนนเท่าไหร่ นั่นคือความต้องการของประชาชน แล้วพรรคที่เป็นแกนนำ ก็ต้องแปลความต้องการของประชาชนเป็นสิ่งที่พึงปฏิบัติ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยแปลได้ 100% และผลของการเลือกตั้งจะเป็นทางออกว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่า จะถอยให้พรรคอื่นที่มีอำนาจ ส.ว.ในมือหรือไม่ เพราะ ส.ว.มีอำนาจในการเลือกนายกฯ ด้วย กลัวหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า หากประชาชนเลือกเรามาเยอะขนาดนี้ เรากลัวประชาชนอย่างเดียว และตนป้อนใส่สมองสมาชิกพรรคทุกคนไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น ยกเว้นกลัวประชาชน

“พรรคภูมิใจไทย จับมือได้กับทุกขั้วหลังการเลือกตั้งเรา สามารถทำงานร่วมกับใครก็ได้ โดยจะสร้างความสามัคคีเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ภายใต้ระบบรัฐสภาและหากพรรคภูมิใจไทย มี ส.ส.มากที่สุด ผมก็จะต้องเป็นนายกฯ เพราะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพียง คนเดียวของพรรค ถ้าประชาชนเลือกเราเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง ก็เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีเอง “

นายอนุทินยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการเรียกร้องขอให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนคำสั่งโยกย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย ว่าต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการโยกย้ายข้าราชการต่ำกว่าซี 10 เป็นเรื่องของปลัดกระทรวงทุกกระทรวง ในกรณีของกระทรวงสาธารณสุขข้าราชการระดับผู้อำนวยการโรงพยาบาลต่ำกว่าระดับซี 10 เป็นการพิจารณาของปลัดกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีหรือฝ่ายการเมืองไม่เกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น ถ้าเข้าไปเกี่ยวข้องมันทำงานไม่ได้ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลมีเป็นพันๆคน 

เมื่อถามว่า  มีการมองว่าปลัดโยกย้ายเพื่อเอาใจรัฐมนตรี เพราะมองเป็นเสี้ยนหนามกัน นายอนุทิน กล่าวว่าจะมาเอาใจรัฐมนตรีได้อย่างไร เดี๋ยวนะใครเป็นเสี้ยนหนามตนคนในกระทรวงสาธารณสุขเป็นเพื่อนร่วมงานตนทุกคน จะเป็นเสี้ยนหนามได้อย่างไรตนไม่เคยมองใครสักคนเป็นเสี้ยนหนามเลย ตนเป็นรัฐมนตรีเพราะประชาชนเลือกมาไม่มีหมอคนไหนมาขวางผมสักคน จะเป็นเสี้ยนหนามได้อย่างไร ถามว่าปลัดกระทรวงสาธารณสุขมาทำเอาใจตนทำไม ท่านเป็นปลัดกระทรวงเรียบร้อยแล้ว และอยู่ได้อีกตั้งหลายปี ถ้าท่านจะเอาใจตนขอให้ท่านทำนโยบายที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนแล้วตนจะรู้สึกดีใจมากกว่าด้วย 

นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคงไม่ใช่ใครจะมาเอาใจได้ด้วยการโยกย้ายข้าราชการคนนู้นคนนี้ ตนยังไม่ได้เกลียดใครสักคน ตนพยายามรักทุกคนด้วยซ้ำ เพราะทุกคนคือคนที่ทำงานเป็นข้าราชการ ซึ่งตนต้องให้เกียรติ เพราะข้าราชการเป็นคนของประชาชน