การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ 2022” กลุ่ม A วันที่ 29 ธ.ค. เวลาไทย 16.30 น. “ช้างศึก” ทีมชาติไทย พบ “การูด้า” อินโดนีเซีย ที่สนาม เกโลรา บุง การ์โน หรือ เสนายัน ถ่ายทอดสด MCOT HD กับ ทีสปอร์ตส์

สำหรับ ทีมชาติไทย ผ่านการลงสนาม 2 นัด ถล่ม บรูไน 5-0 และขยี้ ฟิลิปปินส์ 4-0 มี 6 แต้มเต็ม นำจ่าฝูง ยิง 9 ลูก ไม่เสียเลย ส่วน อินโดนีเซีย ของกุนซือ ชิน แต ยัง อยู่ที่ 2 ชนะรวด 2 นัด มี 6 แต้มเท่ากัน จากการชนะ กัมพูชา 2-1 และถล่ม บรูไน 7-0 คู่นี้เจอกันในรอบชิงฯ หนที่แล้ว ไทย คว้าแชมป์ด้วยการ ชนะ 4-0 กับ เสมอ 2-2 ที่สิงคโปร์ ขณะเดียวกัน แฟนบอลอินโดนีเซียซื้อตั๋วเต็มทุกพื้นที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีเชื้อเพลิง มีประเด็นกันมา อันเนื่องจากศึก 19 ปี ชิงแชมป์อาเซียน เมื่อเดือน ก.ค. ที่ชินแตยัง ที่ตอนนั้นลงมาคุมทีมอินโดฯ โวยว่า ไทย กับ เวียดนาม ดึงเสมอเพื่อจูงกันเข้ารอบ เขี่ย เด็กอินโดฯ ตกรอบ

ผู้เล่น 11 คนแรกของไทย ต้องรอเช็กอาการของ “กัปตันอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ที่เจ็บจากเกมกับ ฟิลิปปินส์ คาดว่าไม่มีปัญหา เพราะลงซ้อมปกติ แต่หากยังไม่ฟิต อาจเป็นหน้าที่ “นิว” พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี โดยคาดว่า มาโน โพลกิง จะจัดทัพ ระบบ 4-4-2 ดังนี้ ผู้รักษาประตู กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก, คู่เซ็นเตอร์ พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษดา กาแมน, แบ๊กซ้าย ศศลักษณ์ ไหประโคน, แบ๊กขวา ศุภนันท์ บุรีรัตน์, คู่กลาง ธีราทร บุญมาทัน กับ สารัช อยู่เย็น, ตัวรุกฝั่งซ้าย บดินทร์ ผาลา, ฝั่งขวา เอกนิษฐ์ ปัญญา, กองหน้าคู่ ธีรศิลป์ แดงดา กับ อดิศักดิ์ ไกรษร

สถิติระหว่างทีมชาติไทยกับอินโดนีเซีย ถ้าเฉพาะในศึกชิงแชมป์อาเซียน เจอกัน 14 ครั้ง ไทยชนะ 10 เสมอ 1 และแพ้ 3 ครั้ง ล่าสุดที่เจอกันมาเมื่อหนก่อนในรอบชิงชนะเลิศ ที่ สิงคโปร์ ไทยชนะ 4-0 ก่อนเสมอ 2-2 ส่วนการเยือน เสนายัน ล่าสุดของไทย คือฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เมื่อปี 2019 ไทยบุกชนะ 3-0