เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นเรื่องราวสุดร้อนแรงที่ทำเอาชาวเน็ตต่างพากันช็อกกันทั้งโลกออนไลน์อยู่ในตอนนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับเรื่องราวของนักแสดงซีรีส์วายชื่อดังขวัญใจสาววายอย่าง “บิว-จักรพันธ์ พุทธา” นักแสดงสมทบที่โด่งดังมาจากบทบาทหัวหน้าบอดี้การ์ด ซีรีส์วายเรื่อง “KinnPorsche The Series” จนมีคนชื่นชอบเข้ามาติดตามเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ บิว ได้ถูกชาวเน็ตขุดถึงเรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับข้อความโพสต์หลายครั้ง ทั้งในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และเว็บ Ask.fm ของเขา ที่มีทัศนคติเชิงลบในเรื่องการเหยียดเพศ และล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมติดแฮชแท็ก #บิวจักรพันธ์
โดยตัวอย่างข้อความ อาทิ เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2557 โพสต์เฟซบุ๊กว่า “น่าแปลกที่บางคนแต่งตัวโป๊เปลือยโชว์ลงโลกออนไลน์ แต่กลับตั้งสเตตัสรณรงค์ข่มขืนแล้วประหาร แทนที่จะเริ่มจากตัวเอง (ความเห็นส่วนตัวอยากจะบอก)”
หรือวันที่ 9 มี.ค. 2558 มีคนถามเจ้าตัวใน “Ask.fm” ว่า “ผมโดนเพื่อนผู้ชายในห้องข่มขืนทำยังไงดี” นักแสดงคนนี้ตอบกลับว่า “ถือโอกาสให้เป็นวิกฤติครับ ในเมื่อลองแล้ว ก็เป็นประสบการณ์ไปอีกแบบ ถือซะว่าชีวิตนี้คุ้มแล้วครับ ยิ่งเยอะยิ่งเลอะประสบการณ์” และเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2560 เจ้าตัวทวีตข้อความว่า “ใครเป็นคนริเริ่มความหมาย การก้มเก็บสบู่วะ ทุกวันนี้ทำสบู่ตก กูนี่ไม่กล้าก้มเก็บเลย ปล่อย…ละลายแม่น้ำไปเหอะ ลาก่อน”
ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมาก เข้ามาตำหนิเรื่องทัศนคติของ “บิว จักรพันธ์” พร้อมเรียกร้องให้ออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นนักแสดงที่แจ้งเกิดมาจากซีรีส์วาย แต่กลับชอบโพสต์เหยียดเพศ และมีความคิดเชิงลบต่อเรื่อง LGBTQ+ ก่อนที่สุดท้ายเจ้าตัวจะทนกระแสต้านไม่ไหว ออกมาเขียนข้อความขอโทษว่า “จากเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ผมขอโทษจากใจ จากการกระทำความคิดที่คึกคะนอง และส่งผลตามมาในปัจจุบัน ผมได้รับรู้ถึงปัญหาและการตักเตือนจากบริษัท Be on cloud เป็นที่เรียบร้อย” พร้อมกับขอพักงานไปช่วงระยะหนึ่งนั้น
ล่าสุด เรื่องราวของ บิว จักรพันธ์ ก็กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง หลังโลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวจากหญิงสาวรายหนึ่งที่อ้างเคยเป็นอดีตแฟนของบิว ออกมาแฉว่าเคยคบหากับบิวในช่วงที่อยู่กับค่ายต้นสังกัด และในระหว่างคบกันก็มักจะถูกบิว ซ้อม ทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้บอกให้ใครรับรู้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของการโอนเงิน ซื้อของให้ แต่กลับเอาไปใช้ผู้หญิงอีกคน ซึ่งมาจับได้ภายหลังว่าคบซ้อน อีกทั้งยังมีเรื่องพอร์ตซีรีส์ที่เคยคุยกันกับบิว 2 คน (เนื่องจากหญิงสาวรายนี้เป็นนักเขียน) ถูกนำไปเขียนเป็นบทซีรีส์ที่มีนักเขียนเป็นคนอื่น จนชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องราวดังกล่าวว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ก่อนที่เมื่อวาน (21 ม.ค.) บิวได้ออกงานอีเวนต์ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งหลักจากเลิกงานขณะที่พบปะกับแฟนคลับ ตัวเขาเองก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ให้เหล่าแฟนคลับได้ฟังว่า กับหญิงสาวคนดังกล่าวเมื่อก่อนเคยสนิทกัน และมีเวลาที่ดีร่วมกัน แต่ตอนนี้ตนได้ตัดความสัมพันธ์กับเขาไปแล้ว แต่ตนไม่เคยคิดที่จะทำร้ายไม่ว่าจะทางกายหรือจิตใจ ไม่มีใครอยากทำร้าย หรืออยากโดนทำร้ายด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ตนอาจจะเคยทำให้คนอื่นเจ็บปวดไม่ว่าทางไหน หรือทางอื่นก็ตาม แต่ก็อยากจะใช้โอกาสตรงนี้ขอโทษ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ซึ่งหลังจากที่ตนตัดความสัมพันธ์แล้ว ก็เคลียร์ทุกอย่างแล้วก็ลบนไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแชตหรือว่าเรื่องสเตตเมนต์อะไรก็ตาม ทุกอย่างมันจบไปแล้ว
ในส่วนของเรื่องซีรีส์ ตนยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เรื่องอะไรเลย ที่เห็นตนเป็นฝ่ายรับฟังก็จริง แต่ว่าไม่ได้เอาไปบอกใครเลย ตนเก็บมาตลอด และยืนยันว่าพูดเรื่องจริง สุดท้ายถ้าเรื่องต่อไปนี้ทำให้ทุกคนผิดหวังหรือเสียใจ ตนก็ขอโทษ ขอโทษทุกๆ คนที่ตนตั้งใจทำร้ายหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ตนพยายามทำตัวเป็นคนที่ดีขึ้นทุกๆ วัน เพราะรู้ว่ามีคนที่รักและสนับสนุน หลังจากนี้ก็จะเข้มแข็งขึ้นแล้วก็จะยืนได้ด้วยตัวคนเดียว ขอบคุณทุกคนที่รับฟัง
ซึ่งหลังจากบิว ออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าว ทำเอาชาวเน็ตก็ยังคงพูดถึง และวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งจี้ไปทางต้นสังกัดให้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องราวดังกล่าวอย่างชัดๆ อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าล่า หญิงสาวรายดังกล่าวที่อ้างว่าเคยเป็นอดีตแฟนของบิว ก็ได้ออกมาทวีตข้อความเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด โดยระบุข้อความว่า “ก่อนอื่นเลยปอย ต้องขอโทษทุกคน ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง และขอโทษที่ต้องออกมาพูดความจริง ทีแรกปอยยอมที่จะหยุดทุกสิ่งทุกอย่างเพราะปอยทำร้ายเค้าไม่ลง แต่ตอนนี้มันเกินสิ่งที่ปอยจะรับไหว ทำปอยได้ปอยไม่เป็นไร และตอนนี้คนรอบตัวปอยที่ไม่เกี่ยวข้องโดนผลกระทบไปด้วย”
พร้อมกับทวีตภาพประกาศที่มีข้อความว่า “จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นของ นางสาวพรรธน์ชญมน วสุเจริญ เกี่ยวกับประเด็นบทประพันธ์ เรื่อง 4 Minutues ได้มีการพูดคุยสนทนาแชตส่วนตัวกับนาย จักรพันธ์ พุทธา เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ได้ไปสอดคล้องกับซีรีส์เรื่องใหม่ของนายจักรพันธ์ พุทธา ที่ได้รับบทเป็นตัวนำเรื่อง อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ เข้าใจผิด หรือใดๆ ทางเราไม่อาจหาคำตอบได้ นางสาวพรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ มาปรึกษา นายจักรพันธ์ พุทธา และแชตนี้เป็นการพูดคุยระหว่างสองฝ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามรูปภาพที่แนบมา
และประเด็นการทำร้ายร่างกายได้เกิดขึ้นจริงตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา โดยนางสาวพรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ ได้ถูกนายจักรพันธ์ พุทธา เป็นผู้กระทำโดยมีผู้รับรู้เหตุการณ์และพยายามห้ามปามมาโดยตลอด โดยหลักฐานดังกล่าว จะมีรูปภาพ แชตสนทนา พยานบุคคล ปรากฏให้เห็นแนบมากับเอกสารฉบับนี้ ซึ่งแชตสนทนาเป็นแชตระหว่าง นางสาวพรรธน์ชญ์มน วสุเจริญ และ นายจักรพันธ์ พุทธา โดยแท้จริง ขณะนี้ได้มีการฟ้องร้องและเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
แต่ทั้งนี้ นางสาวพรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ ปกป้อง นายจักรพันธ์ พุทธา มาโดยตลอดและดูแลภาพลักษณ์ นายจักรพันธ์ พุทธา ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เนื่องด้วยมีความสัมพันธ์กันเกิดขึ้นโดยทางค่ายต้นสังกัดรับรู้ นางสาวพรรธน์ชญมน ธีวสุจริญ ไม่ออกมากล่าวโทษใด ๆ จนเกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ทั้งยังแตกหักในเรื่องความสัมพันธ์ โดย นายจักรพันธ์ พุทธา คบซ้อนมาโดยตลอดช่วงเวลาที่อยู่กับ นางสาวพรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ โดยบอกว่าเลิกกับอดีตแฟนและมีเพียงนางสาวพรรธน์ชญมน วสุเจริญ แต่เพียงผู้เดียว แต่นางสาวพรรธน์ชญมน ชีวสุเจริญ มาทราบเรื่องเมื่อไม่นานมานี้ว่าทั้งคู่ยังคบหากันอยู่ ทั้งยังนำสิ่งของ รถยนต์ ตลอดจนเรื่องทางการเงินเข้ามาเกี่ยวข้องไปใช้กับผู้อื่น จึงเป็นเหตุให้ต้องเลิกรากันไป
ทาง นางสาวพรรธน์ชญมน ธีวสุจริญ ไม่สามารถติดต่อ นายจักรพันธ์ พุทธา ได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 และก่อนหน้านั้นพยายามให้คนรอบข้างติดต่อมาโดยตลอด จนได้สิ่งของและเงินจำนวนหนึ่งคืนมาบางส่วน และหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย จนมารดาของนางสาวพรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ ได้ทราบความจริงจากการเค้นถามในประเด็นต่างๆ มากมาย จนเป็นเหตุให้ต้องออกมาพูดเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้หญิงโดยไม่ได้ติดใจประเด็นใดๆ นอกจากการทำร้ายร่างกาย
ทั้งนี้ เป็นความผิดของทั้งสองฝ่าย ทั้งตัวนางสาวพรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ ที่ยอมถูกโดนกระทำ โดยไม่ออกมาพูดความจริงใดๆ ซ้ำยังโกหกคนรอบข้างว่าไม่ได้โดนนายจักรพันธ์ พุทธา ทำร้ายมาโดยตลอด เพื่อปกป้อง และหวาดกลัวว่าคนจะมองไม่ดี และขอยืนยันว่าทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น
หลักฐาน พยานบุคคล ได้ถูกนำเข้ากระบวนการทางกฎหมาย เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยตอนนี้ นางสาวพรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ อยู่ภายใต้การดูแลของครอบครัวและคนรอบข้างเป็นอย่างดี ขอบคุณทุกคนที่ยอมรับฟัง และขอยืนยันว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง นางสาวพรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ”
โดยหญิงสาวรายนี้ก็ได้เล่าเรื่องราวผ่านทางทวิตเตอร์อีกมากมาย พร้อมทั้งเปิดแชตที่คุยกับบิวเกี่ยวการทำร้ายร่างกายกันมาตลอด พร้อมหลักฐานการโอนเงิน ซื้อของให้ อีกทั้งยังประเด็นเด็นเรื่องการคบซ้อรด้วย โดยเธอระบุข้อความว่า
“ปอยจำเป็นต้องออกมาเพื่อปกป้องตัวเองและคนรอบตัวของปอย เพื่อไม่ให้มีใครเข้าใจผิด หลักฐานและคำชี้แจงทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ตอนนี้ปอยได้พูดในความจริงหมดแล้ว ไม่ว่าสังคมจะตัดสินหรือลงโทษปอยแบบไหน ปอยก็ยอมรับผลทั้งหมดที่จะตามมา เราต้องปิดบังชื่อพยานเพื่อไม่ให้มีผลต่อรูปคดี หลักฐานเส้นทางทางการเงินจะถูกเปิดเผยทั้งหมดที่ศาล ว่ามีการโอนเข้าไปในบัญชีจริงๆ ทั้งนี้ต้องปิดการเดินรายการอื่นๆ เพื่อไม่ให้ข้อมูลทางการเงินรั่วไหล
ทางบิวได้มีการคืนของบางส่วน เงินจำนวนหนึ่ง และรถกลับมาที่ทางปอยแล้วแต่ ฝากมากับคนรอบข้างโดยไม่ติดต่อหาปอย หรือเผชิญหน้ากับปอย ปอยเป็นคนบอกเองว่าขอคืนเงินส่วนนึงเพราะตอนนั้นยังเห็นว่าเรายังมีความสัมพันธ์ที่ดี และยังไม่เกิดเรื่องวุ่นวายมากมายขนาดนี้ ปอยพยายามติดต่อบิว ทั้งไลน์ เบอร์ ต่างๆ ตลอดจนคนรอบข้าง เพื่อให้มาเครียร์ประเด็นทั้งหมดที่เกิดขึ้น หลังจากเกิดกระแสเรื่องรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ บิวได้ติดต่อปอยดังภาพ และพยายามปรับความเข้าใจกัน
จนเมื่อวานช่วงเย็นที่ผ่านมาเราได้รับทราบมาจากบุคคลที่เป็นอดีตแฟนของบิว แล้วบิวได้ยืนยันกับทางปอยหนักแน่นว่าเลิกรากันไปนานแล้ว แล้วปอยพยายามเครียร์กับบิวอีกครั้งเพื่อถามความจริงแต่ติดต่อบิวไม่ได้ ทีแรกปอยพร้อมหยุดทุกอย่าง ยอมโดนสังคมประนามเพียงคนเดียวเพราะปอยเห็นเค้าพังทลายไม่ได้ แต่เมื่อทราบความจริงต่างๆตลอดระยะเวลาที่เกิดขึ้นการนำรถไปใช้กับอดีตแฟนซึ่งเป็นการหักหลัง ทำร้ายจิตใจปอยอย่างรุนแรงรวมถึงคนรอบข้างได้รับผลกระทบทั้งๆที่ควรเป็นปอยคนเดียวที่ต้องรับผลที่มันจะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภายหหลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปเป็นสาธารณะ ต่างก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหลากหลาย..