สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ว่าสำนักงานสมุทรศาสตร์และชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ ( โนอา ) เผยแพร่รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเดือนที่ค่าอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลก "สูงที่สุด" โดยคำนวณร่วมกันระหว่างอูณหภูมิบนพื้นดินและพื้นน้ำ พบว่าสูงขึ้น 0.93 องศาเซลเซียส หรือ 1.67 ฟาเรนไฮต์ เป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดของอุณหภูมิเฉลี่ยเดือน ก.ค. นับตั้งแต่โนอาเริ่มบันทึกสถิติ เมื่อ 142 ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม รายงานโดยศูนย์วิเคราะห์สภาพอากาศของสหภาพยุโรป ( อียู ) หรือ "ศูนย์โคเปอร์นิคัส" ระบุว่า เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับสามของโลก แต่หลายฝ่ายมองว่า "ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ" ที่หน่วยงานทั้งสองแห่งจะให้ข้อมูลไม่ตรงกัน โดยโนอามีเครื่องมือที่จำกัดมากกว่าศูนย์โคเปอร์นิคัส ในการวัดอุณหภูมิแถบมหาสมุทรอาร์กติก
ทั้งนี้ทั้งนั้น รายงานของหน่วยงานทั้งสองแห่ง สอดคล้องกับรายงานโดยคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาล ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ( ไอพีซีซี ) ภายใต้การกำกับดูแลขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ( ดับเบิลยูเอ็มโอ ) และโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นอีพี ) ว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มขึ้นสูงกว่า 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม ภายในปี 2573.

เครดิตภาพ : AP