ผู้สื่ข่าวได้รับแจ้งว่า ที่บ้านเลขที่ 55/9 หมู่ 1 ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง มีลูกกตัญญู รับจ้างเลี้ยงวัว เพื่อหารายได้มาเลี้ยงดูแล พ่อ แม่ ตา ยาย รวม 4 ชีวิตที่พิการ และมีน้องชายอีก 1 คน กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.1

จึงเดินทางไปตรวจสอบ นายณัฐวุฒิ หรือวุฒิ พึ่งเรือง อายุ 19 ปี กำลังจูงวัวชนเพื่อออกกำลังกายตอนเช้าบริเวณสนามกีฬาชนโค ต.ควนธานี ก่อนกลับเข้าบ้านไปดูแลอีก 4 ชีวิตที่พิการประกอบด้วย นายชัยณรงค์ พึ่งเรือง (พ่อ) อายุ 50 ปี ป่วยด้วยโรคลมชักมานานนับ 10 ปีแล้ว ทำให้น้องวุฒิตัดสินใจออกจากโรงเรียนตั้งแต่เรียนจบชั้น ม.3 ไม่มีโอกาสเรียนต่อในระดับ ม.ปลาย เพื่อมารับจ้างเลี้ยงวัวชนรับจ้างแทนพ่อ เป็นเวลากว่า 5 ปี ส่วนแม่คือ นางอารีรัตน์ พึ่งเรือง อายุ 49 ปี ป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ ทำให้แขนขาอ่อนแรง ทำงานหนักไม่ได้ และเมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ยายคือ นางยินดี ชาตรีกุล อายุ 67 ปี ป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ห่างจากแม่ไม่กี่วัน ทางด้านตาคือ นายมงคล หอยสังข์ อดีตกำนัน ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา ก็ล้มป่วยเส้นเลือดในสมองตีบตามมาอีกคน และยังมีน้องชายวัย 13 ปี คือ ด.ช.สุทธิพงศ์ พึ่งเรือง กำลังเรียนชั้น ม.1 ให้ต้องส่งเสียเรียนอีกคน โดยมีโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าที่ไม่สามารถดูคลิปการเรียนได้ เอาไว้เพียงโทรฯพูดคุยเท่านั้น

โดยน้องวุฒิ ต้องแบกรับผิดชอบค่าบ้านเช่าในสนามชนโคที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นของมูลวัวอีกเดือนละ 2,000 บาท ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟอีกกว่า 1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีรายได้จากการเลี้ยงวัวและรับจ้างทั่วไป
เดือนละไม่เกิน 5,000 บาท โดยได้รับเงินช่วยเหลือคนพิการ 1 คนเบี้ยผู้สูงอายุ 2 คนรวมกันแล้วได้ 2,000 กว่าบาท แต่มีค่าใช้จ่ายสูงถึงเดือนละกว่า 10,000 บาท ทางด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างภักดีตรังได้นำถุงยังชีพมามอบให้พร้อมกับเตียงไม้ที่มีคนบริจาคมา และรับส่งตากับยาย เวลาไปหาหมอที่ รพ.ตรัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

น้องวุฒิ กล่าวว่า ตนมีความฝันอยากจะมีเงินส่งเสียน้องชายให้ได้เรียนสูง ๆ ส่วนตัวเองก็จะไปสมัครเรียนกับ กศน. เพื่อจะได้มีความรู้ติดตัว เนื่องจากต้องลาออกจากโรงเรียนตั้งแต่ชั้น ม.3 เพื่อช่วยพ่อเลี้ยงวัว และดูแลคนในบ้าน แต่ตอนนี้ภาระค่าใช้จ่ายหนักอึ้งตกอยู่ที่ตนคนเดียว จึงต้องหยุดเรื่องเรียนไว้ก่อน

ทางด้าน นางอารีรัตน์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนอยากจะส่งเสียให้ลูกได้เรียนหนังสือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ด้วยสถานการณ์ในครอบครัว และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่มีรายได้จากทางอื่น ขณะที่หน่วยงานทางภาครัฐก็นำข้าวสารมามอบให้นานๆครั้ง ตนรู้สึกเครียดเป็นมากอย่าง แต่น้องวุฒิ ก็คอยให้กำลังบอกไม่ให้เครียด และจะพยายามสู้เพื่อครอบครัว ซึ่งตนสงสารลูกเป็นอย่างมาก ที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นแบบลูกคนของคนอื่น

สำหรับผู้ที่อยากช่วยเหลือครอบครัวของน้องวุฒิสามารถร่วมบริจาคได้ที่ธนาคารออมสินสาขาตรัง เลขที่บัญชี 020313385385 ชื่อบัญชีนายณัฐวุฒิ พึ่งเรือง สอบถามเพิ่มเติมโทร.08-3181-6614 หรือโทร.09-9308-5772