เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพาากษา คดีชักชวนเล่นพนันออนไลน์ หมายเลขดำ อ.981/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ อดีตผู้กว้างขวางย่านฝั่งธนบุรี น.ส.จุฑามาศ จันที แฟนสาว กับพวก เป็นจำเลยที่ 1-21 ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478, พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2504, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และ ฯลฯ

อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 10 ส.ค. 61-20 ธ.ค. 63 จำเลยทั้ง 21 คน กับพวกที่หลบหนี อาทิ น.ส.บานเย็น ชาญนรา มารดานายเสี่ยโป้ บังอาจร่วมกันกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่างกันโดยจัดและโฆษณาชักชวน จูงใจ หรือไลฟ์สด ในฐานะเจ้ามือรับกินรับใช้ โดยจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ โปรแกรมแอพพลิเคชั่นต่างๆ ทุกประเภทการพนัน ลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มบริหารสั่งการ มีนายเสี่ยโป้ จำเลยที่ 1 น.ส.จุฑามาศ จำเลยที่ 2 แฟนสาว นายพุทธรักษ์ ชัชอานนท์ ญาตินายเสี่ยโป้ จำเลยที่ 3 น.ส.พลอยพิชชา ปะดุลัง จำเลยที่ 4 และ น.ส.บานเย็น มารดา ที่หลบหนี

กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มครอบครองและใช้บัญชีเงินฝาก

กลุ่มที่ 3 เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ที่ใช้ในการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ พบว่า มีการรับโอน-รับแทงจำนวน 575,323 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1,760,970,545 บาท รวมทั้งการโอนเงิน อันเป็นการฟอกเงินรวม 2,713 รายการ รวมยอดเงิน 841,678,523 บาท

โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตามความผิดด้วย

จำเลยให้การปฏิเสธ โดยนายเสี่ยโป้ กับพวกรวม 19 คน ไม่ได้รับการประกันตัว ถูกคุมขังในเรือนจำ

ส่วนนายพุทธรักษ์ จำเลยที่ 3 และ น.ส.พลอยพิชชา จำเลยที่ 4 ได้รับการประกันตัว แต่หลบหนีระหว่างพิจารณา ศาลสั่งออกหมายจับ

โดยวันนี้ศาลเบิกตัวจำเลยที่ถูกคุมขังในเรือนจำมาศาล ส่วนจำเลยที่ 3-4 (พี่ชาย-พี่สะใภ้) ซึ่งได้ประกันหลบหนี

ศาลพิเคราะห์ และเห็นว่า การนำสืบพยานหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมในสำนวน นั้นมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแฝงตัวเข้าเล่นพนันในเว็บและมีการลองเล่นพนันและได้รับการโอนรางวัลเมื่อแทงถูกและยึดเงินเมื่อแทงผิด จึงเชื่อได้ว่ามีการดำเนินการรับพนันจริง โดยมีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของชื่อจำเลยคนอื่นๆ และหลักฐานสำคัญจากโทรศัพท์มือถือที่ยึดทันทีเมื่อตอนตำรวจบุกเข้าจับกุม จึงไม่ทันที่จำเลยจะลบข้อมูลการแชต ธุรกรรมการเงินทำให้น่าเชื่อถืออย่างมาก ประกอบพยานหลักฐานทั้งหมดสอดคล้องเชื่อมโยงกัน แม้จำเลยจะแย้งว่าโจทก์ไม่สามารถระบุได้ว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของบัญชี เฟซบุ๊ก และเจ้าของโดเมนเว็บต่างประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกจำเลยไม่ได้กระทำความผิด อีกทั้งเฟซบุ๊กของจำเลยที่ 1 มีคนติดตามจำนวนมาก พร้อมกับโพสต์กิจวัตรประจำวันช่วงหนึ่งและมีการไลฟ์สดเล่นพนันและมีการแจกเงินให้ผู้ที่แชร์ต่อ

และคลิปดังกล่าวมีเว็บการพนันอื่นๆ นำไปเผยแพร่ต่อโดยอนุญาตและมีการตัดต่อคลิป และตำรวจ ปอท. เคยสั่งฟ้องคดีเรื่องคลิปพนันดังกล่าว ต่อมาอัยการทีคำสั่งไม่ฟ้อง เพราะไม่พบความผิดศาลเห็นว่า อัยการพิจารณาเพียงคลิปชักชวนเท่านั้น แต่คดีนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเส้นการการเงินอย่างละเอียด ดังนั้น คำสั่งไม่ฟ้องของอัยการไม่มีผลต่อคดีนี้

ข้อต่อสู้ของจำเลยที่อ้างว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักรเพราะเว็บพนันจดทะเบียนต่างประเทศ แต่การผิดที่เกิดมีทั้งในประเทศและประเทศกัมพูชาเกี่ยวกันพัน ทางอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้อัยการลงมาร่วมสอบสวนด้วยจึงชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จึงอำนาจฟ้อง

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 1 กระทง จำคุก 3 เดือน ฐานเป็นเจ้ามือ จำนวน 3 กระทง จำคุก 3 เดือน ฐานช่วยประกาศโฆษณาชักชวน ให้เข้าเล่นพนัน จำนวน 14 กระทง จำคุกกระทงละ 3 เดือน รวมจำคุก 48 เดือน และฐานฟอกเงิน จำนวน 25 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี รวมจำคุก 50 ปี รวม 4 ฐานความผิด เป็นจำคุก 50 ปี 48 เดือน แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้ว คงลงโทษได้ไม่เกินเพดานโทษจำคุก 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2)

น.ส.จุฑามาศ จันที ภริยาเสี่ยโป้ จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานช่วยประกาศโฆษณาชักชวนให้เข้าเล่นพนัน จำนวน 2 กระทง จำคุกกระทงละ 3 เดือน รวมจำคุก 6 เดือน

นายพุทธรักษ์ ชัชอานนท์ พี่ชายเสี่ยโป้ จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานช่วยประกาศโฆษณาชักชวนให้เข้าเล่นพนัน จำนวน 1 กระทง จำคุก 3 เดือน

น.ส.พลอยพิชชา ปะตุลัง จำเลยที่ 4 มีความผิดฐานฟอกเงิน จำนวน 7กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี รวมจำคุก 14 ปี

นายรัชชานนท์ พินิจ จำเลยที่ 5 มีความผิดฐานช่วยประกาศโฆษณาชักชวนให้เข้าเล่นพนัน จำนวน 1 กระทง จำคุก 3 เดือน ฐานฟอกเงิน จำนวน 1 กระทง จำคุก 2 ปี คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 5 เป็น ประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานช่วยประกาศโฆษณาชักชวนให้เข้าเล่นพนัน คงจำคุก 6เดือน ฐานฟอกเงิน คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน รวม จําคุก 1 ปี 6 เดือน

ส่วนนายศิรินทร์ สมอินทร์, นายวิชัย รัตนา, นายนพรัตน์ แหวนเงิน, นายเรวัตร บุญมาทัน, นายเรวัฒน์ สุดสวาท, นายอนุชา เกษศรี นายเอกภัส อนุพันธ์ชัย นายณัฐพนธ์ อุทัยศรี จำเลยที่ 6-13

นายนลิน หัดโท, นายพิมนพัฒน์ พัฒนพิมณพร นายณพฤต พิบูลย์สวัสดิ์, น.ส.แพรพรรณ สนสนิท, น.ส.สุพรรณี รักชาติ และนายอภิชัย อังศุเกษตร จำเลยที่ 16-21 มีความผิดฐานฟอกเงิน คนละ 1 กระทง จำคุกคนละ 2 ปี คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 6-13 และจำเลยที่ 16-21 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก คนละ 1 ปี 4 เดือน

นายวรายุ ปั้นแปลก จำเลยที่ 15 มีความผิดฐานฟอกเงิน จำนวน 1 กระทง จำคุก 2 ปี

น.ส.อาทิตยา ครุฑโท จำเลยที่ 14 มีความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน จำนวน 1 กระทง จำคุก 3 เดือน ฐานเป็นเจ้ามือ จำนวน 1 กระทง จำคุก 3 เดือน และฐานฟอกเงิน จำนวน 3 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี จำเลยที่ 14 คำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละ หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน คงจำคุก 2 เดือน ฐานเป็นเจ้ามือ คงจำคุก 2 เดือน ฐานฟอกเงิน จำนวน 3 กระทง คงจำคุกกระทงละ 1 ปี 4 เดือน รวมจำคุก 3 ปี 16 เดือน