เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีการทวงหนี้ 4 หมื่นล้านบาท ว่า “บีทีเอส” ได้ปล่อยคลิปที่มีภาพนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) นำทีมผู้บริหารและพนักงาน อธิษฐานขอพรท้าวมหาพรหม ให้ช่วยแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินโดยเร็ว ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ตลอดที่ตนเล่นการเมืองมา 20 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนหนี้สิน 4 หมื่นล้านบาท ทำไมกรุงเทพมหานคร (กทม.) จ่ายไม่ได้ เป็นเพราะผู้ว่าฯ กทม. ในอดีต ก่อนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จงใจทำผิดสัญญา สร้างหนี้ขึ้นมา 4 หมื่นล้านบาท เอื้อประโยชน์ให้บีทีเอส 

กทม. ให้กรุงเทพธนาคม จ้างบีทีเอส ติดตั้งระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือและสายเขียวใต้ โดยไม่มีการประมูล ทำให้เกิดหนี้ก้อนแรก จำนวน 2.2 หมื่นล้านบาท ซึ่ง กทม. ปล่อยให้ประชาชนนั่งฟรี โดยไม่มีการเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่ 2 มาตั้งแต่ปี 61 แต่มีค่าวิ่งรถเกิดเป็นหนี้ส่วนที่ 2 จำนวน 1.4 หมื่นล้านบาท และ กทม. หยุดจ่ายค่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยายที่ 1 มาตั้งแต่ปี 62 ทำให้เกิดหนี้ส่วนที่ 3 จำนวน 4 พันล้านบาท เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ออกคำสั่ง คสช. มาตรา 44 ไม่ต้องจ่ายค่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยายที่ 1 ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ นี่จึงเป็นที่มาของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ปล่อยให้เกิดหนี้ 

นายยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า หนี้ดังกล่าวมีความไม่โปร่งใส มีสาเหตุจาก กทม. หนีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ร่วมลงทุน ไม่เปิดการประมูล และสัญญาขัดต่อ พ.ร.บ.ร่วมลงทุน รวมทั้ง กทม. ปล่อยให้กรุงเทพธนาคม เดินรถส่วนต่อขยายที่ 2 ที่อยู่นอกอำนาจ และกรุงเทพธนาคมจ้างบีทีเอสติดตั้งระบบโดยที่เป็นทรัพย์สินของการรรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ทั้งนี้ ศาลปกครองกลาง ได้พิพากษาให้ กทม. และกรุงเทพธนาคม ใช้หนี้ค่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 รวม 11,756 ล้านบาท แต่นายชัชชาติ ยังมีโอกาสอุทธรณ์ต่อได้

“เรามีข้อเสนอแนะอุทธรณ์คดี เพราะสัญญาผิดกฎหมายไม่ทำตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน มีการแก้ไขนิติกรรมอำพราง เพื่อให้กรุงเทพธนาคมจ้างตรงกับบีทีเอส ทำสัญญานอกเหนืออำนาจ ไม่ผ่านสภา กทม. รวมถึงไม่มีการเปรียบเทียบราคา และจ้างบีทีเอสในราคาแพง โดยไม่มีการตรวจสอบ สัปดาห์หน้าพรรค พท. จะเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้บีทีเอสต่อผู้บริหาร กทม. และกรุงเทพธนาคม ยื่นหนังสือถึงนายชัชชาติ นายธงทอง จันทรางศุ ประธานกรุงเทพธนาคม และนายประแสง มงคลศิริ กรรมการ ผอ.ใหญ่กรุงเทพธนาคม

นายยุทธพงศ์ ยังกล่าวถึงนโยบายพรรค พท. ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท มีการวิจารณ์อาจทำให้นักลงทุนไปต่อไม่ไหว ว่า ปัจจุบันทานอาหารหนึ่งมื้อแค่ในพื้นที่ต่างจังหวัด อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม เฉลี่ย 50 บาทต่อจาน ยังไม่รวมค่าใช้ค่าอื่นๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์มือถือ ค่าน้ำมัน และค่าส่งเสียบุตรหลาน สะท้อนให้เห็นว่า หากไม่มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ชาวบ้านจะอยู่ไม่ได้ จึงเป็นที่มาของนโยบายพรรค พท. ว่า ภายในปี 70 ค่าแรงขั้นต่ำต้องไปถึง 600 บาท

พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศ 8 ปี ชาวบ้านมีแต่หนี้สิน ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ถามว่าขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะเอาเงินมาจากไหนนั้น ตนขอถามกลับว่า แค่จะช่วยชาวบ้านบอกไม่มีเงิน แต่มีเงินไปซื้อเรือดำน้ำจีน 3 ลำ แถมเรือดำน้ำลำแรก มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ที่จีนไม่มีเครื่องยนต์ MTU ของประเทศเยอรมนีมาติดตั้งให้ ก็ยังไม่ยอมยกเลิกสัญญาเลย ล่าสุดจะมีการซื้อเครื่องบินรบ F-35 A ลำละ 5 พันล้านบาท มาอีกฝูง แบบนี้ทำไมถึงมีเงิน แล้วเงินช่วยชาวบ้านทำไมไม่มี

“วันนี้ค่าแรงวันละ 300 บาท มันไม่พอ แค่กินข้าวมือเดียว 100 บาทก็หมดแล้ว วันนี้ปัญหาสำคัญ คือค่าครองชีพรายได้ มันไม่พอรายจ่าย และมีปัญหาหนี้สินตามมา พรรค พท. มีนโยบายที่จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และไม่มีนโยบายพักหนี้ แต่มีนโยบายปลดหนี้เพื่อสร้างรายได้” นายยุทธพงศ์ กล่าว.