ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอายุวัฒน์ อนุตรอริยะกุล ประมงอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา พร้อมด้วย นายรุ่งเรือง ยื่นกระโทก อาสาประมงอำเภอ ออกลาดตระเวนภายในเขื่อนลำแชะ ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี เพื่อป้องปรามการกระทำผิดในช่วงฤดูกาลห้ามจับสัตว์น้ำในฤดูวางไข่ เนื่องจากพื้นที่ภายในเขื่อนลำแชะ ถือเป็นแหล่งน้ำสาธารณะ มีปลาและสัตว์น้ำธรรมชาติหลากหลายสายพันธุ์ กำลังอยู่ในช่วงการวางไข่ เพื่อเพาะขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนประชากรสัตว์น้ำให้เป็นแหล่งอาหารของชาวบ้านในพื้นที่ในอนาคต

จากการลงพื้นที่พบว่ายังคงมีประชาชนส่วนหนึ่งฝ่าฝืนพยายามที่จะเข้ามาจับสัตว์น้ำ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการประชาสัมพันธ์ และแจ้งเตือนให้หยุดการกระทำผิด อีกทั้งยังสามารถตรวจยึดอุปกรณ์ต้องห้ามในการจับสัตว์น้ำช่วงฤดูกาลวางไข่ ได้อีกหลายรายการ อาทิ ลอบ และแหสวรรค์ จึงได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ครบุรี เพื่อให้ติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายอายุวัฒน์ ประมงอำเภอครบุรี กล่าวว่า สำนักงานประมงอำเภอครบุรี เข้าใจถึงปัญหาของชาวบ้านที่ส่วนใหญ่กำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้โอกาสสัตว์น้ำเพิ่มจำนวนประชากร สร้างความอุดมสมบูรณ์แก่แหล่งน้ำ สร้างความยั่งยืนด้านอาหาร ทางกรมประมง จึงต้องขอความร่วมมือทุกคนช่วยชะลอการจับสัตว์น้ำในช่วงนี้ออกไปก่อน จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูกาลห้ามจับสัตว์น้ำที่จะสิ้นสุดภายในสิ้นเดือนสิงหาคม นี้

สำหรับระเบียบห้ามจับสัตว์น้ำในช่วงฤดูปลาวางไข่ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค.64 แต่อนุญาตให้ใช้เครื่องมือบางชนิดที่ไม่ทำลายพันธุ์สัตว์น้ำอย่างรุนแรงตามที่กฎหมายกำหนดในการจับปลาได้ ประกอบด้วย เบ็ดทุกชนิด ยกเว้นเบ็ดราว ตะแกรง สวิง ช้อน ยอ และขนาง ซึ่งมีขนาดปากกว้าง ไม่เกิน 2 เมตร โดยห้ามไม่ให้ทำการประมงด้วยวิธีประดาหน้าตั้งแต่สามเครื่องมือขึ้นไป ไซ ตุ้ม อีจู้ ลัน โปง และโทง เป็นต้น หากผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษ ปรับตั้งแต่ 5,000–50,000 บาท หรือปรับ 5 เท่า ของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำประมง แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า.