เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี ที่มีมิจฉาชีพหลอกเด็กอายุ 15 ปี ให้ลงทุนผ่านเฟซบุ๊ก จนทำให้ผูกคอเสียชีวิต ซึ่งต่อมาเมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินพัวพันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ว่า เรื่องนี้ได้แบ่งมอบงานกันเมื่อวาน (11 ม.ค.) ทั้งในส่วนของกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ และในส่วนของตำรวจภูธรภาค 1 ฝ่ายสืบสวน โดยตอนนี้ได้จับกุมผู้ต้องหาไปแล้วทั้งหมด 5 คน จากการออกหมายจับไป 8 คน ซึ่งพฤติการณ์คือการนำเงินไปหลอกลวง
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ขบวนการสำคัญอยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา เฉพาะการทำผิดในกลุ่มนี้ ส่วนที่ได้มีการจับกุมคือเป็นคนไทยที่ขายบัญชีตนเอง เพื่อที่จะให้ขบวนการของคนจีนที่อยู่ในกัมพูชาใช้บัญชีในการโอนเงิน วันนี้จึงต้องฝากเตือนประชาชนว่าถ้าใครใช้บัญชีม้าหรือขายบัญชีตนเองให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ว่าจะขายเท่าไหร่ ก็จะต้องรับโทษเท่ากัน ดังนั้นวันนี้ที่ออกหมายจับไป 8-9 หมายจะมีการจับกุมทั้งหมด และไล่ต่อไปจนถึงขบวนการที่อยู่ในกัมพูชาด้วย
โปลิศไซเบอร์รวบหนุ่มเมืองคอน เปิดบัญชีม้าร่วมแก๊งหลอกเด็กม.3ผูกคอดับ
รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ในส่วนของกัมพูชานั้น ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ทราบแล้วว่าจุดโอนเงินอยู่ตรงจุดใด เบื้องต้นคืออยู่ที่ปอยเปต และทราบพิกัดของกลุ่มทุนจีนดังกล่าวแล้ว โดยเมื่อวานได้โทรฯ ประสานกับ ผบ.ตร. และรอง ผบ.ตร.ของกัมพูชาแล้ว ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกันทั้งสองประเทศ ในส่วนการดำเนินการฝั่งไทย คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด รวมทั้งร้านรับแลกบิตคอยน์ จะต้องตรวจสอบทั้งหมดว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่ หากเกี่ยวข้องต้องดำเนินคดีด้วย จึงอยากฝากไปยังร้านที่รับแลกบิตคอยน์ว่า ขอให้ตรวจสอบว่าเงินที่นำมาแลกนั้นถูกต้องหรือไม่ ถ้าเป็นเงินที่ไม่ถูกต้องอาจจะได้รับโทษในความผิดอาญาฐานฟอกเงินอีกด้วย.