หากพูดถึงไอดอลที่โชว์ผลงานทางการแสดงได้อย่างโดดเด่นเตะตา หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ พัคจินยอง หรือ จินยอง ศิลปินระดับแถวหน้าของเอเชีย  สมาชิกบอยแบนด์ดัง “GOT7” ขวัญใจของหลายคน ที่ได้ผันตัวเองเข้าสู่การเป็นนักแสดงแบบเต็มขั้น โดยฝากผลงานโด่งดังมาแล้วในซีรีส์ชื่อฮิตมากมาย ทั้ง “Yumi’s Cells 2” , “The Devil Judge” และ “He is Psychometric” เป็นต้น 

ล่าสุด จินยอง ได้ชวนแฟน ๆ มาร่วมฉลองเทศกาลคริสต์มาส  ด้วยผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุด “Christmas Carol คริสต์มาสแค้น”  ภาพยนตร์ระทึกขวัญที่จะทำให้แฟน ๆ ต้องจดจำแบบไม่รู้ลืม ซึ่งโปรเจกต์นี้ถือเป็นผลงานที่ท้าทายและดาร์กที่สุดในชีวิตการแสดงของเขา โดย จินยอง ต้องมารับบทบาทฝาแฝดที่ต้องกลับมาล้างแค้น โดยสวมบทเป็น 2 ตัวละครที่มีคาแรกเตอร์ที่ต่างกัน  

สำหรับ “Christmas Carol คริสมาสต์แค้น” เป็นภาพยนตร์โศกนาฏกรรมสุดระทึก ผลงานผู้กำกับ คิมซองซู (Running Wild, ซีรีส์ Save Me) โดยเล่าเรื่องราว การล้างแค้นของฝาแฝดคนพี่ “จูอิลอู” (พัคจินยอง) ที่ยอมโดนจับเข้าสถานดัดสันดานเยาวชนเพื่อสืบหาสาเหตุการตายของแฝดน้อง “จูวอลอู” (พัคจินยอง) หลังจากพบศพชายผู้พิการทางสติปัญญาในแทงก์น้ำร่างกายเต็มไปด้วยร่องรอย แต่เจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่าเป็นอุบัติเหตุ แฝดพี่จึงต้องเดินหน้าสืบหาสาเหตุ และชำระแค้นคนที่อยู่เบื้องหลังให้สาสม  ร่วมด้วยเหล่านัแสดงชั้นนำ ทั้ง คิมยองมิน, คิมดงฮวี, ซงกอนฮี และ ฮอดงวอน เรียกได้ว่าเป็นการรวมสุดยอดนักแสดงมากฝีมือไว้ในเรื่องเดียวทีเดียว

รู้จักคาแรกเตอร์

พัคจินยอง รับบท “จูอิลอู” และ “จูวอลอู”

“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของผม ผมไม่ยอมแพ้จนว่าจะล้างแค้นให้น้องสำเร็จ” จูอิลอู (แฝดพี่) เด็กหนุ่มที่ยอมทิ้งการเรียนไปเป็นคนงานก่อสร้างเพื่อหาเงิน เมื่อน้องชายฝาแฝดเสียชีวิต เขาตามเข้าไปในสถานพินิจเพื่อตามหาเจ้าของเสียงที่เขาได้ยินตอนที่คุยโทรศัพท์กับวอลอูก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เป้าหมายเดียวของอิลอูคือล้างแค้นให้วอลอู เขาไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากเอาชีวิตตัวเองเข้าแลก

“นี่มันคริสมาสต์อีฟนะ ในเมื่อเราเป็นครอบครัวเดียวกัน อย่าปล่อยให้เขาต้องกังวล” จูวอลอู (แฝดน้อง) ฝาแฝดน้องของ อิลอู  วอลอูเป็นผู้พิการทางสติปัญญา เขารู้สึกผิดที่ปล่อยให้อิลอูหาเลี้ยงเขากับยาย วอลอูหน้าเปื้อนยิ้มเสมอแม้ว่าจะเก็บความเจ็บปวดไว้ข้างใน ในคืนก่อนวันคริสมาสต์ เขารออิลอูมากินข้าวที่แมคโดนัลด์แต่อิลอูไม่มาตามนัด วอลอูจึงไปทำงานพิเศษแทน วันต่อมากลับพบศพวอลอูในแทงก์น้ำในชั้นใต้ดินของอพาร์ตเมนต์

คิมยองมิน รับบท “โจซุนอู”

“ฉันมีเรื่องอยากจะบอกนายเกี่ยวกับวอลอูซุนอู ที่ปรึกษาประจำสถานพินิจ เขาเป็นคนที่ดูแล วอลอู และยายจนกระทั่งเสียชีวิต เขาเป็นคนเดียวที่มีความเป็นผู้ใหญ่พอที่จะยั้งแผนล้างแค้นของ อิลอู เขาเป็นคนเดียวที่อิลอูเปิดใจด้วย ซุนอูจึงเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่อง

คิมดงฮวี รับบท “ซนฮวาน

“อยากระบายอารมณ์ใส่ข้าวของก็เชิญตามบาย ฉันไม่เกี่ยว ฉันเหมือนอ่อนแออย่างที่นายบอกนั่นแหละ  ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก ถ้าวันนั้นนายมาหาวอลอูตามที่นัดก็คง…” ซนฮวาน เพื่อนคนเดียวของ วอลอู เขาต้องการปกป้องวอลอูจากแก๊งของ มุนจาฮุน แต่เขาต้องมาเข้าสถานพินิจหลังจากการตายของวอลอู เขาเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับวอลอู และเศร้าที่เห็นอิลอูทิ้งชีวิตมาล้างแค้น แม้ว่าในสถานพินิจเขาต้องคอยให้อิลอูระวังหลังให้ตลอดก็ตาม

ซงกอนฮี รับบท “มุนจาฮุน”

“ใครจะสนว่าฉันฆ่ามัน คนอย่างมันอยู่หรือตายไม่ต่างกันหรอก” จาฮุน นักเรียนตัวอย่าง มาจากครอบครัวฐานะดี แต่ที่จริงแล้วเขาเป็นหัวหน้าแก๊งที่เช่าอพาร์ตเมนต์ไว้เป็นแหล่งซ่องสุม จาฮุน หมายหัว อิลอู ทันที เมื่อรู้ว่าแฝดพี่เข้ามาสถานพินิจ เขาพร้อมใช้ความรุนแรงเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ

ฮอดงวอน รับบท “ฮันฮีซัง

“มันมีแค่สองประเภทที่นี่ เด็กที่เชื่อฟังและพวกเด็กเวร” ฮันฮีซัง เจ้าหน้าที่ประจำสถานพินิจ ขึ้นชื่อเรื่องใช้วิธีลงโทษรุนแรงเพื่อดัดนิสัย เขาหมั่นไส้อิลอูที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขา

ล่าสุด “ฮาอึน” ไม่พลาดนำบทสัมภาษณ์สุดพิเศษของ พัคจินยอง ทั้งการทำงานในโปรเจ็คต์ภาพยนตร์สุดท้ายทายครั้งนี้ รวมไปถึงไม่พลาดถามเรื่องที่หลายคนอยากรู้ ว่าตอนนี้เจ้าตัวมีเจ้าของหัวใจหรือยังอีกด้วย

Q : พูดถึงบทบาทในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นการพลิกบทบาทแบบสุดขั้วหน่อย?

พัคจินยอง : ผมอยากนำเสนอบทบาทใหม่ๆ ตอนที่ผมได้ดูหนัง ผมรู้สึกได้ว่ามันตอบสนองความต้องการของผมแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับผลงานก่อนหน้าของผมอย่าง ‘Yumi’s Cells 2’ ในฤดูร้อนที่ผ่านมา ผมโชคดีที่ได้ถ่ายทอดสองบทบาทที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงภายในปีเดียว ส่วนความท้าทายในการรับบทฝาแฝด มันแปลกดีเหมือนกันครับ มันเหมือนผมเล่นเกมที่ต้องควบคุมสองตัวละคร แทนที่ผลัดกันเล่นเป็นคนนี้ทีคนนั้นที ผมถ่ายของ ‘วอลอู’ ให้เสร็จหมดทุกฉากก่อน จึงค่อยสวมบทเป็น ‘อิลอู’ ครับ

Q : คุณเตรียมตัวเพื่อรับบทนี้ยังไงบ้าง?

พัคจินยอง : สำหรับบท ‘วอลอู’ ที่เป็นผู้พิการทางสติปัญญา ผมต้องการถ่ายทอดทอดความเจ็บปวดในจิตใจของตัวละครมากกว่าความทรมานภายนอก ก่อนถ่ายทำผมได้พบกับนักข่าวที่เป็นผู้ป่วยอาการผิดปกติทางจิตตัวจริงเพื่อขอคำแนะนำ ผมบริจาคเงินให้กับมูลนิธิ Korea’s One Love Village เพื่อเด็กพิการทางสมอง การบริจาครั้งนี้เพื่อตอบแทนนักข่าวคนนั้นที่แบ่งปันเรื่องราวของเขาให้ผมฟังอย่างจริงใจครับ

Q : สำหรับ “Christmas Carol” ฉบับนิยาย และ ฉบับภาพยนตร์ มีความแตกต่างกันตรงไหนบ้าง?

พัคจินยอง : ผมอ่านนิยายต้นฉบับผลงานของ จูวอนกยู ก่อนที่จะอ่านบท นิยายต้นฉบับมันดิบและดาร์กมาก ตัวบทภาพยนตร์มันเหมือนเอาต้นฉบับมาเจียรไนให้ละเมียดขึ้น ดีนะที่ผมอ่านหนังสือมาก่อน ไม่อย่างผมคงคิดว่าผมมันโหดเกินไป  หนังเต็มไปด้วยคำหยาบ ความรุนแรงเกินพิกัด และประเด็นทางเพศ การถ่ายฉากโหดๆ เหล่านั้นกินพลังอย่างมาก หลังจากถ่ายฉากเดือดๆ ผู้กำกับคิมซองซูกับทีมงานคอยดูผมเสมอว่าไปต่อไหวมั้ย ในฉากสถานพินิจนักแสดงทุกคนวัยเดียวกันหมด เราเลยกลายเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น เราทุกคนต้องพึ่งพากันและกัน ผมระวังเรื่องการถ่ายทอดความรุนแรงออกมาในภาพยนตร์ เพราะมันอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบได้ โดยเฉพาะในหมู่เยาวชน ตัวละคร ‘อิลอู’ คือศูนย์กลางความรุนแรงในเรื่อง เพราะเขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ขึ้นมาเป็นใหญ่ในสถานพินิจเพื่อล้างแค้นให้น้องชาย ผมเห็นด้วยว่าหนังเรื่องนี้อาจทำให้ผู้ชมจิตตก แน่นอนนั่นคือเป้าหมายของเรา ผ่านตัวละครที่เหลือขอ ไร้มนุษยธรรม เราต้องการส่องสปอตไลท์ไปที่ปัญหาสังคมที่ไม่เคยได้รับการแก้ไขจนถึงทุกวันนี้ครับ

Q : คุณตัดผมเกรียน จนหลายคนนึกว่าคุณเตรียมเข้ากรมก่อนกำหนด?

พัคจินยอง : ยังครับ ผมมีกำหนดเกณฑ์ทหารในปีหน้า ผมกังวลเรื่องเกณฑ์ทหารเหมือนกันนะ แต่มันเป็นเรื่องที่ผู้ชายเกาหลีทุกคนต้องเผชิญ ผมเลยพยายามทำใจสบายๆ เข้าไว้ แต่ผมอาจแอบร้องไห้คนเดียวที่บ้านก็ได้นะ ใครจะรู้ (หัวเราะ)

Q : ถ้าต้องเลือกระหว่างการเป็นนักร้องและการเป็นนักแสดง คุณจะเลือกอะไร?

พัคจินยอง : ผมยอมรับว่ารากเหง้าของผมคือการเป็นนักร้อง ผมรู้สึกที่ใจเสมอเมื่อมีคนชมผมว่า ‘นายร้องเพลงเพราะจัง’ หรือ ‘นายเต้นเก่งจัง’ มันทำให้ผมรู้สึกดีกว่าเวลามีคนชมว่าผมแสดงเก่ง แม้ว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการแสดงที่ดิบและคลั่งที่สุดของผม แต่ผมไม่มีแผนวางไมค์ในเร็วๆ นี้แน่นอนครับ

Q : ท้ายสุดบอกแฟน ๆ หน่อยว่า ตอนนี้หัวใจคุณยังว่างหรือเปล่า?

พัคจินยอง : ผมอยากจะออกเดตนะแต่ผมไม่มีเวลาเลย อีกอย่างผมก็กำลังจะเข้ากรมอยู่แล้ว การจะให้สาวมาหาในกรมและสานสัมพันธ์ต่อจากตรงนั้นมันคงลำบากน่าดู ไว้ผมค่อยลองใหม่หลังปลดประจำการนะ ตอนนั้นผมคงอายุสามสิบพอดี ผมมั่นใจว่าแฟนๆ คงเข้าใจครับ

เมื่อสังคมสั่งให้เขาเป็นปีศาจ การล้างแค้นสุดเดือดจึงเริ่มต้นขึ้น ! มาพิสูจน์ถึงฝีมือการแสดงและอีกหนึ่งผลงานสุดมาสเตอร์พีซของ “จินยอง” ฉลองวันคริสมาสต์ในฉบับแค้นระห่ำ ได้ใน “Christmas Carol คริสต์มาสแค้น” เข้าฉายวันที่ 29 ธ.ค. นี้ ในโรงภาพยนตร์

ฮาอึน