สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ว่า นพ.เทดรอส แอดนาฮอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า ยังมีประเทศและดินแดนอีกเป็นจำนวนมากบนโลก ที่อัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อยู่ที่เพียง 1% หรือ 2% เท่านั้น ของจำนวนประชากรซึ่งจำเป็นต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ หากอัตราการฉีดวัคซีน "ทั่วโลก" รวมกันแล้ว "สูงไม่เพียงพอ" ตามที่ดับเบิลยูเอชโอกำหนดเป้าหมายไว้ คือแต่ละประเทศต้องมีประชากรฉีดวัคซีนครบไม่น้อยกว่า 10% ของทั้งประเทศ ภายในเดือน ก.ย.นี้ จะเป็นการเปิดโอกาสโดยปริยายให้เชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ไปอีก ด้วยเหตุนี้ ประเทศซึ่งมีวัคซีน "เหลือเฟือแล้ว" ขอให้บริจาควัคซีนซึ่งต้องการใช้ฉีดเป็นเข็มที่สาม หรือเป็นบูสเตอร์ ให้แก่ประเทศซึ่งยังแทบไม่มีประชากรได้รับวัคซีนก่อน
ขณะเดียวกัน นพ.เทดรอส กล่าวด้วยว่า ประเด็นการฉีดวัคซีนเข็มที่สามหรือบูสเตอร์ "ยังคงเป็นที่ถกเถียง" และยังต้องมีการศึกษาข้อมูลเป็นวงกว้างอีกมากในโลกจริง "ว่ามีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด"

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐยืนยันการให้ประชาชนทั่วไป ซึ่งได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค หรือโมเดอร์นา ครบสองเข็มนานเกิน 8 เดือนแล้ว ให้ทอยอยเข้ารับวัคซีนเข็มที่สามได้ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.นี้ นอกจากนั้น อีกหลายประเทศในทวีปยุโรป รวมถึงเยอรมนีและฝรั่งเศส มีแผนจัดการฉีดบูสเตอร์ให้แก่ประชากรในประเทศเช่นกัน.

เครดิตภาพ : AP