สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 16 ส.ค.รัฐบาลของ 60 ประเทศ รวมถึงสหรัฐ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย เยอรมนี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีแถลงการณ์ร่วมกัน เรียกร้อง "การรับรองความปลอดภัย" จาก "ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในอัฟกานิสถาน" เพื่อการันตีการเดินทางออกนอกประเทศอย่างปลอดภัย ของเจ้าหน้าที่การทูตต่างชาติ และพลเมืองอัฟกันซึ่งประสงค์เดินทางออกจากอัฟกานิสถาน
แถลงการณ์ดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ ในเวลาเดียวกับที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐยืนยันว่า "บุคลากรทางการทูตทั้งหมด" ประจำสถานเอกอัครราชทูตในกรุงคาบูล อยู่ภายในเขตพื้นที่ปลอดภัยของท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ภายใต้มาตรการคุ้มกันขั้นสูงสุดของทหารอเมริกัน และทหารเหล่านี้จะปักหลักอยู่ที่สนามบิน จนกว่าการอพยพจะเสร็จสิ้น ทั้งนี้ รัฐบาลวอชิงตันยอมรับ การอพยพนักการทูตของสหรัฐ "เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก" และเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับการที่กลุ่มตาลีบันเคลื่อนพลเข้าสู่เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน "รวดเร็วเกินความคาดหมาย"
แต่ในเวลาเดียวกัน รัฐบาลของอีกหลายประเทศ รวมถึงรัสเซีย จีน อินเดีย ปากีสถาน และตุรกี "ยังไม่มีแผนอย่างเป็นทางการ" ในการปิดสถานเอกอัครราชทูตประจำกรุงคาบูล
ขณะที่ประธานาธิบดีอัชราฟ กานี "ซึ่งโดยหลักการ" ยังถือว่าอยู่ในตำแหน่งผู้นำอัฟกานิสถาน เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านบัญชีเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการ ยืนยันยังคงมีความมุ่งมั่นบริหารประเทศ และการเดินทางออกจากอัฟกานิสถาน "เป็นการตัดสินในที่ยากลำบากมาก" 

แต่เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือด และกลุ่มตาลีบันยืนกรานตั้งแต่ต้น ว่ากานีต้องพ้นจากตำแหน่ง ทำให้เขาตัดสินใจนำครอบครัวออกมา โดยรายงานหลายกระแสให้ข้อมูลว่า กานีกำลังอยู่ที่ทาจิกิสถานหรืออุซเบกิสถาน แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ประเทศใดในเวลานี้ ประเทศแห่งนั้น "ไม่ใช่ปลายทางที่แท้จริง".

เครดิตภาพ : REUTERS