ศึกเทควันโดเวิลด์กรังด์กรีซ์ สนามที่ 3 สนามสุดท้ายของปี รายการ “แมนเชสเตอร์ เวิลด์ เทควันโด กรังด์ปรีซ์ 2022” ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 21 ต.ค. ตามเวลาประเทศไทย มีจอมเตะไทย ลงสนาม 2 คน เริ่มจากรุ่น 49 กก.หญิง “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ แชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2020 รุ่น 49 กก.หญิง เจ้าของแชมป์เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 2 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ลงสนามในฐานะมือ 2 ของรายการ ได้บายในรอบแรก เข้ารอบ 16 คน เอาชนะ ชาห์ เอลฮอสไซนี ซามี มือ 18 จากอียิปต์ 2-0 ยก 9-0, 12-4 เข้ารอบ 8 คน ไปชนะ อาบิชาก เซ็มเบิร์ก มือ 10 จากอิสราเอล 2-0 ยก 12-3, 13-1 เข้ารอบรองชนะเลิศ ไปชนะ เกา ชิง มือ 19 จากจีน 2-1 ยก 10-0, 17-6 (แพ้กัมเจิม), 36-12

ในรอบชิงชนะเลิศ พาณิภัค ดวลกับ เมอร์ฟ ดินเซล มือ 5 จากตุรกี ที่เอาชนะ อาเดรียนา อิเกลเซียส เซเรโว มือ 1 ของรายการ ดีกรีเหรียญเงิน โอลิมปิกเกมส์ 2020 จากสเปน 2-1 ยก ปรากฏว่า ทั้งคู่เล่นกันอย่างระมัดระวังตัว แต่ “เทนนิส” อาศัยประสบการณ์ที่เหนือกว่า เตะเอาชนะ ดินเซล ไป 2-0 ยก 1-0, 3-2 ผงาดคว้าแชมป์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รายการที่ 8 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของวงการเทควันโดโลกอีกด้วย

ขณะที่ รุ่น 58 กก.ชาย “ฮามัน” ธนกฤต ยอดรักษ์ จอมเตะดาวรุ่งของไทย ที่ประเดิมศึกใหญ่ระดับนานาชาติเป็นครั้งแรกในชีวิต ลงสนามในฐานะมือ 25 ของรายการ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม รอบแรก ชนะ แบรนดอน เอร์นานเดซ พลาซา จากเม็กซิโก 2-0 ยก 9-1, 10-4 รอบ 16 คน ชนะ โมฮาเหม็ด นูร์ จากสหราชอาณาจักร 2-0 ยก 12-8, 12-7 แต่รอบ 8 คน ไปพ่ายให้กับ วิโต เดลลาควิญา เต็ง 1 ของรายการ เจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 จากอิตาลี 1-2 ยก 0-6, 14-4, 1-5 ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจบเกม พาณิภัค กล่าวว่า ดีใจและภูมิใจในตัวเองมากๆ และเพิ่งทราบว่าเป็นนักกีฬาหญิงคนแรกที่ได้เหรียญทองรายการกรังด์ปรีซ์มากที่สุด ทำให้ดีใจเพิ่มขึ้นไปอีก กลับไปต้องฝึกซ้อมหนักกว่าเดิมและเรียนรู้กติกาใหม่ให้มากขึ้น เพื่อเตรียมไปแข่งขันใน 2 รายการที่เหลือในปีนี้ คือศึกชิงแชมป์โลก ที่เม็กซิโก และศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ไฟนอลส์ ที่ซาอุดีอาระเบีย

ขณะที่ “โค้ชเช” ชัชชัย ชเว หัวหน้าผู้ฝึกสอน ที่พา พาณิภัค ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ขณะที่เจ้าตัวก็เพิ่งได้รับการโอนสัญชาติเป็นไทยอย่างเป็นทางการ กล่าวว่า ถือว่า “เทนนิส” ทำได้ดี แต่ต้องยอมรับว่ามีคู่แข่ง นักกีฬาหน้าใหม่ ในรุ่น 49 กก. เพิ่มขึ้นมาอีกหลายคน โดยเฉพาะจากยุโรป แข็งแกร่งไม่น้อย ก็ยังประมาทไม่ได้ จะต้องมุ่งมั่นต่อไป เพราะเป้าหมายใหญ่จริงๆ คือ โอลิมปิกเกมส์ 2024

ทางด้าน “บิ๊กเอ” ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า สำหรับ ธนกฤต ที่แข่งขันรายการใหญ่ครั้งแรก ทำได้ดี แม้จะไม่มีเหรียญเพราะยังเป็นน้องใหม่ อายุน้อย แพ้อิตาลี ดีกรีแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2022 ไปอย่างเฉียดฉิว แต่โดยรวมถือว่ามีอนาคตที่สดใส ส่วน พาณิภัค ไม่ทำให้ผิดหวัง คว้าเหรียญทองอีกครั้ง ได้แชมป์ 2 รายการติดต่อกัน ทั้งจากปารีสและแมนเชสเตอร์ ทำให้ยังคงรักษามือ 1 ของโลกได้ต่อไป เป็นผลงานที่สดใสเช่นกัน ในการเดินหน้าไปสู่ “ปารีสเกมส์ 2024” ต่อไป.