“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า หลังจากสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักกีฬาเสือภูเขาทีมชาติไทย ไปร่วมการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 19-23 ตุลาคม ที่เมืองซุนชอน ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งนักปั่นไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ได้มา 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง โดย 2 เหรียญทองนั้น ภาพรวมของนักปั่นไทยในรายการนี้นับว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง เพราะมีเวลาเก็บตัวฝึกซ้อมเพียง 17 วัน แต่นักกีฬาทำได้ขนาดนี้ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายกสองล้อไทย ระบุว่า สิ่งที่ต้องแก้ไขคือเรื่องพละกำลัง เรื่องความแข็งแกร่ง แม้ว่าทีมชาติไทยจะสามารถคว้าเหรียญทองจากดาวน์ฮิลล์หญิง และอิลิมิเนเตอร์ชาย แต่ในรายการครอสคันทรียังน่าเป็นห่วง เนื่องจากชาติคู่แข่งในอาเซียนต่างก็มีพัฒนาการที่น่ากลัว และเป็นงานหนักสำหรับสมาคมกีฬาจักรยานฯ ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา และกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ในปีหน้า
“จากประเด็นดังกล่าว สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้กลับมาระดมสมองประชุมร่วมกันทั้งสตาฟฟ์โค้ช นักกีฬา และฝ่ายเทคนิค เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องและมาปรับแผนการเตรียมความพร้อมนักกีฬาจักรยานเสือภูเขาไทยกันใหม่ โดยนำเอาระบบวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้อย่างเต็มรูปแบบในการเตรียมความพร้อม ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ มร.จอห์น เบ็นเนต ผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์การกีฬาจากประเทศอังกฤษ ที่มาปักหลักอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 7 ปีแล้ว จะเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องข้อมูลและการวางแผนการซ้อมของนักกีฬาจักรยานเสือภูเขาทีมชาติไทยในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ เพื่อเป้าหมายในการคว้าเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ ที่กัมพูชา และเอเชี่ยนเกมส์ ที่จีน ในปีหน้า” พลเอกเดชา กล่าว
นายกสองล้อไทย เจ้าของฉายา “หมึกต้นแบบ” กล่าวอีกว่า หลักการทำงาน มร.จอห์น จะเข้ามาตรวจวัดค่าร่างกายของนักกีฬาทีมชาติไทย ไม่ว่าจะเป็นวีโอทูแม็กซ์, ตรวจค่าแลคเตทในเลือด ไปจนถึงกระบวนการเผาผลาญในร่างกายของนักปั่นแต่ละคน เพื่อที่ผู้ฝึกสอนจะได้สามารถวางแผนการฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้มากที่สุด รวมทั้งปรับเรื่องโภชนาการที่เหมาะสมแก่นักกีฬาแต่ละคน เชื่อว่าในระยะเวลาที่เหลืออยู่ก่อนจะถึงกีฬาซีเกมส์ ที่กัมพูชา จนไปถึงเอเชี่ยนเกมส์ ที่นครหางโจว นักปั่นทีมชาติไทยจะพร้อมรับศึกหนักแน่นอน.