เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับคณะผู้บริหาร ผู้บริหารเขตบางแค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในกิจกรรม “ผู้ว่าฯสัญจร” เขตบางแค
นายชัชชาติ กล่าวว่า เขตบางแค เป็นเขตขนาดใหญ่มีหมู่บ้านจัดสรรเพิ่มขึ้น และประชาชนอาศัยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการเปลี่ยนรูปแบบการใช้พื้นที่ สิ่งแรกที่ได้พูดถึงคือการจัดเก็บรายได้หรือการจัดเก็บภาษีทั้งจากที่ดิน สิ่งปลูกสร้างและคอนโดมิเนียมที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาสามารถจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้มากถึง 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ นโยบายการลดภาษีเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็จะทำให้ท้องถิ่นมีรายได้น้อยลง ซึ่งรัฐบาลไม่ได้เอาเงินมาอุดหนุนในส่วนนี้ ในขณะที่ส่วนนี้เป็นรายได้หลักของท้องถิ่น สำหรับเขตบางแครายได้จะลดลง 30 ล้านบาท และ ทั้งกทม.รายได้จะหายไป 2,000 ล้านบาท ซึ่งก็ฝากถึงรัฐบาลเมื่อลดภาษีนี้ไปขอให้อุดหนุนให้กับส่วนท้องถิ่นด้วย เพราะท้องถิ่นเองไม่ได้มีรายได้อื่น รวมถึงได้มีการประมาณการรายได้สำหรับปีหน้าไปแล้ว
ส่วนเรื่องร้องเรียน คือเรื่องป้ายของหมู่บ้านจัดสรร หรือที่เรียกว่า ป้ายกองโจร แต่เขตได้ดำเนินการจับปรับอย่างเข้มงวดและจะนำโมเดลนี้ไปขยายผลต่อ รวมถึงส่วนที่ได้เริ่มทำแล้วคือเอาข้อมูลฐานภาษีป้ายทั้งหมด ระบุพิกัด GIS เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่าป้ายทั้งหมดของกทม.มีการเสียภาษีเท่าไหร่และเปิดเผยข้อมูลเป็น OPEN DATA
สิ่งที่เข้มแข็งมากอีกอย่างของเขตบางแค คือ ระบบสาธารณสุข โดยเขตบางแคมีโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ซึ่งมี Sandbox ที่เข้มแข็งสามารถขยายผลลงในชุมชนได้ ในส่วนของโรงเรียนสังกัดกทม.ในพื้นที่ มีจำนวน 12 แห่ง และมี 3 แห่งที่เข้าระบบ Sandbox หรือเขตนวัตกรรมการศึกษา (จากโรงเรียนกทม.ทั้งหมด 54 แห่ง ที่เข้าระบบSandbox) ซึ่งเป็นครั้งแรกของกทม. เพื่อให้โรงเรียนปรับระบบให้มีความคล่องตัว ตอบโจทย์โลกสมัยใหม่ได้มากขึ้น
นายชัชชาติ กล่าวต่ออีกว่า อีกปัญหาใหญ่ของบางแคคือเรื่องของน้ำท่วม ซึ่งในพื้นที่มีคูคลองจำนวนมาก และในปีนี้ได้เดินหน้าขุดลอกคูคลองต่อเนื่อง โดยมีสมาชิกสภากรุงเทพมหานครในพื้นที่ร่วมให้ข้อมูลเพื่อให้การปรัปปรุงพื้นที่เป็นไปอย่างถูกต้อง ภาพรวมการดำเนินการเป็นไปด้วยดี สำหรับเรื่องร้องเรียนในพื้นที่มีกว่า 6,000 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องทางเท้า ทางเดิน สามารถแก้ไขได้แล้วกว่า 5,000 เรื่อง ซึ่งนับว่าเป็นเขตที่มีการบริหารจัดการที่ค่อนข้างดี
จากนั้นผู้ว่าฯกทม. คณะผู้บริหารเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมลงพื้นที่บริเวณตรวจสอบปัญหาพื้นที่จุดอ่อนน้ำท่วม บริเวณหมู่บ้านสุขสันต์ 7 (ซอยกาญจนาภิเษก 5) โดยจะทำการปรับปรุงถนนเพื่อแก้ไขแก้ปัญหาน้ำท่วม จากนั้น ผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานพิธีอัญเชิญรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขึ้นประดิษฐานบนแท่นที่สักการะบูชา ณ วัดม่วง เขตบางแค (ซอยเพชรเกษม 63)
พร้อมเยี่ยมผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงชาวชุมชนวัดม่วง ต่อมาลงเรือจากท่าน้ำชุมชนร่วมใจพัฒนาเดินทางมายังชุมชนบ้านขิง สำรวจสองฝั่งคลองเพื่อติดตามการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองภาษีเจริญ และการส่งเสริมอาชีพในชุมชน พร้อมพูดคุยและรับฟังปัญหาจากประชาชน
อย่างไรก็ตาม ก่อนลงพื้นที่ นายชัชชาติ ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน กับลูกจ้างประจำของสำนักงานเขต จำนวน 5 คน ประกอบด้วย 1. นางสาวมะลิวรรณ จันทร์ฉาย พนักงานทั่วไป (กวาด) กลุ่มงานกวาด ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ 2. นายเจริญผล แสนศิริ พนักงานทั่วไป (เก็บขนมูลฝอย) กลุ่มงานเก็บขน ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ 3. นายชัยชนะ แช่มช้อย พนักงานทั่วไป (เก็บขนมูลฝอย) (ปฏิบัติหน้าที่เก็บค่าธรรมเนียม) กลุ่มงานเก็บขน ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ 4. นางสาวสุวิดา อนันต์เจริญยศพนักงานสวนสาธารณะ กลุ่มงานปลูกและรักษาบำรุงต้นไม้ ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ และ 5. นายเจมส์ หริรักษ์ พนักงานงานทั่วไป (ระบายน้ำ) กลุ่มงานระบายน้ำ ฝ่ายโยธา
ซึ่งทั้ง 5 คนได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้แทนของลูกจ้างให้ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันกับผู้ว่าฯ กทม. โดยได้พูดคุยถึงชีวิตประจำวัน ความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ และพื้นที่ที่ปฏิบัติงาน พร้อมให้กำลังใจในการทำงาน
สำหรับเมนูอาหารวันนี้ ได้แก่ ข้าวหมูทอด/ข้าวไก่ทอด ร้านดังถนนพุทธมณฑลสาย 2 ก๋วยจั๊บ จากร้านเด็ดหน้าสำนักงานเขตบางแค และผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ ส้ม ลำไย และ “มะริด” ที่ปลูกจากศูนย์การเรียนรู้ฯในพื้นที่.