จากกรณีที่นายมะนิช ปราณี อายุ 49 ปี ชาวบ้านคางฮุง หมู่ 5 ต.ธวัชบุรี อ.ธวัชบุรี พร้อมญาติและลูก 3 คน เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.พีระพงษ์ วีระษร รอง สว.(ป) สภ.ธวัชบุรี ซึ่งทำหน้าที่หัวหน้าสถานีตำรวจชุมชน ต.ธงธานี เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565 ว่าถูกเมียรัก อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นเมียที่อยู่กินมากันมา 26 ปี ได้หนีตามผู้ชายแปลกหน้า ที่สำคัญได้นำสมุดบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาธงธานี ที่มีเงินจากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 65 ไปด้วย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 พ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 5 บ้านคางฮุง ต.ธวัชบุรี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เพื่อติดตามความคืบหน้าของครอบครัวที่ตามหาภรรยา ซึ่งหายไป พร้อมกับชายคนใหม่ ปรากฏว่าไม่พบตัวสามี และลูกทั้งสามคนของผู้เสียหาย เนื่องจากเดินทางไปออกรายการโหนกระแสที่กรุงเทพฯ ขณะที่ สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรธวัชบุรี ก็เดินทางไปพบ เพื่อให้คำแนะนำกับผู้เสียหาย หลังจากกรณีที่เมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) ให้ผู้ถูกรางวัลที่ 1 ลงบันทึกแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ของการถูกนำเงินที่ถูก รางวัลที่ 1 แล้วหอบเงินไปหมด เพื่อที่จะสอบสวนปากคำเพิ่มเติม ในรายละเอียดของการเกิดเหตุ เพื่อที่จะพิจารณาว่า เข้าข่ายการยักยอกทรัพย์หรือไม่ แต่ปรากฏว่าไม่พบตัว พบแต่เพียงญาติๆ ของผู้เสียหายอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว
ญาติทุกคน กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นไปแล้ว ก็อยากให้กลับมาหาทางออกร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องเงินที่ออกไปทั้งหมด อย่าให้กลับมาพูดจาเจรจาตกลงกันกับครอบครัว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง โดยไม่ขวางทางที่จะมีแฟนคนใหม่ หรือจะไปอยู่ด้วยกัน แต่ต้องการให้กลับมาเคลียร์ปัญหาด้วยกัน แบ่งเงินกันคนละครึ่งแล้ว ก็ยินดีที่ให้แยกทางกันไป โดยไม่ติดใจแต่อย่างไร
ระหว่างนั้นมีอดีตนายทหาร ซึ่งเป็นคนจดทะเบียนสมรสกับหญิงสาวที่หนีไปกับผู้ชายคนใหม่ กล่าวว่า ต้องการให้เดินทางกลับมา เพื่อที่จะมาจดทะเบียนหย่า เพื่อเป็นการยุติปัญหาทั้งหมด โดยที่ตนเองไม่สนใจเรื่องเงินทองแต่อย่างใด แต่อยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ฝ่ายหญิงจดทะเบียนสมรสกับตนเอง หากไปสร้างความเสียหาย หรือทำในสิ่งที่ดีๆ ก็จะส่งผลกระทบไปยังตนเองด้วย ดังนั้นจึงต้องการให้กลับมาเคลียร์ปัญหา เพื่อเป็นเพราะยุติ และถือว่าทุกอย่างสิ้นสุดสำหรับการใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
