จากรณีผู้เสียหาย น.ส.มยุรี สนสร้อย อายุ 34 ปี พร้อมสามี เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากเพจเฟซบุ๊ก สายไหมต้องรอด หลังจากเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา พบว่านายชุติพนธ์ อายุ 26 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี โอนเงินผิดบัญชีเข้ามาที่เบอร์พร้อมเพย์ของ น.ส.มยุรี จำนวน 37,000 บาท ต่อมานายชุติพนธ์ ได้โทรฯ เข้ามาหา น.ส.มยุรี แจ้งว่ามีการโอนเงินผิด ซึ่งเบอร์พร้อมเพย์ใกล้เคียงกันผิดกันแค่เลขตัวเดียว จากนั้นน.ส.มยุรี จึงเดินทางไปที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อลงบันทึกประจำวันก่อนจะโอนเงินคืนผู้เสียหาย แต่เมื่อลงบันทึกประจำวันเสร็จ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาบอกว่า ต้องโอนเงินมาไว้กับตำรวจ เพื่อไว้ตรวจสอบก่อนอีก 1 คืน พร้อมกับอ้างว่าเดี๋ยวจะนำเงินไปคืนให้เจ้าของบัญชีที่โอนผิดมาด้วยตนเอง เนื่องจากภรรยาเป็นคนสุพรรณบุรีเหมือนกัน จากนั้นผ่านไปกว่า 2 สัปดาห์ ทางตำรวจยังไม่ยอมโอนคืนเงินให้กับเจ้าของบัญชี ทำให้นายชุติพนธ์ เดินทางไปแจ้งความ ดำเนินคดีกับ น.ส.มยุรี ในข้อหายักยอกทรัพย์ โดย น.ส.มยุรี กลัวว่าจะตกเป็นผู้ต้องหา จึงตัดสินใจเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอดดังกล่าว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ต.ค. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมด้วยนายชูศักดิ์ แซ่จึง อายุ 36 ปี และ น.ส.มยุรี สนสร้อย อายุ 34 ปี สองสามีภรรยา ได้เดินทางมาที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อเข้าพบ พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์

นายเอกภพ กล่าวว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายมาเข้าพบ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ หลังจากที่เจ้าของเงินจากสุพรรณบุรีโอนเงินผิดมาที่ น.ส.มยุรี และก็แสดงความบริสุทธิ์ใจมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กลับมีพนักงานสอบสวนท่านหนึ่ง มาขอตรวจสอบเงินว่าถูกต้องไหม และทาง น.ส.มยุรี ก็โอนเงินไปที่พนักงานสอบสวนท่านนั้น ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. จนถึงวันนี้ทางเจ้าของเงินตัวจริงก็ยังไม่ได้เงินคืน ก่อนที่เจ้าของเงินไปแจ้งความจับกุม น.ส.มยุรี ในข้อหาฐานยักยอกทรัพย์ เพราะไม่ยอมคืนเงิน ตนเองจึงพาผู้เสียหายมาพบพูดคุยกับทาง ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ด้านนายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนเองก็ยังรู้สึกกังวลใจกับการเดินทางมาที่โรงพักในวันนี้ ซึ่ง ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ก็นัดมารับเงินคืน เพื่อที่จะนำไปให้กับเจ้าของเงินตัวจริง

ขณะที่ พ.ต.อ.อภิชาติ กล่าวว่า วันนี้ทางผมก็ได้เรียกเงินจำนวน 37,000 บาท คืนมาจากพนักงานสอบสวนคนดังกล่าว เพื่อที่จะนำคืนให้กับผู้เสียหายก่อนส่งมอบให้กับเจ้าของที่แท้จริงต่อไป พร้อมกันนี้ ยังได้ตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่แล้ว จากการสอบถามทางพนักงานสอบสวนคนดังกล่าว ทราบว่าเบื้องต้นไม่ว่างและยังไม่มีเวลาที่จะคืนเงิน แต่ได้มีการพูดคุยกับเจ้าของบัญชีตัวจริงก่อนหน้าแล้ว แต่ยังไม่ได้โอนเงินคืนหรือมอบเงินคืน อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอผลการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง

สำหรับตำรวจคนดังกล่าวพบว่า มีตำแหน่งเป็นถึง สารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อีกด้วย.