ลูกชายคนเดียวเป็นเสาหลักของพ่อแม่ จบ ม.6 ไม่เรียนต่อ ยอมเสียสละให้น้องสาวได้เรียน แม่ป่วย พ่อรับจ้างทั่วไป หาทำงานตามห้างร้าน ได้เงินช่วยแม่ส่งน้องเรียน ขี่ จยย.ตกหลุมถนนสาย 304 พลิกคว่ำศีรษะฟาดพื้นถนน เลือดคั่งในสมอง แพทย์สุดยื้อเสียชีวิต ไร้หน่วยงานรับผิดชอบเหลียวแล ส่วนถนนสาย 304 ทั้งขาเข้า และขาออก เกิดเหตุลักษณะเดียวนับครั้งไม่ถ้วน

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนางปราณี จิตรจำลอง อายุ 39 ปี ร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายคือนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ที่เสียชีวิตขณะขี่รถ จยย. พร้อมกับเพื่อน เพื่อไปถ่ายรูปตามแหล่งท่องเที่ยว ขณะขี่กลับบ้าน ถนนที่เต็มไปด้วยหลุมเล็กใหญ่จำนวนมาก ไม่แตกต่างอะไรกับดาวพื้นผิวดาวอังคารเกือบตลอดทั้งสาย ประกอบกับถนนมืด ทำให้มองไม่เห็นหลุม รถ จยย. จึงตกลงไปพลิกคว่ำหัวฟาดพื้นเลือดคั่งในสมอง ปอดฉีก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นางปราณี กล่าวว่า ลูกชายเพิ่งเรียนจบชั้น ม.6 ได้ประมาณ 1 ปี ทีแรกเขาจะเรียนต่อ เห็นพ่อและแม่ส่งเรียนไม่ไหว และก็ยังมีน้องสาวอีกคนวัย 12 ขวบ ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.2 ตัวเขายอมเสียสละไม่เรียนต่อ เพื่อให้น้องสาวได้เรียน จากนั้นตัวเขาก็ไปหางานทำตามห้างร้านต่างๆ เพื่อหาเงินช่วยเหลือแม่เป็นค่ารักษาตัว เพราะตัวเองป่วยอยู่ และส่งให้น้องสาวเรียนได้เรียน ส่วนตัวเอง กับสามี รับจ้างทำงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุช่วงตี 2 มีคนโทรฯ มาบอกว่าลูกเกิดอุบัติเหตุ ได้ถูกส่งตัวรักษาที่ รพ.นาดี อาการไม่ดี แพทย์ส่งต่อ รพ.ศูนย์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนอยากฝากหน่วยงานที่รับผิดชอบกับถนนสาย 304 เข้าไปดูแลและเยียวยาครอบครัวของตนบ้าง

ด้านนายพัฒนชัย ไพรหาญ อายุ 23 ปี เพื่อน กล่าวว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา น้องได้ชวนกันไปเที่ยวที่เวโรน่า ทับลาน เพื่อจะไปถ่ายรูป ขี่รถ จยย. ไปด้วยกันทั้งหมด 7 คัน รวม 9 คน ขี่ไปตามถนนสาย 304 หลังจากถ่ายรูปเสร็จแล้ว ได้เดินทางกลับบ้านและแวะถ่ายรูปบริเวณอุโมงค์บ้านทับลาน ต.บุพราหมณ์ ขณะที่ขี่รถ จยย. น้องขี่ตามมาเป็นคันที่ 2 และน้องได้ตกหลุมหัวฟาดกับพื้นถนน ตอนนั้นยังมีสติอยู่ ถามตอบรู้เรื่อง ขณะมาส่งที่ รพ. อาการเริ่มไม่ดีขึ้นและไม่ตอบสนอง จากนั้นน้องจึงได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา