ถ้าคุณคิดว่า “ยาเสพติด” กับ “ลัทธิบางอย่างในศาสนา” ทำให้คนหลงใหลติดหนักแล้วละก็…. “โทรุ มุรานิชิ” เจ้าพ่อหนังผู้ใหญ่จะทำให้คุณรู้ว่า การเสพติดหนังผู้ใหญ่นั้นง่ายและมีความรุนแรงกว่าหลายเท่าใน The Naked Director (โป๊ บ้า กล้า รวย) ซีรีส์ญี่ปุ่นที่มีความป่วนฮาน้ำตาไหล จาก season 1 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จัดหนักจัดเต็มกับ season 2 ด้วยเนื้อหาความเป็นดราม่าแบบครบเครื่องอีกครั้งทาง Netflix
ย้อนความไปยัง Season 1 “โทรุ มุรานิชิ” เจ้าพ่อหนังผู้ใหญ่ (นำแสดงโดย ทาคายูกิ ยามาดะ) เดิมเป็นเซลล์แมนตกอับแถมภรรยายังนอกใจ ตอนนั้นชีวิตเขาเป๋ไปแบบสุดทาง จนได้พบกับ “โทชิ อาราอิ” (รับบทโดย ชินโนะสึเกะ มิตสึชิมะ) เพื่อนนักเลงหัวไม้ที่พาเขาไปรู้จักกับตลาดสุดยั่วใจอย่างนิตยสารผู้ใหญ่ ปรากฏว่า “มุรานิชิ” เห็นช่องทางการทำเงินจากธุรกิจนี้ จึงร่วมมือกับ “โทชิ” ไปกู้เงินมาเปิดร้านขายหนังสือจนประสบความสำเร็จดังเป็นพลุแตก เรื่องรู้ไปถึงหูของ “อิเคะซาวะ” (รับบทโดย เรียว อิชิบาชิ) เจ้าพ่อสื่อแนวผู้ใหญ่แห่งค่ายโพไซดอน เขายื่นข้อเสนอให้ “มุรานิชิ” ขายกิจการทั้งหมดให้เขา แต่นักธุรกิจหนุ่มปฏิเสธไม่ขาย ทำให้ “อิเคะซาวะ” โกรธมาก หมายหัวจะทำลายกิจการทุกอย่างของ “มุรานิชิ” ก่อนใช้เส้นสายให้ “ทาเคอิ” ตำรวจนครบาล ไปจับ “มุรานิชิ” ในข้อหาทำสื่อผิดกฎหมาย
ต่อมา “มุรานิชิ” พ้นโทษออกจากคุก ยุคสมัยเปลี่ยนไป คนนิยมดูหนังจากเทป “วิดีโอ” แทนที่จะอ่านหนังสือเหมือนแต่ก่อน ทาง “มุรานิชิ” จึงปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ถึงขนาดถ่ายหนังแนวผู้ใหญ่แบบ UnCensor มาขาย แต่ “อิเคะซาวะ” หาทางเล่นงานเขาอีก ด้วยการจัดตั้ง “กองเซ็นเซอร์” มาแบนหนังของเขา ขณะนั้น “คาโอรุ คุโรกิ” (รับบทโดย มิสาโตะ โมริตะ) สาวน้อยที่บ้านมีฐานะทางการเงิน ต้องการปลดแอกกรอบที่แน่นหนาของแม่ จึงยอมมาเล่นหนัง AV กับ “มุรานิชิ” กลายเป็นกระแสฮือฮายอดสั่งจองเพียบ แต่ยังไม่ทันได้ขาย ความทราบไปถึงแม่ของ “คุโรกิ” โร่แจ้งความเอาเรื่องให้ระงับวิดีโอทั้งหมด กลายเป็นว่า “มุรานิชิ” แทบจะเจ๊งหมดตัว เขาจึงออกเดินทางไปถ่ายทำหนังผู้ใหญ่ที่เกาะฮาวาย โดยใช้ดาราฝรั่งตัวแม่ ปรากฏว่างานเข้าเต็ม ๆ “มุรานิชิ” โดน FBI จับกุมตัวข้อหาลักลอบถ่ายหนังผิดกฎหมายในสหรัฐอเมริกา
ขณะที่เขากำลังติดคุก เพื่อนสนิทอย่าง “โทชิ” กับลูกน้องอย่าง “คาวาดะ” (รับบทโดย เท็ตสึจิ ทามายาม่า) ได้ช่วยกันหาเงินร่วมกับสาวน้อย “คุโรกิ” ไปประกันตัวเอา “มุรานิชิ” ออกจากคุกได้สำเร็จ ขณะนั้น “คุโรกิ” กลายเป็นนางแบบดาวค้างฟ้า หลังจากหนังแนวผู้ใหญ่ของเธอได้รับความนิยม ทางกรมตำรวจจึงปฏิรูปครั้งใหญ่ ออกนโยบายกวาดล้างสื่อผิดกฎหมาย ทำให้ “โทชิ” ที่แอบทำการค้าขายกับ “ยากุซ่า” ถูกจับตัวเข้าคุก เขารับผิดเพียงคนเดียว หลังพ้นโทษ “โทชิ” ได้รับการยอมรับจากหัวหน้ายากุซ่าจนกลับมาอยู่ในแก๊งเดิม ขณะเดียวกัน “อิเคะซาวา” ถูกนายตำรวจ “ทาเคอิ” คนสนิทหักหลัง เอาหลักฐานไปส่งกรมตำรวจให้จับกุมเจ้าพ่อหนังผู้ใหญ่ ฐานแอบทำหนัง UnCensor ขายตลาดใต้ดิน ส่งผลให้ “อิเคะซาวา” ผูกคอตายในคุก
ส่วนเรื่องราวใน Season 2 ตำแหน่งเจ้าพ่อหนังผู้ใหญ่ถูกเปลี่ยนมือมาเป็นของ “มุรานิชิ” แล้ว ถือเป็นยุคทองของเขาที่จะสร้างผลงานร่วมกับ “คุโรกิ” นางเอก AV คู่บุญ เรื่องราวเหมือนจะจบลงแบบ Happy Ending แต่กลับกลายเป็นว่า “มุรานิชิ” ต้องการขายหนังผู้ใหญ่ไปทั่วโลกแบบดูได้ 24 ชั่วโมง ทางเดียวที่จะทำได้คือการทำ “ทีวีดาวเทียม” ซึ่งใช้เงินทุนมหาศาล “มุรานิชิ” ไม่ฟังเสียงเพื่อนที่เคยสนับสนุนเขา ฝั่ง “โทชิ” ที่แตกหักไปอยู่กับยากุซ่า ก็เกิดเรื่องวุ่น ๆ ไม่หยุด ส่วน “คาวะดะ” ก็แยกไปทำหนังที่เขาต้องการทำ กลายเป็น 3 เส้นเรื่อง จุดจบของทั้ง 3 คนจะเป็นอย่างไร? ต้องไปติดตามชมกัน
จุดเด่นของ The Naked Director Season 2 ในตอนแรก ๆ สนุกดูน่าติดตามเหมือน Season 1 ด้วยลูกเล่นและลูกบ้าของ “มุรานิชิ” รวมไปถึงการแตกเส้นเรื่องของบุคคลทั้งสาม แต่ในตอนหลัง ๆ กลับเน้นดราม่า ตั้งแต่ความไม่แน่นอนในชีวิต บิ้วให้อารมณ์ของหนังซีเรียสขึ้นเรื่อย ๆ แถมยังมีฉากเลือดสาดฆ่ากันแบบสยอง ๆ จากหนังตลกโปกฮาชวนให้ติดตามแฝงด้วยสาระของการค้าขาย การลงทุนทำธุรกิจด้วยกลยุทธที่น่าสนใจ กลับกลายเป็นหนังสยองขวัญ 18+ ขึ้นมาซะงั้น ผู้ชมหลายท่านอาจปรับเปลี่ยนอารมณ์ไม่ทัน ทำให้ทัศนคติดี ๆ ของหนังเรื่องนี้หดหายไปเยอะ ความลึกของเรื่องยังเจาะจงกับปัญหาการเงิน มุ่งเน้นปัญหาส่วนตัวของแต่ละตัวละคร ราวกับเป็นมิติคู่ขนานของ Season 1
และเมื่อชมซีรี่ส์เรื่องนี้จนจบ ก็นำมาสู่คำถามที่ว่า คุณเชื่อใน “กฎแห่งกรรม” ที่ว่าใครทำอะไรไว้ จะได้รับผลกรรมเช่นนั้นหรือไม่?.
ภาณุพงศ์ ส่องสว่าง