เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ร.ต.อ.หญิง ภิญญลักษณ์ สินวรวิวัฒน์ รอง.สว.สอบสวน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกทำร้ายร่างกายได้บาดเจ็บสาหัส อยู่ภายในบ้านเลขที่ 81 / 6 ซอยทุ่งกลม-ตาลหมัน 18 หมู่ 14 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว ภายในห้องนอน พบร่าง นายคัมภีร์ ถึงคุณ อายุ 27 ปี สภาพนอนหมดสติ ขยับเขยื้อนร่างกายไม่ได้ตามตัวและเสื้อผ้ามีคราบดินโคลนเปรอะเปื้อนไปทั้งตัว มีบาดแผลถูกฟันเข้าหัวคิ้วข้างซ้ายเป็นแผลเหวอะหวะ ยาวประมาณ 5 ซม.เลือดไหลนองใบหน้า อีกทั้งยัง มีร่องรอยถูกตีด้วยไม้หน้าสามเข้าที่หัวไหล่ข้างซ้าย และ กลางแผ่นหลังหลายแห่ง ร่างกายสะบักสะบอม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯต้องรีบปฐมพยาบาล และ นำตัวส่ง รพ.บางละมุง ทันที

นายคัมภีร์ เปิดเผยว่า ถูกนายเพชร และ นายซีน ซึ่งเป็นเพื่อนกัน รุมทำร้าย โดยกล่าวหาว่า ตนไปทำมิดีมิร้าย เพื่อนผู้หญิง รุ่นน้อง โดยตนยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไร แต่ผู้หญิงกลับไปฟ้องนายเพชร และ นายซีน จึงถูกเพื่อนทั้ง 2 คน ใช้ไม้หน้าสาม กระหน่ำตี จนล้มไปนอนกองกับพื้น ช่วงที่ล้มไปแล้ว ยังถูกมีด ซึ่งเป็นมีดสั้น ฟันเข้าที่หน้าผาก 1 ครั้ง แถมใช้ปลายมีดกรีดซ้ำ ก่อนจะถูกเพื่อนไล่ให้ไปเก็บเสื้อผ้า ระหว่างที่เพื่อนปล่อยตัวออกมา จึงฉวยโอกาสวิ่งหนีตายเข้าป่า เอาชีวิตรอด มาขอความช่วยเหลือจากแม่และญาติที่บ้าน  โดยห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กม. พอมาถึงบ้านก็หมดแรงในสภาพดังกล่าว

น.ส.เภา คะรวนรัมย์ อายุ 57 ปี ผู้เป็นแม่ เล่าว่า ลูกชายพยายามหนีมาขอความช่วยเหลือ ในสภาพดังกล่าวตอนแรกที่เห็นก็ตกใจมาก ว่าลูกไปโดนอะไรมา ก่อนจะบอกว่า ถูกเพื่อนใช้ไม้หน้าสามตี และ ใช้มีดฟันหน้า จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการช่วยเหลือดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ เมื่อ 1 เดือนก่อน ลูกชาย เพิ่งถูกกลุ่มเพื่อน 3-4 คน รุมทำร้ายมาแล้ว 1 ครั้ง โดยถูกหลอกให้เข้าไปในห้องแถวแล้วช่วยกันรุมกระทืบ จนหน้าตาและร่างกายบอบช้ำไปทั้งตัว ครั้งนั้นลูกชายได้โทรมาขอความช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งไม่ทราบว่าคนที่ทำร้ายใช่เพื่อนกลุ่มเดียวกันที่ทำร้ายในครั้งนี้หรือไม่ ไปแจ้งความกับ สภ.หนองปรือ ก็ไม่มีความคืบหน้าของคดี จนมาถูกก่อเหตุครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึงเดือน

ด้านตำรวจ เบื้องต้น ได้ทำหนังสือตรวจร่างกายส่งให้ทางโรงพยาบาลบางละมุง ทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ส่วนการสอบสวนปากคำ ต้องรอให้คนเจ็บมีอาการดีขึ้นก่อน ถึงจะนัดมาสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อรวบรวมหลักฐานเอาผิดกับกลุ่มเพื่อนโหดรายนี้ โดยผู้บาดเจ็บยืนยันว่ารู้จักกับผู้ก่อเหตุเป็นอย่างดี จึงเชื่อว่าจะสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ไม่ยากในเร็ววันนี้