เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการสืบสวนกลุ่มผู้ต้องหาสัญชาติจีนที่เข้ามาทำธุรกิจสถานบันเทิงผิดกฎหมายในไทย ว่า การสืบสวนขณะนี้พบว่ามีผู้ต้องหาหลัก 5 คน ตำรวจจับได้แล้ว 2 คน ส่วนอีก 3 คน ได้หลบหนีไปต่างประเทศโดยใช้เครื่องบินส่วนตัวบินหลบหนีไปหลังจากที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นสถานบันเทิงจินหลิง ย่านยานนาวา และพัทยาในห้วง 1-3 วันหลังจากการเข้าตรวจค้นจับกุม ทั้งนี้ ได้สืบสวนจนพบว่ามีการนำเงินไปฟอกซื้อทรัพย์สิน ห้องพักคอนโดมิเนียม และรถยนต์หรูอยู่จำนวนมากในกรุงเทพมหานคร จึงเข้าตรวจค้นในหลายแห่งตามหมู่บ้านหรูคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง จึงสามารถยึดทั้งทรัพย์สินและเงินสดไว้ตรวจสอบได้หลายร้อยล้านบาท

ทลายขุมทรัพย์! ตร.ขยายผล ‘ผับจินหลิง’ ยึด ‘รถหรู-เงิน-เหล้า’ มูลค่ากว่า 150 ล้าน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ข้อมูลที่ตำรวจได้มาส่วนใหญ่ตรงกับที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส่งมอบให้ตำรวจร่วมตรวจสอบ และหลังจากที่ได้ขยายผลไปที่เครือข่ายทำให้กลุ่มคนจีนที่เข้ามาทำผิดกฎหมายเริ่มหลบหนีออกประเทศไปมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้เชิญเลขาธิการสำนักงาน ปปง. มาร่วมหารือถึงการสืบสวนเส้นทางการเงินของกลุ่มขบวนการนี้

ส่วนผู้ต้องหาที่จับตัวได้ ยืนยันว่า มีพยานหลักฐานดำเนินคดีได้ชัดเจน ส่วนคนที่หลบหนีไปขณะนี้ได้ขึ้น Blacklist ไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งเตรียมประสานตำรวจสากลให้ออกหมายแดงกับทั้ง 3 คนที่หลบหนี แต่เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐช่วยให้ผู้ต้องหาหลบหนี แต่มีการสอบตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่อนุญาตให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้อยู่ต่อในประเทศในวีซ่านักเรียน ขณะนี้ได้เรียกมาสอบสวนทั้งหมดแล้ว และอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน หากพบมีส่วนช่วยเหลือก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย.