ก่อนหน้านี้นักร้องหมอลำสาว หญิงลี ศรีจุมพล ได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอพินัยกรรม สั่งเสียจะบริจาคทรัพย์สินกว่า 50 ล้านบาท ให้เป็นสาธารณกุศล และเปิดเส้นทางชีวิตสุดแสนจะลำบาก จนกลายเป็นคนขี้งกขั้นสุด พร้อมเผยบทเรียนความรัก ไม่รู้ว่าถึงขั้นปิดตายเลยหรือเปล่า โดยทั้งหมดนี้หญิงลีได้มาเล่าผ่านคุยแซ่บ show แบบจัดเต็ม

หญิงลี เผยว่า “เรื่องที่โพสต์พินัยกรรมเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่มากๆ นะคะ ซึ่งทั้งชีวิตของหญิงลีก็เหมือนที่ทุกคนรู้เรื่องราวว่าโอเค เดินตามฝัน แล้วอยู่ๆ วันนึงมาพูดแบบนี้เพื่ออะไร วันนั้นมันเกิดเหตุสะสมมา 1 เดือน ก็มีเหตุได้ปะทะกับคนในครอบครัวอย่างจริงจังรุนแรง จนมีความรู้สึกว่าเราไม่มีลูก ถ้าเกิดว่าเราไม่อยู่แล้วทุกอย่างมันก็จะเป็นเหมือนที่หญิงพูดในนั้นดีกว่า คือเราลำบากเหลือเกินกว่าที่จะเดินทางมาถึงจุดนี้ เส้นชัยของตัวเองจนวันนี้ มันไม่ได้เป็นอารมณ์ชั่ววูบ เป็นการตั้งใจ 1.เป็นการเกิดกุศลจริงๆ อันนั้นภูมิใจที่คิดได้ 2.รู้สึกผิดหวังกับหลายๆ อย่าง เป็นอารมณ์เสียใจมากกว่า ทุกวันนี้ก็ยังไม่คุยกับเขา ก็คือปีใหม่มันเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว จนถึงวันที่ 25 เช้าวันนั้น คือหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา หญิงเลิกแคร์ในสิ่งที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้ตัวเองเลย หญิงตัดสินใจโพสต์ออกไป มันก็เกิดเหตุการณ์วุ่นวายในสังคม ทั้งผู้ใหญ่ ญาติพี่น้องก็กังวล คนไม่เข้าใจก็จะเข้าใจว่าหญิงยกสมบัติ ยกมรดกที่หามาได้ด้วยความลำบากให้ทางการไปแล้ว คนไม่เข้าใจ แต่พอญาติพี่น้อง พ่อแม่ได้มาสัมผัสและเคลียร์ใจกันจริงๆ ก็โอเคเข้าใจ ทุกคนก็เลยให้กำลังใจ และเข้าใจในสิ่งที่หญิงทำเพื่อทุกคน วันต่อไปหญิงก็ต้องอยู่อาศัยที่บ้านเกิด หญิงไปวางแผนรากฐานไว้สำหรับอนาคต”


“พอถึงวันนี้สิ่งที่หญิงตัดสินใจมันก็เป็นเหตุให้เราได้พูด แต่มันเกิดความสุข แล้วยังยืนยันว่าถ้าหญิงลีเป็นไปตามนั้น ก็เป็นไป แต่ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ขอให้ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ พอมันสมหวังแล้วทุกอย่าง เอาเงิน เอาความสุข ทุกอย่างกลับบ้านเกิด เพื่อที่จะอยู่ใกล้ชิดกับญาติพี่น้อง พ่อแม่ หญิงให้พ่อแม่มาอยู่กรุงเทพ เขาไม่มา อยากให้พ่อ แม่ แต่งตัวสวยๆ หล่อๆ เขาติดเสื้อผ้าที่เขาใส่สบาย อยากให้เขากินของแพงๆ ดีๆ เขาติดน้ำพริก ติดปลาร้า ซึ่งเราเปลี่ยนเขาไม่ได้ เพราะฉะนั้นหญิงต้องตามไปอยู่กับเขา เวลาที่หญิงกินหรูอยู่แพง ก็จะคิดถึงพ่อแม่ ความที่เราเป็นคนบ้านนอก วันที่พ่อ แม่ ลำบาก มีอะไรแพงๆ เขาก็จะไม่กินที่อื่น เวลาพ่อก่อสร้างได้เงินเดือน เขาก็ไม่กิน เขาจะกลับบ้านมากินของแพงๆ ที่บ้านหญิงก็เลย โอเค วันที่หญิงมีเงิน หญิงก็จะกลับไปกินกับพ่อแม่ที่บ้า

หญิงลี เล่าต่อว่า “เรื่องที่ทะเลาะกันเป็นเรื่องความเข้าใจผิดแน่นอนเลย เป็นความก้าวร้าวโดยไม่คุยกัน ไม่ถาม ขาดความเคารพ ขาดการประสานงานโดยถูกต้อง หญิงขอไม่ลงรายละเอียดเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณมากๆ ที่เป็นห่วง คลิปนั้นหญิงตัดต่อเอง หญิงผ่านการคัดกรองจากตัวเองทั้งหมด ใครดูจบคือเข้าใจ ใครดูแค่ฉาบฉวยมองว่าเราเพี้ยนหรือเปล่า ที่มองว่าเราโรคซึมเศร้ากำเริบ ภาวะซึมเศร้าทุกคนจะเคยมีในตัวเองนะคะ เพียงแต่จะรู้ตัวเองแค่ไหน ในส่วนของหญิงลี ในวันที่หญิงตัดสินใจพูดคำนั้นไม่ได้มีภาวะซึมเศร้า แต่มีภาวะเครียดสะสมจากปีใหม่ถึงวันที่ 25 เช้าวันนั้น มันก็จิตตกพอสมควร ก็เลยคิดว่าสิ่งที่ได้พูดออกไปนั้นมันสะใจมาก ไม่มีอะไรเป็นของฉันสักอย่าง ชีวิตฉันว่างเปล่า พ่อแม่ ไม่เข้าใจ พี่น้องไม่เข้าใจ โอเคไม่เป็นไร ฉันตายไปก็หยิบจับอะไรไม่ได้ แหวนในมือยังจับไม่ได้เลย เพราะว่าหญิงอยู่กับความตายมาตลอด งานศพใครหญิงไปหมดนะ คนในหมู่บ้านอะ  หญิงรู้สึกว่าวันที่เรามีชีวิตอยู่เราทำอะไรได้เราทำไปเลยดีกว่า ทุกวันนี้พ่อแม่ เข้าใจ และอบอุ่นมาก ญาติพี่น้อง เข้าใจกัน และรักกันเพิ่มขึ้น”

“วันที่คลิปออกพ่อแม่ไม่ดูข่าว ดูข่าวไม่ได้เลย แม่มีภาวะซึมเศร้า เพราะแม่ผ่าหัวโดนรถชนหน้ารีสอร์ท ตอนนั้นเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นแบบถาโถม แม่ก็จะเสียใจ ลูกเต้าทะเลาะกัน แม่ร้องไห้ หนูก็หยุด ทุกคนหยุด มันหลายๆ อย่างในครอบครัวที่ยิ่งสูง ยิ่งหนาว เราก็เลยรู้สึกว่าเราต้องกลับมาที่จุดกลาง ระหว่างความว่างเปล่า คือ ความตายแล้ววันไหนที่รู้สึกว่าเราไม่อยากทำอะไร นั่นคือ เราว่างเปล่า แต่เราต้องทำงานที่ได้รับหน้าที่ การได้รับหน้าที่ที่มันฝืนมากๆ ก็ขอเคลียร์ไม่สะดวกทำ เพราะว่าเราไม่รู้จะหาเงินไปทำไมมากมายโดยที่ไม่มีความสุข เอาเท่าที่มันเป็นไปได้ แล้วก็ความรับผิดชอบ และบทบาทที่พระเจ้าให้มาเป็น หญิงเข้าใจตัวเองก็พอแล้ว ขอให้หญิงมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข แล้วมันจะช่วยเหลือคนอื่นได้อีกมากมาย แล้วคนอื่นจะค่อยๆ เข้าใจหญิงลีเอง หญิงจะไปนั่งอธิบายให้คนอื่นฟังทุกรายการไม่ได้ เพราะฉะนั้นวัน เวลา มันจะพิสูจน์ทุกอย่าง ตอนนี้หญิงเอาเวลาที่หญิงเครียดซึมเศร้า ตั้งแต่เดือนมกราคม หญิงสร้างสระว่ายน้ำขนาดเท่าสนามฟุตซอล ปูกระเบื้องเสร็จแล้ว”

“เรื่องที่ฝากให้พี่บุ๋มดูแล คำว่าพี่บุ๋ม ปนัดดา เนี่ย พี่บุ๋มจะเป็นคนหัวใจเดียวกัน เราเป็นจิตอาสาเราจะรู้กัน ซึ่งคุณแม่บุ๋มเคยมาตึกลั้นลา กรุ๊ป มาเปิดบริษัทวันแรก ท่านเอาดอกไม้มาให้ ตอนนี้ก็ยังมีอยู่ หญิงรู้สึกว่าหญิงไม่เคยโทรหา รบกวน แต่หญิงชื่นชมตลอด แล้วก็ติดตามแล้วแชร์กิจกรรมของท่าน แล้วรู้สึกว่าฉันพึ่งพาใครได้ในวันที่มันเกิดเหตุการณ์นั้น คนไหนที่น่าเชื่อถือ หญิงก็ซัดเลย ไม่ต้องถามแม่ หลังจากแม่เห็นข่าว มีคนโทรบอกแกเป็นอะไร แกโอเคไหม หญิงก็เล่าให้ฟัง โอเค ฉันเข้าใจแกหมดแล้ว ไม่เป็นไรลูก เริ่มต้นใหม่ ทุกอย่างดีขึ้น แม่บุ๋มเข้าใจหญิงลี หนึ่งคน แล้วหลายๆ คนเข้าใจมันก็เป็นสิ่งที่ดีงาม แล้วก็ความสุขเกิดขึ้นมากๆ หลังจากที่เคลียร์ แล้วคนไหนไม่เข้าใจหญิง นินทาว่าร้ายหญิง หญิงไม่สนเลยนะ คือเขาไม่ได้สร้างความสุขให้ฉันเลย มีแต่ความทุกข์”

หญิงลี เล่าต่อว่า “เรื่องความรัก (ยิ้ม)ก็ฉันสวย ก็มีคนจีบ มีคนคุย ก็คือเราก็เข็ดอยูนะกับความรักที่ผิดหวังกับการคาดหวังสูง ซึ่งทุกวันนี้ก็เซฟตัวเอง เซฟในส่วนของเราจะให้ใจใครเท่าไหร่ เราต้องเซฟว่าเผื่อเราอกหัก ผิดหวัง เราจะได้ไม่เกลียดกัน ไม่ได้ปิดใจ ยังต้องการอยากมีครอบครัว อยากมีทายาทในวันต่อไป เห็นเพื่อนๆ ศิลปินดารามีทายาทแล้วมันน่ารัก อยากได้บ้าง หญิงอยาเจอคนที่สามารถมีครอบครัวกับเราได้ และถ้าหญิงลีมีทายาท พินัยกรรมที่พูดมาอาจจะต้องขอเปลี่ยนแปลง ถ้าเกิดว่าเขาจะมาเป็นครอบครัวกับเรา ความอบอุ่นต้องมีให้ รูปร่างหน้าตาคงจะดีบ้างแหละ  หญิงรู้สึกอบอุ่นเหมือนกลิ่นอายข้าวเหนียว หญิงค่อนข้างอินไปกับทางลูกข้าวเหนียว ซึ่งมันหยิบจับง่าย เรารู้จัก รู้ว่าพ่อ แม่เราชอบอะไร มันง่ายดี”