ตามที่ศาลปกครองอุบลราชธานี มีคำพิพากษาให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คืนสิทธิทีมฟุตบอล ศรีสะเกษ เอฟซี ให้ทีม อีสาน ยูไนเต็ด พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้ อีสาน ยูไนเต็ด รวมดอกเบี้ยแล้วคาดว่า 32 ล้านบาท โดยเหตุแห่งการฟ้องร้อง มีมาจาก สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ชุดก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า สมาคมลูกหนังชุดปัจจุบัน ไม่สามารถชำระครบจำนวนได้ภายในครั้งเดียว 32 ล้านบาท และได้เจรจากับ อีสาน ยูไนเต็ด เพื่อขอผ่อนจ่ายเป็นรายไตรมาสนั้น
ผู้สื่อข่าวสอบถาม “เลขาฯ โจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ซึ่งพ่อบ้านบอลไทย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีเอกสารอย่างเป็นทางการจากศาลกลับมา หลังจากพูดคุย อีสาน ยูไนเต็ด ว่าจะผ่อนชำระ ซึ่งตามขั้นตอนคือต้องส่งแผนการชำระเงินนี้ไปให้กับทางศาลพิจารณา ทางศาลเองก็จะคุยกับทาง อีสาน ยูไนเต็ด ว่าจะยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวหรือไม่ หาก อีสาน ไม่รับกับเงื่อนไขชำระเงินแบบผ่อนจ่าย และทางสมาคมฯ ไม่มีความสามารถหรือศักยภาพมากพอที่จะจ่ายในรอบเดียว ก็จะมีการยึดทรัพย์, อายัดทรัพย์ หรือเก็บรายได้ที่เข้ามาของสมาคมฯ ยึดในสิ่งที่สามารถยึดได้ เป็นต้น
นายพาทิศ กล่าวด้วยว่า ข้อที่มีการมองว่า ทำไม สมาคมฯ ไม่มีเงินจ่ายชดเชยให้กับทาง อีสาน ยูไนเต็ด ต้องทำความเข้าใจว่า สมาคมฯ มีรายได้ประจำเดือน และมีรายรับ ซึ่งเงินที่วางเอาไว้ไม่ได้เตรียมไว้สำหรับค่าใช้จ่ายที่เข้ามาแบบฉุกเฉินแบบนี้ การนำเงินไปจ่าย 32 ล้านบาททันที จะส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของสมาคมฯ ทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดการแข่งขัน, การถ่ายทอดสด, การดูแลทีมชาติ ต่างๆ เป็นต้น หากดึงเงินเงินตรงนี้ไป ก็จะก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาได้อีก ส่วนเรื่องที่ว่า อีสาน ยูไนเต็ด จะไปเริ่มที่ลีกไหนนั้น เป็นเรื่องที่ บริษัท ไทยลีก จำกัด จะไปตีความหมายคำสั่งศาล ซึ่งจะเป็นฤดูกาลหน้า ตอนนี้ขอเคลียร์เรื่องเงินชดเชยให้เรียบร้อยก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่จะมีการฟ้องกลับผู้บริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลชุดเก่า ที่มีคำสั่งให้ ศรีสะเกษ เอฟซี ได้สิทธิแข่งแทน อีสาน ยูไนเต็ดหรือ แหล่งข่าวระบุว่า สภากรรมการ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ชุดปัจจุบัน ได้หารือกันเอาไว้ เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นกับสมาคมฯ ก็คงต้องพิจารณากันว่าจะทำอย่างไรกับผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายกับสมาคมฯ ต่อไป.