เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ “odditycentral” รายงานข่าวลงวันที่ 27 ธ.ค. กรณี นายเอ็มซี มูซา ฮาซาห์ยา (Mzee Musa Hasahya) วัย 67 ปี ชาวบ้าน หมู่บ้านลูซากา เล่าว่าตัวเองเกิดในครอบครัวยากจน แต่พยายามสร้างเนื้อสร้างตัวจนได้รับเลือกเป็น “ประธานหมู่บ้าน” ต่อเนื่องหลายสิบปี แถมไปขอลูกสาวบ้านไหนก็ไม่มีใครปฏิเสธ โดยแต่งภรรยาคนแรกเมื่อปี 1971 ขณะที่อายุเพียง 16 ปี จากนั้นก็มีเมียเพิ่มมาเรื่อยๆ จนมากถึง 12 คน โดยให้เหตุผลว่า พ่อของเขามีลูกเพียง 2 คน จึงกลัวว่าจะไม่มีผู้สืบเชื้อสายตระกูล เขาก็เลยตั้งหน้าตั้งตา ทำลูก กระทั่งออกมามากกว่า 100 คน
“พ่อผมที่เสียชีวิตไปแล้วมีภรรยา 2 คน แต่มีลูกแค่ 2 ซึ่งทำให้ตระกูลของเราเสี่ยงที่จะไร้ผู้สืบทอด” เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อ Ugandan Monitor เมื่อเดือนที่แล้ว และยอมรับว่ามีความสุขที่เห็นลูกหลานมากมายเต็มบ้าน ปัจจุบันลูกๆ 1 ใน 3 ยังคงอาศัยอยู่กับเขาและแม่ๆ ที่บ้าน ส่วนที่เหลือย้ายไปประกอบอาชีพที่อื่น และสร้างครอบครัวเป็นของตัวเอง
ฮาซาห์ยา ยังยอมรับว่า จำชื่อลูกไม่ได้ทุกคน และมองว่าการมีภรรยามากเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ชาย โดยภรรยาคนเล็กสุดนั้นมีอายุเพียง 28 ปี อ่อนกว่าลูกคนเล็ก ของเขาถึง 21 ปี แม้จะแบ่งปันเวลา ความรักให้ภรรยาทุกคนเท่าเทียม แต่เขายอมรับว่าชีวิตครอบครัวใหญ่ไม่ได้สมบูรณ์แบบเสียทีเดียว ซึ่งปัญหาหลักๆคือเรื่องของเงิน เนื่องจากเขาไม่สามารถซื้อทุกอย่างให้ตามที่ทุกคนพอใจได้
ปัจจุบัน ฮาซาห์ยา จึงเหลือภรรยาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันเพียงแค่ 6 คน ส่วนอีก 6 คนเก็บข้าวของหนีไปอยู่ที่อื่น และเขายังสั่งให้ภรรยาที่เหลือกินยาคุมกำเนิด เพื่อได้ไม่มีลูกเพิ่มอีก ถึงเป็นความคิดที่ดี เพราะการที่ผู้ชายคนหนึ่งมีลูก 102 คนกับหลานอีก 568 คน ถือว่ามากพอแล้ว
ขอบคุณข้อมูล – ภาพ เว็บไซต์ “odditycentral”