จากกรณีตำรวจกองปราบร่วมกับ กก.สส.ภ.8 จับกุม 3 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายธนากร หรือ เอ๋ อักขบุตร อายุ 30 ปี นายกรัณย์ หรือเดียร์ จูดหอม อายุ 40 ปี และนายธรรมรินทร์ หรือหมี แสงหิรัญ อายุ 55 ปี หลังร่วมกันสังหารโหด นายสมพร สินทอง อายุ 46 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง และนักธุรกิจชื่อดังใน อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิต เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ ก่อนเจ้าหน้าที่คุมตัวไปทำแผน

ความคืบหน้าเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจ กก.6 บก.ป. สนธิกำลังตำรวจ กก.สส.ภ.8 และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่บ้านของนายธรรมรินทร์ แสงหิรัญ อายุ 55 ปี ผู้ร่วมวางแผน ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง หลังตำรวจชุดสืบสวนได้เบาะแสว่ารถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทาดำ ทะเบียน 7 กฎ 1674 กรุงเทพมหานคร ที่กลุ่มมือปืนใช้เป็นยานพาหนะก่อเหตุ ได้ถูกชำแหละแยกชิ้นส่วนอยู่ในสระหลังบ้านนายธรรมรินทร์

ที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด เจ้าหน้าที่พบสถานที่ชำแหละในสวนห่างจากบ้านเล็กน้อย โดยข้างบ้านมีสระขุดขนาดใหญ่ จึงได้ประสานนักประดาน้ำจากมูลนิธิสว่างภักดีตรัง เพื่องมาดำหาซากรถที่ถูกชำแหละแยกชิ้นส่วนในสระ ซึ่งจากการค้นหาพบซากประตูรถและเศษซากชิ้นส่วนอยู่ในสระ จากนี้เจ้าหน้าที่จะได้เก็บชิ้นส่วนที่พบไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้งเพื่อประกอบสำนวนคดี

รายงานข่าวแจ้งว่าคดีนี้ศาลจังหวัดเวียงสระออกหมายจับทั้งหมด 6 ราย จับกุมแล้ว 3 ราย เหลืออีก 3 ราย ที่ยังคงหลบหนีประกอบด้วย นายธีรยุทธ์ บุญชนะ อายุ 24 ปี ผู้ร่วมก่อเหตุนั่งในรถเก๋ง นายเอกรินทร์ แสงหิรัญ อายุ 45 ปี มือปืน และนายอัสดายุทธ หรือผู้ใหญ่แม็ก ศักดิ์จิรพาพงษ์ อายุ 42 ปี ผู้จ้างวานฆ่า ยังหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจปูพรหมเร่งจับกุมอย่างกระชั้นชิดแล้ว.