เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ พระครูศรีมงคลปริยัติกิจ เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ นำคณะสงฆ์ พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์ ร่วมกันประกอบพิธีเคลื่อนย้ายสรีรสังขารของ พระราชกิตติรังษี (บุญทัน สันตจิตโต) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 อดีตเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ และอดีตเจ้าอาวาสวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ สิริอายุ 81 ปี 60 พรรษา มาตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่พระวิหารวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม พระอารามหลวง ที่จัดเตรียมไว้ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ ร่วมพิธีกันอย่างหนาตา

สืบเนื่องจาก โรงพยาบาลศรีสะเกษ โดยนายแพทย์ ชลวิทย์ หลาวทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษ ออกประกาศว่า พระราชกิตติรังษี ได้มรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 6 ต.ค. เวลา 16.10 น. หลังเข้ารับการรักษาอาการอาพาธ หน้ามืด วิงเวียน ความดันโลหิตต่ำ มีภาวะช็อก จากการติดเชื้อในกระแสโลหิต และปอดอักเสบ โดยรักษาตัวในหอผู้ป่วยหนัก (ไอซียู) แล้วอาการทรุดลง มีภาวะการหายใจล้มเหลว จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ยากระตุ้นความดันโลหิตในระดับที่สูง และใช้เครื่องช่วยพยุงหัวใจ ความดันโลหิตไม่คงที่ ออกซิเจนในเลือดต่ำ คณะแพทย์ได้ให้การดูแลอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง ได้ทำการบำบัดทดแทนไตอย่างต่อเนื่อง แต่อาการไม่ดีขึ้น กระทั่งมรณภาพดังกล่าว สร้างความเศร้าโศกเสียใจในคณะศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง

นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า กำหนดการในวันนี้ หลังเคลื่อนสรีรสังขารหลวงพ่อ พระราชกิตติรังษี อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 แล้วจะมีการสรงน้ำขอขมา โดยพระครูศรีมงคลปริยัติกิจ เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ นำคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ ร่วมสรงน้ำศพขอขมา ก่อนที่ในเวลา 16.00 น. จะมีการประกอบพิธีอัญเชิญ น้ำหลวงสรงศพ ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงสรงศพ แก่ พระราชกิตติรังษี

จากนั้นเวลา 19.00 น. จะมีพิธีสวดพระอภิธรรม ซึ่งพิธีสวดพระอภิธรรม จะมีตั้งแต่ วันที่ 8-19 ตุลาคม 2565 เวลา 19.00 น. ทุกวัน ส่วนกำหนดการอื่น ในวันที่ 12 ตุลาคม 2565 เวลา 10.00 น. จะมีพิธีทำบุญสัตตมวาร (ทำบุญควบ 7 วัน) วันที่ 20 ตุลาคม 2565 เวลา 10.00 น. จะมีพิธีทำบุญปัณณรสมวาร (ทำบุญควบ 15 วัน) ส่วนกำหนดการพระราชทานเพลิงศพ ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดการ เนื่องจากต้องประชุม ประเมินความเหมาะกับทุกภาคส่วนก่อน ถึงจะกำหนดวันเวลาที่ชัดเจนได้.