ภายหลังจากการระดมกำลังค้นหาลูกเรือหลวงสุโขทัยที่อับปางบริเวณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 ต่อมาได้ปรับแผนแบ่งใช้กำลังเดินเท้าค้นหาเลียบชายฝั่งทะเลจากปากน้ำท่ากระจาย อ.ท่าชนะ ย้อนขึ้นไปทางตอนบนรอยต่อกับ อ.ละแม จ.ชุมพร ตลอดระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร โดยแบ่งภารกิจค้นหาทั้งทางน้ำและทางบก ท่ามกลางความหวังในค้นหาผู้สูญหายที่เหลือนั้น
วันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ จะพาไปย้อนรอยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเมื่อชายคนหนึ่งติดอยู่ในแพชูชีพและรอดชีวิตมาจากในมหาสมุทรแอตแลนติก อย่างน่าอัศจรรย์เป็นเวลา 76 วัน โดยปราศจากนํ้าและอาหาร
www.historydaily.org ได้เปิดเผยเรื่องราวของ “สตีเวน คัลลาแฮน” นักเดินเรือชาวอเมริกัน ว่าเขาต้องการหลีกหนีความทุกข์ยากจากการหย่าร้างกับภรรยา จึงเกิดความคิดทะเยอทะยานที่จะท่องโลกบนเรือที่ออกแบบเองซึ่งเขาขนานนามว่า “นโปเลียน โซโล” เริ่มต้นจาก Newport, Rhode Island ในปี 1981 ด้วยเรือลำเล็กยาว 21.3 ฟุต ระหว่างทางได้เจอสภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้ “นโปเลียน โซโล” ได้รับเสียหายอย่างหนัก เมื่อซ่อมแซมเรือของเขาเสร็จ จึงตัดสินใจเดินทางต่อไปผ่านสเปนและโปรตุเกส โดยออกจากเกาะมาเดราและหมู่เกาะคานารี
หลังจากแวะที่หมู่เกาะคานารี “นโปเลียน โซโล” ก็ออกเดินทางไปแอนติกาในวันที่ 29 ม.ค. 1982 หลังจากเดินทางหนึ่งสัปดาห์ เรือก็ชนกับวาฬยักษ์ ซึ่งทำให้โครงสร้างของเรือเสียหายอย่างมาก จึงต้องละทิ้งเรือหลักให้จม หลังจากนั้นก็หนีไปอาศัยบนแพชูชีพลำจิ๋ว โดยไม่มีอาหารและน้ำ ห่างจากหมู่เกาะคานารีไปทางตะวันตก 800 ไมล์ทะเล กลางมหาสมุทรแอตแลนติกโดยไร้ทิศทาง
สิ่งแรกที่ คัลลาแฮน ตัดสินใจทำคือต้องจัดหาน้ำและอาหาร โดยใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ผลิตนํ้าดื่มจากแสงอาทิตย์ ให้เพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตในหนึ่งวัน จากนั้นก็จับปลาเป็นอาหาร ซึ่งเขาต้องกินมันทั้งหมดแบบดิบๆ แต่มันก็ช่วยชีวิตเขาไว้ได้
เกือบ 14 วัน ในมหาสมุทรที่ห่างไกลและด้วยเสบียงอาหารและน้ำที่มีจำกัด เขาก็มองเห็นเรือลำหนึ่งแล่นผ่านไป นี่เป็นแสงแห่งความหวังสำหรับเขา จึงรีบใช้ปืนพลุยิงขึ้นฟ้าเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เรือก็แล่นผ่านไปโดยไม่ได้สังเกตเห็น ทำให้เขาหมดหวังและสิ้นหวังมากขึ้น และครั้งหนึ่งเขาเกือบจะยอมแพ้ต่อชีวิต
หลังจากที่ คัลลาแฮน ลอยลำอยู่นานกว่าหนึ่งเดือน ทำให้แพชูชีพของเขาเสียหายอย่างหนัก ขณะพยายามหาปลาเพื่อเป็นอาหาร ด้านข้างของแพชูชีพก็ขาดทั้งหมด เขาใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนเพื่อดิ้นรนให้แพชูชีพที่เปราะบางลอยอยู่ได้ และในที่สุดก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งเมื่อเขาซ่อมแซมแพชูชีพที่เสียหาย เขารู้สึกเหมือนเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหรือเป็นชัยชนะในชีวิต ซึ่งผ่านมา 74 วัน เขาเหลือน้ำดื่มเพียงสามกระป๋องและความหวังที่จะมีชีวิตรอดก็ค่อยๆ เลือนหายไป
แต่ในวันที่ 76 ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อชาวประมงกลุ่มหนึ่งพบเห็นชายคนหนึ่งติดอยู่ในแพชูชีพ จึงได้ทำช่วยเหลือเขาไปยังเกาะได้สำเร็จ แต่ต้องใช้เวลาอีก 2-3 สัปดาห์ กว่าที่เขาจะลุกขึ้นเดินได้ตามปกติอีกครั้ง.
ขอบคุณข้อมูลที่มา historydaily