ศึก 10 Fight 10 Presented by GS BATTERY ซีซั่น 3 กลับมาระเบิดความเร้าใจอีกครั้ง โดยจะประเดิมคู่แรกในวันที่ 12 ต.ค. นี้ เวลา 20.05 น. เป็นต้นไป ซึ่งคู่ที่แฟนกีฬาชาวไทยทั่วประเทศ จับตามมองเป็นพิเศษ จะเป็นการดวลเดือดกันของสองนักชกวีรบุรุษเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ขวัญใจชาวไทย ระหว่าง “เจ้าศรี” พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ เจ้าของฉายา “อิ๊กคิวซัง” แชมป์รุ่นฟลายเวต ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2000 ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย กับ “เจ้าจิตร” พ.ต.สมจิตร จงจอหอ เจ้าของวลีเด็ด “เจ็บมาเยอะ” แชมป์รุ่นฟลายเวต ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยจะชกกัน 3 ยก ยกละ 3 นาที ถ่ายทอดสดทางช่อง WorkPoint หมายเลข 23

ผู้สื่อข่าวกีฬาเดลินิวส์ สอบถามความพร้อมไปยังสองฮีโร่ขวัญใจชาวไทย ก่อนขึ้นเวทีดวลเดือด โดย วิจารณ์ พลฤทธิ์ วัย 46 ปี เปิดเผยว่า จริงๆ ได้รับการติดต่อมาตั้งแต่ปีที่แล้ว มาปีนี้เราเองคิดว่าการได้เป็นโค้ชทีมชาติด้วย ได้ฝึกซ้อมกับน้องๆ ในทีมชาติบ้าง การชก 3 ยก ร่างกายก็ยังพอไหว อีกอย่างถือเป็นความท้าทายด้วย เลยทำให้อยากชก ตอนแรกคิดว่าพิกัดเดียวกัน แต่ไปๆ มาๆ ตอนนี้ห่างกัน 5 กก. เราหนัก 58 กก. สมจิตร หนัก 63 กก. แต่ก็ไม่เป็นไร พร้อมสู้เต็มที่

“เป้าหมายของการขึ้นชกในรายการ 10 Fight 10 นั้น ผมอยากร่วมสร้างสีสันให้วงการมวย ให้กับแฟนกีฬาชาวไทยมากกว่าจะเน้นผลการแข่งขัน คิดว่าส่วนใหญ่อาจจะเกิดไม่ทัน หรืออาจจะยังเป็นเด็กไม่ทันได้ดูในช่วงที่ผมกับสมจิตร นำเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ มาสู่ประเทศไทย ในฐานะไอดอล ก็อยากจะทำตรงนี้ให้ ส่วนผลแพ้ชนะเป็นเรื่องรอง ผมเองวางเป้าว่าชกให้ได้ครบ 3 ยก ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว” เจ้าศรี กล่าว

ขณะที่ สมจิตร จงจอหอ วัย 47 ปี เผยว่า ตนกับวิจารณ์ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเป็นนักชกทีมชาติไทย แม้จะไม่ได้ฟิตซ้อมเหมือนสมัยเป็นนักกีฬา แต่ไฟต์นี้ก็พร้อมเต็มที่ ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาอย่าง แต่เป้าหมายคืออยากชกให้สนุก อยากให้คนดูได้มีความสุข ส่วนเรื่องความพร้อมก็คงเป็นไปตามวัย

สำหรับ ศึก 10 Fight 10 Presented by GS BATTERY ซีซั่น 3 จัดดวลกำปั้น 10 คู่ โดยคู่ที่ 2 ลำเพลิน วงศกร จะปะทะกับ เอนัน IRONBOY วันที่ 19 ต.ค., คู่ที่ 3 จอส เวอาห์ ปะทะ นะโม เรอบิเย วันที่ 26 ต.ค., คู่ที่ 4 เต๋า Dragon 5 ปะทะ บอย โชคชัย วันที่ 2 พ.ย., คู่ที่ 5 ซาบีน่า ไมซิงเกอร์ ปะทะ โย ยศวดี วันที่ 9 พ.ย., คู่ที่ 6 อนัน อันวา ปะทะ เอก Season Five วันที่ 16 พ.ย., คู่ที่ 7 บอล กฤษณะ ปะทะ บูบู้ กำธร วันที่ 23 พ.ย., คู่ที่ 8 เสนาหอย ปะทะ ต๊อก ศุภกรณ์ วันที่ 30 พ.ย., คู่ที่ 9 ป๊อปปี้ รัชพงศ์ ปะทะ เกรท สพล วันที่ 7 ธ.ค.นี้ และคู่ปิดท้ายคู่ที่ 10 บีม ศรัณยู ปะทะ กาย รัชชานนท์ วันที่ 14 ธ.ค.65 โดยซีซั่นนี้ บัวขาว บัญชาเมฆ เป็นโค้ชทีมดำ ขณะที่ “เพชฌฆาตหน้าหยก” สามารถ พยัคฆ์อรุณ เป็นโค้ชทีมขาว.