นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ในปี 2564 นี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้บูรณาการความร่วมมือกับกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ในนามทีมประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “Content Thailand” เข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียว งานแสดงสินค้าลิขสิทธิ์นานาชาติฮ่องกง งานตลาดภาพยนตร์และโทรทัศน์นานาชาติฮ่องกง งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาตินครเซี่ยงไฮ้ และงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เป็นต้น ทั้งในรูปแบบปกติและรูปแบบออนไลน์ เกิดการเจรจาทางการค้า ช่วยสร้างรายได้ และขยายเครือข่ายทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการให้มีคู่ค้าหรือผู้ร่วมทุนผลิตเนื้อหารายใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ดิจิทัลคอนเทนต์ไทย รวมไปถึงสร้างความสนใจร่วมลงทุนและการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดรายงานผลการเยี่ยมชมคูหาออนไลน์ Content Thailand ในตลาดภาพยนตร์เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้รับความสนใจเข้าเยี่ยมชมและสอบถามข้อมูลสูงสุดเป็นอันดับสองของคูหาออนไลน์จากทั่วโลก 

ปลัด วธ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยได้รับความสนใจและความเชื่อมั่นจากผู้ซื้อภาพยนตร์ และคณะผู้สร้างภาพยนตร์จากนานาประเทศ เนื่องจากรัฐบาลโดย วธ. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ร่วมผลักดันมาตรการผ่อนปรนให้กองถ่ายภาพยนตร์ โทรทัศน์ โฆษณา สามารถเดินหน้าทำงานต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศมีความมั่นใจและตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ และที่สำคัญรัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยในรูปแบบการคืนเงิน (Cash Rebate) ที่จูงใจกองถ่ายภาพยนตร์จากต่างประเทศ ซึ่งจากการประกาศใช้มาตรการดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน มีภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้าร่วมแล้ว 19 เรื่อง มีมูลค่าการใช้จ่ายเงินในไทยมากกว่า 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ยังได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า ปี 2559-2564 มีผู้สร้างภาพยนตร์จากต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำในไทยแล้ว 3,273 เรื่อง สร้างรายได้เข้าประเทศรวม 17,955.90 ล้านบาท ปี 2564 มีการถ่ายทำในไทยแล้ว 54 เรื่อง นำรายได้เข้าประเทศ 2,759.98 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่า แม้จะมีการระบาดของโรคโควิด-19  คณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศยังเชื่อมั่นและสนใจประเทศไทยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ