ถือเป็นการพลิกบทครั้งใหญ่ สำหรับนางเอกสาว นาว-ทิสานาฏ ศรศึก ที่มารับบทหวือหวา อย่าง “เมขลา” ในละครดราม่าลึกลับ สุดแซ่บระดับตำนาน “แม่เบี้ย” ทางช่อง 7HD ของผู้จัด เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร แห่ง เอ.แอ็คท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ประกบคู่หนุ่ม เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ ซึ่งหลังจากออนแอร์ไป ก็กวาดเสียงชมมากมาย ทั้งเรื่องของซีจี รวมไปถึงความสวยปัง และฝีมือการแสดงของนางเอก วันนี้ “ดาวต่างมุม” จึงไม่รอช้า ขอพาไปพูดคุยกับสาวนาว ถึงการก้าวออกจากเซฟโซน พร้อมพิสูจน์ฝีมือในบทสุดแซ่บครั้งนี้  พร้อมอัพเดทความรักกับหนุ่ม นิว-วงศกร ปรมัตถากร ถึงแพลนวิวาห์ หลังคบหาดูใจมากว่า 8 ปีด้วย

Q : ทำไม่ตัดสินใจรับบท “เมขลา” ที่ค่อนข้างหวือหวา?

นาว : นาวอยากลองเปลี่ยนบทบาทดูบ้าง หลังจากที่ทุกคนได้เห็นเรารับแต่บทเรียบร้อย เจ้าน้ำตา ถูกรังแก และอยากใส่สไบ และถ้าเราเปลี่ยนคาแรกเตอร์มาเป็นแบบนี้ ตัวเราเองจะทำได้รึเปล่า ซึ่งการเตรียมตัวมารับบทนี้ จากที่อ่านบท มันไม่ได้ไปแนวเซ็กซี่มากขนาดนั้น ตามที่นาวเข้าใจในตอนแรกละครเรื่องนี้มันต้องเซ็กซี่มาก ๆ พอเราได้อ่านบท มันมีความดราม่าค่อนข้างลึกสุด ๆ ดังนั้นการเตรียมของนาวจะไปในแง่ของการตีความตัวละครในด้านอารมณ์มากกว่าค่ะ

Q :  “แม่เบี้ย” เวอร์ชั่น 2021 นี้ ตีความยังไง เหมือนหรือต่างจากเวอร์ชั่นก่อน ๆ แค่ไหน?

นาว : ด้วยความที่มันเป็นละคร มันจะสามารถเล่าได้เยอะมากขึ้น เรื่องนี้จะมีพาร์ทอดีต จนถึงปัจจุบัน จะเล่าสลับกันไปมา หลายคนก็จะมองว่า ‘คุณ’ คืออะไร หวงนางเอกรึเปล่า เป็นแฟนกับนางเอกรึเปล่า ทุกคนจะไม่เข้าใจว่า ‘คุณ’ คืออะไร และทำหน้าที่อะไร แต่ว่าเวอร์ชั่นนี้เราจะเล่าที่มาที่ไปของ ‘คุณ’ ของคุณด้วย ว่าเป็นยังไง

Q :  ในส่วนของ “เมขลา” ในยุคของ 2021 นี้ มีความแตกต่างจากเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้มั้ย?

นาว :  เวอร์ชั่นก่อน ๆ นาวยังไม่ทราบลึกซึ้งว่าเขาเป็นยังไงนะคะ เราเลยจะตีความในเวอร์ชั่นของตัวเอง บวกถามพี่ผิน เกรียงไกรสกุล  ผู้กำกับ นาวมอกว่าตัว ‘เมขลา’  เป็นคนที่ยึดมั่น ถือมั่นในเรื่องความรักมาก ๆ แม้ว่ามันจะผิดศีลธรรม เดินออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง แต่เขาก็มีความซื่อตรงในเรื่องของความรักของเขา หลายครั้งที่ยอมถอย ยอมแพ้ ยอมเลิกรักผู้ชายคนนี้แล้ว แต่มันก็มีเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้เขาหยุดคิดถึงไม่ได้ ต้องลองติดตามกันค่ะ ส่วนความยากในการถ่ายทอดบท ‘เมขลา’ นาวมองว่ามันเป็นเรื่องของการที่คุยกับซีจีมากกว่า นาวไม่ได้เข้าฉากกับงูจริง เพราะงูจริงตัวเล็ก ความคิดของละครเรื่องนี้งูค่อนข้างตัวใหญ่นิดนึง มีอำนาจใหญ่กว่าปกติ เราต้องจำบล็อกกิ้งเขา ว่าเลื้อยไปทางไหนบ้าง บทพูดต้องพูดคนเดียว เพราะ ‘คุณ’ ไม่สามารถพูดตอบโต้ได้ และบทยาวอ่าน อ่านแล้วเครียดว่าจะจำได้มั้ย (ยิ้ม)

Q :  เห็นไม่มีฉากขูดมะพร้าวในตำนาน?

นาว :  การขูดมะพร้าวเป็นซิกเนเจอร์ของพี่มะหมี่ นภคปภา นาคประสิทธิ์ ในเวอร์ชั่นนี้จะเปลี่ยนมานวดแป้งแทน ให้คนจำเป็นนาวกับพี่เอสแทนค่ะ

Q : การถ่ายทำกับ “เอส” เป็นยังไงบ้าง เห็นมีฉากเลิฟซีนเยอะ?

นาว :  สนุกมากค่ะ ยิ่งฉากเลิฟซีนนาวกับพี่เอสจะคุยตกลงกันว่า ถ้าเราเกรงใจกันเล่นให้เต็มที่เลยในเทคแรก นาวเข้าใจพี่เอสอาจเกรงใจเรา เราเป็นผู้หญิง นาวก็จะบอกว่าพี่เอสว่าโอเค เต็มที่ได้เลย จะได้ผ่านไปไว ๆ และก็ฝากขอโทษแฟนพี่ด้วยนะ (หัวเราะ) ส่วนพี่เอสก็บอกว่าฝากบอกพี่นิวด้วยนะ

Q : แล้วพอ “นิว” รู้ว่าต้องมารับบทเป็น “เมขลา” มีฟีดแบ๊กยังไง?

นาว :  เวลาที่หนูถ่ายแต่ละฉากเสร็จก็จะมานั่งเช็กเทป และอัดคลิปไว้ว่าอารมณ์นี้เป็นแบบนี้ ถ่ายครั้งต่อไปจะได้ต่อเนื่องได้ และฉากเลิฟซีนเราก็จะส่งให้พี่เขาดูก่อน (ยิ้ม) ไม่ให้พี่เขาตกใจให้เขาเห็นจากเรา ว่าเราเป็นคนส่งให้

Q : บทใน “แม่เบี้ย” ค่อนข้างหวือหวา มีลิมิตในการเล่นเลิฟซีนแค่ไหน?

นาว :  ทางทีมเขาจะมีสแตนด์อินให้ เวลาที่ต้องเห็นทั้งหลัง นาวก็ไม่ถอดทั้งหมดอยู่แล้ว ก็จะเล่นในส่วนเลิฟซีน การที่ถอดทั้งหมดจะเป็นสแตนด์อิน ต้องขอบคุณสแตนด์อินด้วย ที่มาช่วยทำให้ละครสมบูรณ์ค่ะ

Q :  สำหรับงู ‘คุณ’ ในมุมมองของเรา คืออะไร?

นาว :  สำหรับนาวคือผู้ใหญ่ค่ะ เวลาที่ลูกหลานทำผิด คุณพ่อคุณแม่ก็จะมาเตือน อันนี้ก็เหมือนกัน เวลาที่เราผิดทาง เขาก็จะมาเตือนเราว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะ คนอย่าไปยุ่งนะ แค่เขาพูดไม่ได้

Q :  คาดหวังกับการแสดงครั้งนี้แค่ไหน อยากให้คนมีภาพจำ “เมขลา” ในเวอร์ชั่นของ ‘นาว’ ยังไง?

นาว :  จริง ๆ ก็อยากให้คนลองเปลี่ยนความคิดว่านาวเซ็กซี่ไม่ได้ เล่นแนวนี้ไม่ได้ ก่อนหน้านี้มันก็มีมาบ้าง แต่พอภาพบวงสรวงที่ออกไป ก็มีคนเปลี่ยนมุมมองว่านาวก็ลุคนี้ได้อยู่ ก็อยากให้มาติดตามในละครว่าเราเต็มที่ขนาดไหน ส่วนตัวละคร ‘เมขลา’ เขาจะสอนให้เห็นในเรื่องของผิดชอบชั่วดี ความเดินในทางผิดศีลธรรม เขาสามารถเป็นคนถ่ายทอดความรู้สึกเหล่านี้ ให้กับคนดูได้

Q :  อยากให้คนที่ดูได้ข้อคิดอะไรกลับออกไปบ้าง?

นาว : นาวมองว่าถ้าเราไม่อยู่ในจุดนั้น เราจะไม่เข้าใจความรู้สึกของเขา เพราะอย่างนาวก็ต้องทำการบ้านว่า การที่เราจะไปแทรกแซงชีวิตครอบครัวของคน ๆ นึงได้ คิดอะไรอยู่ ถ้าเป็นนาว นาวไม่ทำ เราไม่อยากเป็นเบอร์สองของใคร อยากเป็นเบอร์หนึ่ง แต่เราเดินเข้าไปแล้ว เราต้องคิดแล้วว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันถูกต้องรึเปล่า แล้วถ้าเราทำต่อไป เรามีความสุขรึเปล่า การที่เราไปแย่งของเขามา มันใช่ความสุขที่แท้จริงของเรารึเปล่า มันจะสะท้อนให้คนที่อยู่ในเส้นทางนี้ ได้ลองคิดดูค่ะ ต้องเป็นกำลังใจให้นะ เพราะว่านาวก็ไม่อยากบอกว่าเป็นอะไรที่ผิด เพราะนาวก็เข้าใจตัว ‘เมขลา’ เขารักมาก ๆ เพราเราเล่นเป็นเขา แต่ถ้าเป็น นาว-ทิสานาฏ จริง ๆ นาวจะไม่ทำค่ะ

Q :  อยู่ในวงการ 13 ปีแล้ว คิดว่าตัวเองเติบโตขึ้นในด้านไหนเป็นพิเศษ ที่รู้สึกว่าต่างจากวันแรกที่เข้ามา?

นาว :  นาวก็ยังเหมือนเดิม แต่แค่รู้สึกว่าสนุกกับงานมากขึ้น และอยากลองอะไรใหม่ ๆ มากขึ้น อย่างบทบาทเรื่องนี้ ก็เป็นอะไรสมควรเวลาที่เราจะลองแล้ว ลองท้าทายฝีมือตัวเองก็ดี ส่วนเรื่องวิธีเลือกบทบาทการแสดงในตอนนี้ จากวันแรก ๆ ก็ไม่ได้คิดมากเรื่องบท ว่าจะรับหรือไม่ แต่พอเรารับมาตลอด บทมันค่อนข้างที่จะเหมือนกัน พีเรียด เรียบร้อย ร้องไห้ จนทำให้มีฟีดแบ็กว่าทำไมนาวเล่นละครเหมือนเดิม ทำไมนาวไม่พัฒนาเลย พอมี ‘แม่เบี้ย’ เราเลยเหมือนเป็นจุดที่เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะลองเปลี่ยน แล้วลองดูนะว่าฉันเปลี่ยนได้มั้ย

Q :  ยากมั้ยพอก้าวออกมาจากเซฟโซน เพื่อรับบทใหม่ ๆ?

นาว :  ตัวนาวเองอยากที่ลองอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยได้รับบทที่เป็นแบบนี้ แล้วบทที่ได้รับมาคนก็ติดภาพว่านาวเรียบร้อย ร้องไห้ เจ้าน้ำตา โดนรังแก พอมาได้เล่นเรื่องนี้เลยดีใจมากค่ะ

Q :  การทำงานในยุคโควิด ปรับตัวยังไงบ้าง?

นาว :  ไม่รู้เลยว่าต้องปรับตัวยังไง เพราะไม่ได้เข้าฉากเลย ช่วงที่ถ่ายแม่เบี้ย มันเป็นโควิดระลอกแรก ตอนนั้นก็หยุดกองถ่ายไป  2 เดือน เริ่มที่ก่อนจะหยุดถ่าย 2 เดือน นาวบอกกับพี่เอสว่าเราหยุดจูบกันก่อนดีมั้ย (ยิ้ม) รอให้มันซาก่อนดีมั้ย แล้วเราค่อยกลับมาเลิฟซีน เราก็บอกทีมงาน ทีมงานก็โอเค น้องนาวกับเอสยังไม่ขอเลิฟซีนตอนนี้ ขอพักการจูบไว้ก่อน ก็เข้าฉากอย่างอื่นกันไปก่อน ก็พักกองไป 2 เดือน พอกลับมาอีกครั้งตอนนั้น ตัวเลขก็ลดลงไปแล้ว เราก็กลับมาถ่ายต่อจนจบ ทุกคนก็ปลอดภัยดีค่ะ (ยิ้ม)   

Q :  คำว่า “นักแสดง” ในมุมมองของนาว ณ วันนี้ คืออะไร?

นาว :   นาวมองว่า ‘นักแสดง’ สำหรับตัวนายคือเล่นได้ทุกบท ไม่ว่าจะตลก ไม่ห่วงสวย นาวเป็นคนชอบดูหนังฝรั่งมาก ๆ ที่นาวอยากเล่นเป็นคนโรคจิต เพราะเวลานาวเห็นฝรั่งเล่นเป็นคนโรคจิต แล้วนาวรู้สึกว่าเขาเล่นได้ยังไง คน ๆ นึงจะเข้าฉาก และมีคนอยู่เยอะ ๆ เราสามารถอิมโพรไวซ์ตัวเองแบบนี้ได้ยังไง ฉากเลิฟซีนก็อายนะ ที่ต้องมาเล่นซีนบนเตียง ต่อหน้าทีมงาน พอเราเห็นฝรั่งเขาทำ ก็รู้สึกว่าฉันต้องทำได้ ต้องเล่นแบบนี้ให้ได้ ตัดทุกอย่างออกหมดเลย เลยรู้สึกว่านี่แหละนักแสดง เขาทำได้ ต่อให้เราไม่อยากทำขนาดไหน ก็ต้องทำให้ได้ น้ำในคลองที่เราเห็นเน่า ๆ ไม่อยากลง แต่บทมันต้องลง ก็ต้องทำให้ได้ คือนาวเป็นคนกลัวน้ำ ไม่ชอบน้ำ ไม่ชอบดำน้ำ แต่เรื่อง ‘แม่เบี้ย’ ต้องตกน้ำเยอะ แล้วแบบไม่อยากลงเลย เรากลัว เราแพนิคกับน้ำ รู้สึกว่าหายใจไม่ออก แต่เราต้องทำให้ได้ เพราะเราคือนักแสดง เราเป็น ‘เมขลา’ แล้ว เราต้องอยู่กับเรือ อยู่กับสายน้ำให้ได้

Q :  มีมุมมองการแข่งขันยังไง?

นาว :  นาวไม่ได้มองว่าต้องไปแข่งกับใครนะ นาวคิดว่าในยุคนึง มันก็มีนักแสดงที่เกิดใหม่ตลอดเวลา ตัวเราก็แก่ลง ๆ ไปรับบทพ่อบทแม่อยู่แล้ว ซึ่งมันเป็นวัฏจักรที่เราต้องเจออยู่แล้ว ไม่ได้แข่งกับใครว่าฉันต้องแบบเล่นบทนี้เท่านั้นฉันต้องเป็นเบอร์หนึ่งเท่านั้น อย่างที่บอกนาวเป็นนักแสดง นาวอยากเล่นได้ทุกบทบาท ไม่ได้ยึดคำว่านางเอกเลย ถ้าบทที่เราอ่านแล้วชอบ เราอยากเล่นก็โอเค

Q :  ถามถึงเรื่องรักกับ “นิว” หน่อย คบมา 8 ปีแล้ว ตั้งแต่คบหามา มีอะไรที่รู้สึกประทับใจในตัว “นิว” ที่สุด?

นาว :  เขาเป็นคนที่เหมือนเดิมทุกอย่าง ตั้งแต่แรก ๆ จนถึงวันนี้และสิ่งที่เขาคอยซัพพอร์ตเราในทุกเรื่อง เขาจะให้กำลังใจเราตลอดเวลา ไม่ว่านาวจะทำอะไร พอเราได้ฟังเขา เห็นเขาคอยช่วยเหลือเรา ก็รู้สึกว่ามันเป็นกำลังใจกัน

Q :  ด้วยความที่เป็นคนดัง มีวิธีดูแลความรักยังไง?

นาว :  นาวกับพี่นิวไม่ได้มีความหวือหวามาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เราคบกัน คุยกัน ไม่เคยปิดบัง ไปไหนมาไหนด้วยกันปกติ ตอนนี้คนก็ไม่ได้โฟกัสตรงนั้นแล้ว คนก็มองว่าโอเคเราเป็นแฟนกันคู่นึง ในเรื่องของการคบกัน เราตกลงกันว่าเราคุยได้ทุกเรื่อง เหมือนเป็นเพื่อนค่ะ”

Q :  ด้วยความที่ “นิว” ก็เป็นรุ่นพี่ในวงการ เคยมีเอางานไปปรึกษาเขามั้ยว่าควรรับบทแบบนี้ดีรึเปล่า?

นาว :   เรื่อง ‘แม่เบี้ย’ เลยค่ะ (ยิ้ม) เป็นเรื่องแรกที่ปรึกษาเขาว่าจะรับดีมั้ย ซึ่งพี่เขาบอกมาคำแรกเลยว่า ‘รับเลย’ เพราะเขาจะอยู่กับนาวในทุกอารมณ์อยู่แล้ว เวลาที่นาวรู้สึกท้อ เวลามีคนว่าเล่นละครไม่พัฒนา เล่นแต่บทเดิม ๆ เขาก็บอกว่าบทมันมาแล้ว ลองสิ! ลองเปลี่ยนดูว่าเราทำได้รึเปล่า ไม่ต้องทำให้ใครเห็น ทำให้ตัวเองเห็นนี่แหละว่าเราทำได้ เราก็เลยโอเคตัดสินใจรับ

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

A post shared by Wongsakorn Paramatthakorn (@new_wongsakorn)

Q :  พอดูใจกันมานาน ๆ แบบนี้ มีนิสัยอะไรติดมาจาก “นิว” บ้างมั้ย?

นาว :  เราชอบออกกำลังกายตามเขาไปแล้วค่ะ (ยิ้ม) จากที่เมื่อก่อนไม่ออกกำลังกายเลย เพราะเรารู้สึกว่าเราผอมแล้ว ทำไม่ต้องออกกำลังกาย ไม่ได้อ้วนสักหน่อย สุดท้ายคือพอมันเห็นผลว่า พี่เขาอายุเท่านี้แต่ดูเด็ก เราก็แบบอยากอายุเท่านี้ และดูเด็กให้ได้แบบเขาค่ะ

Q :  ถามเรื่องแต่งงาน มีคิดบ้างรึยัง?          

นาว :  ไม่ได้คุยเลย ยิ่งสถานการณ์แบบนี้ ก็มองเป็นศูนย์ไปเลย สำหรับนาวไม่ได้มีความคิดว่าจะแต่งงานอยู่แล้ว แต่พี่นิว 2-3 ปีแรกที่คบกัน เขาก็มีพูดถึงบ้าง แต่นาวก็จะบอกเขาว่านาวไม่ได้คิดนะ และนาวก็ยังไม่พร้อม เพราะ 2-3 ปีก่อนนั้น นาวอายุ 20 ต้น ๆ เอง นาวก็ยังสนุกกับการทำงานอยู่ ยังไม่พร้อมเท่าไหร่ พอเราคบกันมาเรื่อย ๆ พี่นิวก็ไม่ได้โฟกัสตรงนี้แล้ว เขารู้สึกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันโอเค ถ้ามีการแต่งงานกันเกิดขึ้น ก็คงต้องมาคุยกันอีกทีนึง

 Q :  เราไม่ได้ให้ความสำคัญกับพิธีแต่งงาน จะการันตีความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้ยืนยาว โฟกัสที่ความรักมากกว่า?

นาว :   ใช่ค่ะ แต่ถ้าในเรื่องของความถูกต้องมันก็ต้องมี ถ้าตัวนาวเอง เป็นคนที่ไม่ชอบอยู่บนเวทีแล้วมีคนเยอะ ๆ แบบนั้นมันรู้สึกเขินมากกว่า ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง เป็นคนเขิน ๆ ถ้ามีงานแต่ง คงเป็นแบบเรียบง่าย ซึ่งเรื่องแต่งงานผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายหนูและพี่นิว ก็ไม่มีถามเลยนะคะ ก็ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ท่านคิดยังไง แต่ท่านอาจไม่ได้บอกเรา ถ้าที่สุดแล้ว เขาคงพูดเอง แต่ว่าส่วนตัวทางฝ่ายคุณแม่และคุณพ่อ ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้เลยค่ะ พี่นิวมาบ้านหนูทุกวัน เขาเห็นเราทุกวันอยู่แล้วค่ะ

Q : สุดท้ายอยากบอกอะไรแฟน ๆ บ้าง?

นาว :  ก็ฝากติดตาม ‘แม่เบี้ย’ ด้วยนะคะ ที่สำคัญซีจีคือดีมาก ๆ ‘คุณ’ ดูมีพลังมาก อยากให้ทุกคนติดตาม ช่วงนี้อยู่บ้านด้วย ก็คิดว่าน่าจะได้ดูทีวีกัน ส่วนใครที่กำลังรักษาตัวอยู่ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ เราคนไทยทุกคนตอนนี้ช่วยกันเต็มที่มาก ๆ ทั้งนักแสดง ตัวนาวเอง ก็พยายามช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเต็มที่ที่สุดแล้ว อยากให้ทุกคนสู้กันต่อไป ใครที่มีกำลังทรัพย์ เขาพร้อมที่จะช่วยเหลืออยู่แล้ว กำลังใจตรงนี้เอาไว้ ขอให้สู้กันต่อไป ก็ขอให้โควิดหมดไปไว ๆ ไม่ต้องมีระลอก 4 5 6 ที่แบบมันเกินกำลังมนุษย์คนนึงที่จะอยู่บ้าน อยากให้ทุกอย่างเป็นปกติ รักษาตัวเอง อยากให้ทุกคนปลอดภัยค่ะ

เป็นอีกผลงานที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “นาว” ทำได้ดีเยี่ยม กับบทบาทที่เธอได้ข้ามเซฟโซนของตัวเองออกมา และเธอได้ก้าวมาเป็น “นักแสดง” ที่พร้อมท้าทายฝีมือในทุกบทบาทอย่างแท้จริง ติดตามการพูดคุยของ “นาว” แบบจัดเต็มได้ทางยูทูบช่อง Dailynews Live-TH และเฟซบุ๊ก Dailynews

เรื่อง : วันวิสาข์ ดอกเงิน