จัดเป็นอีกหนึ่งสาวแซ่บสุดมั่น ติช่า กันติชา ที่วันนี้จะมาขอย้อนเล่าว่ากว่าชีวิตจะมาถึงวันนี้ต้องประหยัดถึงขั้นสุด อดมื้อกินมื้อเพราะถือคติคนจนต้องไม่อาย แถมเปิดใจเคยโดนบูลลี่มาทั้งชีวิต พร้อมเคลียร์ดราม่าทำตัวไม่เหมาะสมชอบพูดเรื่องบนเตียงผ่านทางรายการคุยแซ่บ show แบบชัดเจนอีกด้วย
ติช่า เผยว่า “เรื่องแฟนคนนี้เจอกันจากการที่เขาคนนี้เป็นเพื่อนของเพื่อนอีกที ไปเจอกันที่เล่นโบว์ลิ่ง แล้วเราก็จีบกัน แล้วได้เป็นแฟนกัน เอาจริงๆ หนูเป็นคนที่ค่อนข้างชัดเจน ตรงที่ว่าชอบใครไม่แอบนะคะ คนนี้คบมา 2 ปีแล้ว หนูว่ามันธรรมดาด้วยซ้ำถ้าคบแฟนห่างกัน 5 ปี 10 ปี ตัวช่าเองแต่ก่อนคบคนที่อายุห่างกันแค่ปีเดียวเอง ครั้งนี้ 5 ปีของหนูคือเป็นอายุที่ห่างที่สุด พอหนูเจอคนที่เขาเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เราก็มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เขาเองไม่เล่นโซเชียลเลย เอาจริงๆ หนูแอบดีใจ เพราะมันเป็นฟิลแต่ก่อนแฟนเราฟอลโลว์ใคร ไลฟ์รูปบิกินี เราก็นิดนึงละ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีปัญหานี่เลย เขาเป็นคนมั่นใจจริงๆ นะ แต่ว่าไม่อยากอยู่ในกล้อง ไม่อยากอยู่ในสตอรี่อะไรขนาดนั้น แฟนคนนี้พิเศษตรงที่เขาใหญ่สุด ตัวเขาใหญ่สุด เขาสูงตั้ง 193 ก็สูงใหญ่”
“เราเองก็มีทะเลาะบ้าง เพราะหนูเป็นคนชอบสีสัน แต่ว่าเราเถียงกันแบบมีหลักการ เขาเป็นคนที่ตื่นมาทุกวันแล้วนั่งสมาธิ แล้วทุกอย่างใช้เหตุ ใช้ผล แล้วมันทำให้หนูรู้สึกโตขึ้น ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนที่เราเป็น ที่ไม่มองหนุ่มไทย หนูมีสาเหตุ หนูไม่ได้ไทค์คนไทยขนาดนั้น กับฝรั่งเข้ามาหามันแตกต่างกัน ฝรั่งมันชัดเจน คนไทยจะแบบกินข้าวหรือยัง นอนหรือยัง แต่หนูไม่เก็ท หนูบอกเลยนะถ้าหนูโสดอีกรอบ หนูจะลองไทยแลนด์ จะได้รู้กันไปเลยว่าเป็นยังไง มีหลายคนบอกหนูว่ามันก็มีแซ่บอยู่นะ”
“เรื่องคอมเมนต์หยาบคาย ตอนที่โดนครั้งแรกในชีวิตคือรายการที่ช่าเคยอยู่ แล้วนั่นเป็นครั้งแรก คนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเราเยอะขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เคยเจอ แต่ก่อนอยู่อีกโลกนึงไปเลย ก็เลยเหมือนสร้างภูมิคุ้มกันให้เราตั้งแต่ตอนนั้น แล้วตอนนั้นจะเป็นโมเมนต์เขาไม่รู้จักเรา แล้วเขาชอบคอมเมนต์ว่ายูไม่สวย เตี้ยเกินไปมาเป็นนางแบบได้ยังไง ออกไป คือด่าเราสารพัด เรารู้สึกว่าทำไมเขาโกรธเราจังเลย มันก็เลยทำให้เรามานั่งคิดอีกทีว่า โอเค ต่อไปนี้จะทำยังไงต่อ ถ้าเรายังอยากอยู่ที่นี่ เราไม่แฮปปี้ถ้าเราอ่านแบบนี้ทุกวันแล้วมานั่งเสียใจ เราเลยมองมันว่าถ้าเกิดอะไรที่เป็นการติ แล้วไม่ทำให้ช่าก่อนะไม่ฟัง ไม่ดูเลย ทุกวันนี้มีภูมิคุ้มกันแล้ว ถามว่ามีโมเมนต์ที่เศร้าไหม เคยมี คอมเมนต์ว่าเราเป็นคนยังไงมันจะเฮิร์ตมากกว่าที่เขามาด่าเราเรื่องหน้าตาหรือส่วนภายนอก”
ติช่า เล่าต่อว่า “เรื่องจัดการคนบูลลี่คือแต่ก่อนเข้ามา ใครฟาดมา ติช่าฟาดกลับ เพราะรู้สึกว่าเราสะใจได้ด่าเขากลับ แต่ทุกวันนี้โอมายก๊อดหรือว่าฉันโตขึ้นหรืออะไรก็แล้วแต่หนูไปเจอคนๆ นึง เขาบอกติช่าว่าเธอรู้ไหม ส่วนนึงของการเป็นผู้ใหญ่ คือไม่ได้ปล่อยให้คนอื่นมาดีไฟล์เราหรือมาอธิบายตัวตนของเรา เรารู้ตัวเองอันนั้นดีที่สุด หนูก็แบบจริง ถ้าหนูนั่งตอบทุกคน เอาเวลาไปทำอะไรที่มีความสุขกับตัวเอง ไปพัฒนาตัวเองดีกว่า เพราะถ้าต้องมานั่งตอบ หรือนั่งฟาดทุกคนเนี่ย มันก็จะเสียเวลามากเลย แล้วเขาไม่ได้มาด้วยความหวังดี”
“อย่างเรื่องที่หนูเป็นคนเปิดเผยเรื่องบนเตียง ถ้าตามไปดู อาจจะมีคอนเทนต์ที่คนถามแล้วหนูตอบ ส่วนมากในสื่อมีเดียของเราเอง อินสตาแกรมของเราก็ไม่ได้พูดเรื่องแบบนี้ตลอดเวลา ตัวหนูอยากพูดเรื่องนี้ให้มากขึ้น เอาจริงๆ ไม่ได้อยากพูดเชิงลามกเลย แต่อยากจะพูดเชิงเพศศึกษา คือในประเทศเราก็มีปัญหาอะไรบางอย่าง ที่คนยังไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ หนูคิดว่าคนที่รู้เรื่องนี้มากกว่าสิทธิเสี่ยงเขาจะน้อยลง หนูคิดว่าถ้าเราคุยในเชิงนี้แล้วเราจะเสนอยังไงไม่ให้ไปในเชิงอนาจารลามก ถ้าเกิดติช่าทำได้ 2 อย่างนี้มารวมกันหนูว่าเป็นอะไรที่ดีนะ อยากทำยูทูบช่องเพศศึกษา ก็เป็นช่องยูทูบของเราเองที่กำลังทำอยู่ น่าจะได้ดูกันเร็วๆ นี้ ไม่เกินเดือนนึง อย่างเรื่องวันไนต์สแตนด์อันนี้ขอพูดในมุมของติช่าเอง ตัวช่าเองมองว่า วันไนต์สแตนด์มันเกิดขึ้นได้ มันไม่ได้แปลก ยิ่งสมัยนี้ ด้วยการที่เรามีแอพพลิเคชั่นต่างๆ มันช่วยเพิ่มวันไนต์สแตนด์ได้เยอะมาก คนเรามีมุมมองที่แตกต่างจากแต่ก่อน คนก็เลยมีวันไนต์สแตนด์เพิ่มมากขึ้น ตัวช่าเองคิดว่าวันไนต์สแตนด์ถ้าคุณอยากมี คุณมีได้ แต่ช่าคิดว่าถ้ามีไปเรื่อยๆ มันไม่ได้ดีต่อจิตนะ”
“ส่วนเรื่องผู้หญิงเป็นตัวเลือกของผู้ชาย อันนั้นหนูอยากเปลี่ยนด้วย หนูว่ามันมาตั้งแต่สมัยอยู่ในถ้ำแล้ว ฟิลแบบผู้ชายนำทุกอย่างมาตั้งนานแล้ว ผู้หญิงเป็นซัพพอร์ต ซึ่งเดี๋ยวนี้ด้วยความที่เรามีการศึกษา ทุกอย่างทันเปลี่ยนไปแล้ว ผู้หญิงมีหน้าที่การงานที่ดีขึ้น มีอะไรที่สามารถดูแลตัวเองได้มากขึ้น สมัยก่อนผู้ชายเป็นคนที่คอยค้ำจุนครอบครัว ผู้หญิงคอยอยู่บ้าน แต่ทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่อยากเป็นตัวเลือก เราต้องคิดว่าเรามีคุณค่าในตัวเองนะ เราก็เลือกได้ เราควรเลือกกันและกัน คอมเมนต์แรงๆ มาหลายรอบ เราเคยเอาคอมเมนต์เหล่านั้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างไหม” แล้วเราอยากจะบอกอะไรกับคนที่คอมเมนต์เราแรงๆ คอมเมนต์ที่ได้มันมีทั้งดีและไม่ดี ต่อให้ช่าเป็นใคร มันก็มีทั้งบวกและลบ มีทั้งดีและไม่ดีในแต่ละวัน แล้วคอมเมนต์บางอย่างพอเราฟังละเราติดตรงนี้ สมมุติว่าเขาบอกเราไม่สวย ฉันไม่ชอบเลย เราก็จะมาดูก่อนว่าเป็นอะไรที่เราปรับปรุงได้ไหม ถ้าเกิดปรับปรุงได้ก็ปรับปรุงนะ แต่ถ้าปรับปรุงไม่ได้ มันก็ทำอะไรไม่ได้”