ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ม.เกษมบัณฑิต เผยว่า เนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนาปีที่ 58 ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในวันที่ 17 ต.ค.นี้ นั้น เพื่อเป็นการสะท้อนมุมมองและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและผู้เกี่ยวข้องในวงการกีฬา KBU SPORT POLLโดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ม.เกษมบัณฑิต จึงสำรวจคิดเห็นเรื่อง “58 ปี กกท.กับมิติการพัฒนากีฬาชาติ”

ซึ่งผลการวิเคราะห์ในมิติต่างๆ โดยภาพรวมพบว่า การติดตามผลงานและกิจกรรมต่างๆ ของ กกท. กลุ่มอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 33.05 ติดตามอย่างต่อเนื่อง รองลงมาร้อยละ 31.19 ติดตามเป็นครั้งคราว ร้อยละ 25.07 ไม่แน่นอนแล้วแต่โอกาส, ความพึงพอใจที่มีต่อการบริหารจัดการของผู้นำองค์กร ส่วนใหญ่ร้อยละ 30.25 พึงพอใจในระดับมาก รองลงมาร้อยละ 28.30 พึงพอใจในระดับปานกลาง ร้อยละ 25.71 พึงพอใจในระดับมากที่สุด ร้อยละ 11.00 พึงพอใจในระดับน้อย

ผลงานและมิติที่เข้าตาประชาชน ส่วนใหญ่ร้อยละ 27.05 การขับเคลื่อนแผนพัฒนากีฬาและนโยบายรัฐบาลสู่การปฏิบัติ รองลงมาร้อยละ 25.03 การสนับสนุนเตรียมการนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ ร้อยละ 17.86 การพัฒนาและยกระดับการบริหารจัดการองค์กรสู่การเปลี่ยนแปลง ร้อยละ 15.88 การสนับสนุนการใช้กีฬาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม, ความคาดหวังที่มีต่อการพัฒนาการกีฬาของประเทศ ส่วนใหญ่ร้อยละ 31.83 พัฒนาและยกระดับกีฬาของประเทศสู่มาตรฐานสากล รองลงมาร้อยละ 29.01 กระจายโอกาสการจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติสู่ภูมิภาค ร้อยละ 14.35 ขับเคลื่อนนโยบายและแผนยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติ

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการสำรวจดังกล่าวอาจจะเป็นเพราะว่า กกท. ในฐานะองค์กรภาครัฐที่มีบทบาทสำคัญสำหรับการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการกีฬาของประเทศ ภายใต้มิติที่หลากหลาย ประกอบกับปัจจุบันสังคมตื่นตัวในการนำกีฬามาเป็นหนึ่งในวิถีชีวิตและร่วมขับเคลื่อนการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มตัวอย่าง จึงให้ความสนใจที่จะติดตามผลงานและกิจกรรมของ กกท. อย่างต่อเนื่อง และที่น่าสนใจเมื่อส่องเข้าไปดูในมิติที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการของผู้นำองค์กร พบว่า ส่วนใหญ่พึงพอใจในระดับมาก

“พร้อมกันนั้นเมื่อพิจารณาถึงผลงานที่เข้าตาผู้ตอบแบบสอบถามจะยกให้การขับเคลื่อนแผนพัฒนาและนโยบายรัฐบาลสู่การปฏิบัติตลอดจนคาดหวังให้มีการพัฒนาและยกระดับการกีฬาของประเทศก้าวสู่มาตรฐานสากล อย่างไรก็ตามผลการสำรวจยังพบว่าในโอกาสที่ กกท. จะก้าวสู่ปีที่ 59 กลุ่มตัวอย่าง ได้สะท้อนมุมมองหรือข้อเสนอแนะอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อการบริหารจัดการของ กกท. และขับเคลื่อนการกีฬาของชาติอีกด้วย”