เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 ธ.ค. นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายไพโรจน์ เขียวแก้ว หน.หน่วยป้องกัน และพัฒนาป่าไม้ไทรโยค กจ.1 นายสุพล คำเสนาะ หน.อุทยานฯ ไทรโยค นายกิตติ แสงหล่อ หน.สายตรวจอุทยานฯ พร้อมกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่ป่าสักทอง ตรงข้าม รพ.พระปิยมหาราชรมณียเขต หมู่ 7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีผู้มีอิทธิพลเข้ามาตัดโค่นต้นสักทอง ขนาดใหญ่อายุนับร้อยปี และใช้รถเครนยกไม้ท่อนขึ้นรถบรรทุก 18 ล้อ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย 

กำลังเจ้าหน้าที่ เดินทางเข้าไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ รพ.พระปิยมหาราชรมณียเขต ห่างจากถนนสาย 323 กาญจนบุรี-สังขละบุรี 200 เมตร พบบ้านก่ออิฐถือปูนชั้นเดียว มีรั้วเหล็กด้านหน้า แต่ไม่พบผู้ใด ด้านข้างบ้านและหลังบ้าน พบว่าเป็นดงต้นสักทองขนาดใหญ่ ถูกตัดโค่นลงมาคาตอ กองกับพื้นกระจายทั่วจำนวน 9 ต้น และพบตอต้นสักทองขนาดใหญ่ 2 ตอ ที่ถูกกลุ่มขบวนการตัดไม้ทำลายป่า ตัดโค่นและนำออกไปได้ 2 ต้น 

เจ้าหน้าที่กระจายกำลังเข้าตรวจสอบ บริเวณพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดงไม้สักทองขนาดใหญ่ ห่างจากเขตอุทยานฯไทรโยค 50 เมตร และอยู่ในเขตราชพัสดุแปลงใหญ่ ตาม พ.ร.ฎ. 2481 ในพื้นที่ป่าดังกล่าว เต็มไปด้วยต้นสักทองขนาดใหญ่ ละลานตา แต่ถูกขบวนการมอดไม้ตัดโค่นกระจายเกลื่อน เห็นแล้วเป็นที่น่าเศร้าใจเป็นอย่างยิ่ง พบว่าไม้สักที่ถูกตัดโค่น กิ่งใบยังเต็มต้นทั้ง 9 ต้น ทั้งพบร่องรอยกวาดใบไม้ออกจากโคนต้น เป็นวงกลมเพื่อเตรียมตัดโค่น รวมทั้งยังพบร่องรอยมอดไม้ใช้เลื่อยโซ่ยนต์ ตัดโค่นต้นสักทองไปได้เพียงครึ่งต้น ทั่วบริเวณมีแต่กองขี้เลื่อยกระจายไปทั่ว บริเวณรอบที่เกิดเหตุไม่พบผู้ใด พบร่องรอยรถเครนและรถบรรทุกขนาดใหญ่ เชื่อว่ากลุ่มผู้กระทำผิดใช้รถเครนยกไม้ท่อนขึ้นรถบรรทุก18 ล้อ นำไม้ออกจากป่า หลบหนีไปได้หวุดหวิด ก่อนที่กำลังเจ้าหน้าที่จะไปถึง 

สำหรับไม้สักทองดงใหญ่แห่งนี้ ทราบว่ามีการปลูกไว้ก่อน ปี พ.ศ. 2497 จึงมีขนาดใหญ่ 2-3 คนโอบ มีอายุนับร้อยปี ทำให้นายทุนอิทธิพลกลุ่มขบวนการตัดไม้ทำลายป่า เข้าลักลอบตัดโค่นไม้สักทอง ที่มีราคาสูงเป็นที่ต้องการของตลาด โดยไม้ทั้งหมดที่ถูกตัดโค่น มีมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท 

เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไม้ทั้งหมด พร้อมเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.