เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. ที่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ปกครองของนักเรียนกว่า 50 คน รวมถึง ศิษย์เก่าและนักเรียน ออกมารวมตัวชูป้ายข้อความประท้วงเพื่อขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ หลังจากใช้อำนาจในการสั่งพักงานครูอัตราจ้างอย่างไม่เป็นธรรม จนทำให้ครูต้องขอลาออก
น.ส.ปุ้ย ผู้ปกครองนักเรียน กล่าวว่า ที่มารวมตัวจะมาช่วยกันขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ทำร้ายจิตใจของเด็กด้วยการไล่ครูอัตราจ้าง ที่เป็นครูที่ปรึกษาของเด็กๆ ชั้น ม.2/12 ออก เนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นวันหยุดราชการ ทาง ผอ.โรงเรียนฯ มีคำสั่งให้คุณครูอัตราจ้างเข้ามาแก้เกรด ศูนย์, ร, มส, ให้กับเด็กๆ แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ คุณครูคนดังกล่าวได้นัดพบหมอฟันไว้ ต่อมา ทาง ผอ. จึงมีคำสั่งให้ครูท่านอื่น มาทำหน้าที่แทน เนื่องจากไม่พอใจ ทำให้ครูอัตราจ้างได้ทำบันทึกถึง ผอ. ว่า ไม่สามารถกลับเข้าโรงเรียนได้และพยายามขอพูดคุยกับ ผอ. ว่า จะขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเดิมได้หรือไม่ แต่ก็ไม่มีการตอบรับ แต่เนื่องจากคุณครูอัตราจ้างเป็นลูกจ้างของเขต 2 เมื่อทางเขตรับเรื่องดังกล่าว ทางเขตได้ให้ครูอัตราจ้างกลับมาทำงานได้ตามปกติ
น.ส.ปุ้ย กล่าวอีกว่า จากนั้นเมื่อครูได้กลับมาทำงาน ทาง ผอ. ได้แจ้งว่ามาทำงานได้แต่ไม่ได้ให้ทำหน้าที่อะไร โดยให้มาสแกนหน้าแล้วให้อยู่เฉยๆ ห้ามพูดคุยกับเด็กและห้ามไม่ให้สอน ทำให้ครูเกิดความกดดันว่า มาแล้วทำอะไรไม่ได้ จะพูดคุยกับเด็กก็ไม่ได้ และเด็กนักเรียนห้องนี้มีความผูกพันกับคุณครูอัตราจ้างคนนี้เป็นอย่างมาก เปรียบเสมือนพ่อและลูก จนกระทั่งวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ครูคนดังกล่าวทนแรงกดดันไม่ไหวจึงขอลาออก เมื่อผู้ปกครองทราบเรื่อง ก็รู้สึกเสียใจว่าทำไมครูถึงถูกกลั่นแกล้งแบบนี้ ถ้าปล่อยแบบนี้ ครูทุกคนหากเกิดผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ก็จะถูกไล่ออกตามไปด้วย
นอกจากนี้ทาง ผอ.คนดังกล่าว “มีพฤติกรรมใช้อารมณ์รุนแรงต่อว่าเด็กดูถูกอาชีพเด็ก เช่น เมื่อเด็กบอกว่าอยากขายของ ขายส้มตำ กลับถูก ผอ.พูดว่า หน้าตาแบบนี้ขายได้แค่ส้มตำ เรื่องจริงๆ มีพฤติกรรมอีกหลายอย่าง แต่ทางผู้ปกครองคิดว่าเป็นเรื่องภายในแต่ก็อดทนกันมานานแต่เมื่อมาเจอเรื่องนี้ จึงอยากให้ทาง ผอ.ได้พิจารณาตัวเองเพื่อลาออก และหยุดสร้างความเดือดร้อนโดยอยากให้ย้ายไปที่อื่น” น.ส.ปุ้ย กล่าว
ด้าน นายพงค์ศิริ วนศิรากุล นายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนดังกล่าว กล่าวว่า พวกตนมารวมคนแสดงพลัง โดยมีทั้งผู้ปกครองศิษย์เก่าชุมชนและนักเรียน ว่า เราไม่ต้องการผู้อำนวยการทำหน้าที่นี้อีกต่อไป เหตุผลคือ 1. ใช้อำนาจเกินขอบเขตลุแก่อำนาจ ดูหมิ่นใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับครูหรือบุคลากรทางการศึกษารวมถึงนักเรียนด้วย เช่น เงินค่าเครื่องแต่งกายเงินอุปกรณ์การเรียนที่ทาง ผอ. มีหน้าที่ต้องจ่ายให้กับนักเรียนตามระยะเวลาทั้งเทอม 1 และเทอม 2 ที่จะต้องจ่ายแต่เทอม 2 กลับไม่จ่าย ยึดเก็บไว้ และใช้ดุลพินิจไม่สมเหตุสมผลในการอนุญาตให้ครูลากิจลาป่วย พ่อไม่ให้ลา ได้ใช้อำนาจในฐานะผู้บังคับบัญชาเลิกจ้าง ซึ่งครูมีนัดพบหมอฟันโดยใช้สิทธิการลาถูกต้อง กลับทำให้ครูต้องถูกเลิกจ้างไป
นายพงค์ศิริ กล่าวอีกว่า ส่วนหลักฐานตนมีทั้งคลิปเสียงที่ใช้อารมณ์รวมถึงวิดีโอภาพถ่ายในห้องประชุมที่เด็กๆ นำไปโพสต์ลงในโซเชียล เช่น คลิปเสียงที่ใช้อารมณ์ต่างๆ กับลูกจ้าง ไม่พอใจก็จะไล่ออกและมักพูดเสมอว่า ตนเองเป็นผู้มีอำนาจที่ใหญ่ที่สุดในโรงเรียน แต่ยังไม่พบว่ามีเรื่องของการทำร้ายร่างกาย มีเพียงใช้สิ่งของขว้างปาเมื่อไม่พอใจ
“ทั้งนี้ ตนจะไปยื่นหนังสือขอให้ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนทันที โดยจะไปยื่นกับเลขาฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ โดยนัดพบยื่นที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ในเวลา 09.00 น. และจะเดินทางไปยื่นกับ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร เขต 2 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของโรงเรียนในเขตนี้และจะมีอำนาจในการพิจารณาในเรื่องนี้อีกด้วย” นายพงค์ศิริ กล่าว.