ห่างหายจากหน้าจอโทรทัศน์และงานบันเทิงไปนานพอสมควรสำหรับหนุ่ม ปั้นจั่น-ปรมะ ที่ก่อนหน้าเจอดราม่าหนัก ไม่ว่าจะทำอะไรก็ถูกวิจารณ์ไปหมด ล่าสุดหนุ่มปั้นจั่นออกมาอัพเดทเรื่องราวของตนเองว่าตนเป็นโรคซึมเศร้าและกินยารักษามานานกว่า 2 ปีแล้วผ่านรายการแฉ โดยเล่าว่า “จริงๆอาการซึมเศร้ามันค่อยๆสะสมมา ซึ่งตนเองไม่เคยเจอกระแสดราม่าหนักขนาดนี้ ยอมรับช่วงนั้นจิตตก จนถึงขั้นไม่อยากทำงาน ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากพูดกับใคร แค่อยากอยู่แต่ในห้องนอน ปิดไฟ และปิดผ้าม่าน จนคุณแม่เป็นห่วงมาก ท่านสั่งไม่ให้ล็อกห้องและเก็บกุญแจห้องไว้ ซึ่งทุกครั้งที่ออกมาจากบ้านไปทำงาน จะเป็นอีกคนหนึ่งที่ร่าเริง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พออยู่คนเดียวก็เงียบๆ และนิ่งๆ ส่วนเรื่องดราม่านั้นความจริงมันเป็นความเข้าใจผิดเรื่องการสื่อสาร แล้วทำให้เรื่องบานปลายไปใหญ่โต ซึ่งส่วนตัวเป็นคนแคร์ความรู้สึกของคนอื่น ที่ไม่เคยไปมองว่า ใครสูงหรือใครต่ำ แต่มาโดนคอมเมนต์ต่อว่า ไม่แคร์คนอื่น จึงทำให้รู้สึกนอยด์และเสียใจ”
“จะว่าไปเรื่องของผมก็ถือเป็นเคสแรกๆของวงการบันเทิงที่เกิดกระแสดราม่า ยอมรับว่าผมอยากแก้ตัว ถึงขั้นไปปรึกษากับผู้จัดการเขาก็แนะนำว่าอย่าไปพูดแก้ตัวเลย ยิ่งพูดต่อจะทำให้ต่อความยาวสาวความยืด แต่ถ้ามองในมุมกลับกัน ก็ไม่มีโอกาสแก้ต่างให้ตนเองเลย โดยตอนนั้นเลือกจะนิ่งเฉย แล้วปล่อยให้กาลเวลาตอบไปเองว่าเป็นยังไง แต่สิ่งนี้กลับกลายมาทำร้ายจิตใจของตนเองตลอดเวลา มีครั้งหนึ่ง ต้องจ่ายค่าทางด่วน แต่ไม่กล้ามองหน้าคนเก็บเงิน เพราะ รู้สึกนอยด์กับคนรอบข้างว่า จะมองตนเองไม่ดีไปหมดหรือเปล่า รวมถึงไม่อยากออกไปไหน เก็บตัวอยู่กับบ้านถ้าไม่มีงาน และอยากนอนตลอดเวลา จนในที่สุดต้องปรึกษาแพทย์ ทุกวันนี้ ยอมรับว่าต้องกินยาโรคซึมเศร้าอยู่ ซึ่งเป็นตัวยาที่จะทำให้ไม่ร่าเริงสุด หรือ เศร้าสุด แต่จะมีเอฟเฟ็กซ์คือ อาจทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เพราะยาจะไปกดความอารมณ์และรู้สึก”
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม @punjanprama