เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เปิดเผยถึงขั้นตอนการปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุม พยายามที่จะเน้นเรื่องการรักษาความสงบและให้เจ้าหน้าที่อยู่ในแนวที่ตั้ง การชุมนุมเมื่อวานนี้เริ่มต้นก็มีการปิดถนนบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและมีการเผาสิ่งของ ซึ่งเดิมทีทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ออกมาให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมทำกิจกรรม จนกระทั่งเริ่มมีการเผาจึงเกรงว่าจะมีเหตุการณ์ลุกลามจึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาและจับกุมบุคคลไปจำนวนหนึ่ง

หลังจับกุมผู้ชุมนุมได้แยกย้ายกันก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับ ไม่ได้ดำเนินการต่อ เพราะเกรงว่าการดำเนินการอะไรก็ตามหากปะปนอยู่ในประชาชนอาจส่งผลกระทบกับประชาชนได้ก็พยายามหลีกเลี่ยง จากนั้นก็ได้เคลื่อนขบวนไปยังสามเหลี่ยมดินแดง ซึ่งได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่หลังแนวป้องกันสถานที่สำคัญ จนกระทั่งเริ่มต้นเผาและทำลายรถยนต์ของทางราชการ ระหว่างนั้นมีฝนตกเจ้าหน้าที่ก็หยุดรอเพื่อว่าขณะฝนตกผู้ชุมนุมอาจจะแยกย้ายไป

เมื่อเริ่มมืดเหตุการณ์ก็ยังไม่ยุติ จึงตัดสินใจนำกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ ซึ่งพยายามจำกัดขอบเขตในกรณีเกิดเหตุขึ้น ให้พยายามรักษาความสงบและควบคุมสถานการณ์ กรณีผู้ชุมนุมหลบหนีเข้าบ้านพักอาศัยก็ไม่ต้องติดตาม ซึ่งได้มีการกำชับการปฏิบัติเพราะอาจไปกระทบกับประชาชนที่ไม่ได้ร่วมชุมนุม ยืนยันเจ้าหน้าที่ต้องการรักษาความสงบเรียบร้อยโดยใช้อาวุธตามมติ ครม.ที่ได้รับการอนุมัติเท่านั้น

“สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจถ้าไปสร้างความเดือดร้อนหรือความไม่สะดวกให้กับประชาชนผู้ไม่ได้ร่วมชุมนุม ผมในฐานะเป็นตัวแทนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าไปกระทบถึงพี่น้องประชาชนก็ขออภัย พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยเท่านั้น แต่สำหรับบุคคลอื่นที่กระทำผิดทั้งการวางเพลิงเผาทรัพย์ ทำลายสิ่งของ หรือทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันจะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีทุกราย” พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าว