กรณีความคืบหน้าการติดตามตัวอีก 1 ผู้ช่วยเหลือนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนชื่อดัง ขณะหลบหนีจากศาลอาญาระหว่างการพิจารณาของศาลฯ หลังจากสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 รายและส่งฝากขังเสร็จสิ้นแล้ว ต่อมาศาลอาญาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเป็นหญิงสาว อีก1 ราย ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขาคนสนิทของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก อีกคน ข้อหาผู้สนับสนุนให้ผู้ต้องขังในอำนาจของศาลหลบหนี/ละเมิดอำนาจศาล ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

แกะรอยล่าเลขาฯ คนที่ 2 เอี่ยวช่วย ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ ปลอมตัวหนีออกจากศาล

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่ สน.พหลโยธิน พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า หลังศาลออกหมายจับหญิงสาวเลขาฯอีกคนของนายประสิทธิ์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สามารถติดตามจับกุมตัวได้แล้ว อยู่ระหว่างสอบปากคำขยายผลอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้ (26 ธ.ค.) ทางพนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขังต่อไป

ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ (สบ.8) ปฏิบัติราชการสอบสวนกลาง กล่าวว่า แนวทางการดำเนินการขณะนี้ ทางชุดสืบสวนทราบผู้มีส่วนร่วมทั้งหมดแล้วและได้แจ้งข้อกล่าวหา รวมทั้งนำตัวมาฝากขังเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งขั้นตอนจากนี้ทาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้มอบหมายให้ชุดทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกมิติ เนื่องจากเป็นคดีที่สังคมให้การสนใจและเป็นการกระทำที่อุกอาจ โดยจะขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการในการช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่ อยู่ระหว่างการสืบสวนหาข้อมูลการติดต่อระหว่างกลุ่มของผู้ให้การช่วยเหลือกับตัวของนายประสิทธิ์ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่ทางชุดสืบสวนตั้งสมมุติฐานว่าอาจมีคนในให้การช่วยเหลือ ไม่เช่นนั้นจะไม่ออกมาในรูปแบบนี้

แฉ ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ ถ้าหนีศาลได้จะไปทำบัตร ปชช.ปลอม ต้องสงสัยจนท.รัฐมีเอี่ยว

พล.ต.ท.สันติ กล่าวอีกว่า เนื่องจากขั้นตอนในการหลบหนีตัวของนายประสิทธิ์ มีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี มีการนำกุญแจมาปลดเครื่องพันธนาการ ซึ่งเรื่องกุญแจทางชุดทำงานได้สอบสวนร่วมกับทางราชทัณฑ์ อีกทั้งทางกรมราชทัณฑ์ได้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวด้วยเช่นกัน และอยู่ระหว่างการรอผลสรุปกับทางราชทัณฑ์ส่งมาให้กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ขณะเดียวกันชุดสืบสวนได้สืบสวนทางลับควบคู่ไปด้วย ซึ่งทาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ได้ประสานข้อมูลกับทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์อย่างใกล้ชิดถึงเรื่องดังกล่าวตั้งแต่เกิดเหตุ เพื่อที่จะให้ได้คลายข้อเท็จจริงโดยเร็ว