จัดเป็นอีกหนึ่งคู่รักที่หลายคนชื่นชอบหนักมากสำหรับคู่ของสาว จ๊ะจ๋า พริมรตา และหนุ่ม จิ๊บ วสุ ที่ล่าสุดควงแขนกันมาพูดคุยที่รายการ Woody Show พร้อมเล่าถึงสถานะใหม่หลังเหินฟ้าวิวาห์หรู และเปิดหมดเปลือกเรื่องการใช้ชีวิตของคู่ที่ต่างขั้วแต่ลงตัวสุดๆ และเรื่องที่แสนจะหนักใจในการปั๊มทายาทแบบเต็มๆ

จ๊ะจ๋า เผยว่า “หลังแต่งงานแล้ว จ๊ะจ๋าฮุบทุกอย่างของพี่จิ๊บมันเป็นเรื่องจริงค่ะ (หัวเราะ) ทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ยึดหมด ไม่มีชีวิต เช่น บ้าน สวน รถ ต่างๆ นานา เขามีรถโบราณเยอะ ก็ค่อยเอามาขับช่วยดูแล มุมต่างๆ ของบ้านจ๋าก็เอามาถ่ายรูป ฮุบแม่เขาด้วย เป็นแม่ของจ๋าเรียบร้อย เวลาพี่จิ๊บออกไปตีเทนนีสตอนบ่ายๆ จ๋าก็จะหันมาดูในบ้านหลังนี้ มีเรา มีแม่เขา มีพ่อบ้านของเขา มีแม่บ้านของเขา นี่บ้านของเขา ทั้งหมดนี่มันคือของเราหมดแล้วนี่ เขาไม่ต้องกลับมาก็ได้นี่ เป็นเจ้าของเต็มที่ รู้สึกสบายใจ เทคนิกกระชับรักคือ เวลาเราทะเลาะกัน ส่วนใหญ่เมื่อก่อนมันต้องพูด จากที่เราได้ศึกษากันมาหลายทางแล้ว การพูดปัญหาออกมาในตอนนั้นยิ่งทำให้ปัญหามันแย่ลง แต่ตอนนี้ยังพูดไม่จบพี่จิ๊บมากอดแล้ว อะไรพูดกับพี่เบาๆ เสียงเบาๆ มีอะไรบอกพี่ จากที่จะโกรธลดลง แล้วก็ค่อยๆ บอกเขา เขาจะมีเทคนิคอันหนึ่ง ทุกวันเลยเขาจะถามจ๋าว่า วันนี้เป็นยังไงบ้าง จ๊ะจ๋ามีความสุขไหม วันนี้จ๊ะจ๋ารักพี่มากขึ้นหรือเปล่า ในทุกวัน “

“ปัญหาเรื่องมีทายาท ปัญญาส่วนใหญ่คือเวลาค่ะ จ๋าอยากมีลูกมากพี่วู้ดดี้ จ๋าชอบเด็กและก็มั่นใจว่า จ๋าจะสามารถทุ่มเทเวลาเพื่อจะเลี้ยงคนๆ หนึ่งได้เต็มที่แน่นอน โดยที่จ๋าไม่บกพร่องต่อการเป็นภรรยา แต่ปัญหาคือว่าเวลาเราไม่ตรงกันเลย ไม่ใช่ว่างานยุ่งนะคะ แต่ว่ากลางคืนเขาไม่นอน จ๋านอนกลางคืน เพราะต้องทำงานกลางวัน แล้วจ๋าก็จะเหนื่อยมากช่วงเวลา 4-5 ทุ่มเราก็จะง่วงมากแล้ว แต่เขาทำโน้นทำนี่ต้องรอเที่ยงคืนส่งสวัสดีวันพุธไปหาเพื่อน มีข่าวสารมาทางไลน์ต้องอัพเดท ก่อนส่งเราก็ต้องไปเช็กก่อนว่าข่าวนี้ชัวร์หรือมั่ว แล้วค่อยส่งไป กลุ่มนี้ยังไม่นอน ส่งกลับมาคุยกัน ตี 5 บางวันจ๋าตื่นมา 7 โมงเช้า ฮัลโหล! ทำไมวันนี้ภรรยาพี่สวยจังเลย เดี๋ยวนะทำไมสดชื่นจังอ่ะ อ่อ ตอบไลน์อยู่เนี้ยมาดูสิ คนละ Time zone มาก ทำการบ้านไม่ได้ค่ะ ถ้าจะทำการบ้านต้องหาเรื่องทะเลาะอ่ะคะ (หัวเราะ) คือปัญหานี่ไม่ใช่ของจ๋าคนเดียวนะ คุณแม่บอกมีลูกให้แม่สักทีสิ อยากเป็นย่าแล้ว จิ๊บช่วยมีลูกหน่อยสิ คุณแม่บอกเสมอค่ะ”

จิ๊บ เผยว่า “คำว่าฮุบทั้งหมดมันคือเรื่องปลายเหตุ ต้นเหตุคือถ้าฮุบหัวใจกันมาตั้งแต่แรกไม่ได้ สิ่งนี้ก็ไม่เกิดขึ้น ถามว่าเรารักกันมามีทะเลาะกันไหม เอาเป็นว่า ทะเลาะกันแบบมีพัฒนาการ ในสิ่งที่เป็นเรื่องหลักๆ เรื่องใหญ่ๆ ที่ต้องขยับปรับเปลี่ยนให้ลงตัว มันก็มีช่วงนั้นผ่านมา จนกระทั่งเราเข้าใจกันได้ในระดับหนึ่ง เรื่องที่มีความเห็นแย้งเรื่องปกติของทุกคู่ต้องมี สัพเพเหระประจำวันเพียงแต่ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ละเอียดมากขึ้น และอยู่ในพื้นฐานความเข้าใจ ที่ละเอียดอ่อนกันได้มากขึ้น ปัจจุบันก็จะเป็นเรื่องจุกๆ จิกๆ ตามประสาคนที่อยู่ครอบครัวเดียวกันวิธีการทะเลาะก็เปลี่ยนไปสร้างสรรค์ขึ้น สมัยก่อน Talk to my hand สมัยนี้ขึ้นเสียงเหรอ เข้าห้องปิดประตูจบ ไปปรับทัศนคติ”

“ไม่ได้พูดเพื่อที่จะเอาใจไปเรื่อยเปื่อย เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกว่าทุกอย่างมันลงตัว เลิศเลอเพอร์เฟกต์ดีหมดทุกอย่างแล้ว อย่าประมาทโดยเด็ดขาด มันจะเหมือนกับรถหนึ่งคันเราซื้อมาใหม่เอี่ยมเลย ขับนิ่งเบาสบายแอร์เย็น แต่เมื่อไหร่ก็ตามถ้าเราไม่ใส่ใจ ไม่เช็กระยะไม่ดูน้ำมัน เป็นอันแน่ใจได้เลยว่าสักวันหนึ่งถ้าหากเราปล่อยไปเรื่อยๆ วันหนึ่งอาจจะพังพินาศเสียกลางทางที่ไหนก็ได้ ฉะนั้นสำหรับผมเองถือเป็นหลักเลยว่า ในเมื่อเราได้สิ่งที่ดีที่สุดมาอยู่กับตัวเรายากแล้ว แต่จะดูแลรักษาให้มีความสุขกายสุขใจได้ทั้งร่างกายและจิตใจทุกวันมันยากกว่า”