วันที่ 12 ส.ค. ทางเครือข่ายนักกฎหมายและคณาจารย์นิติศาสตร์ 111 คน ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อการชุมนุมของประชาชน โดยเฉพาะการชุมนุมในวันที่ 7 และ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจมุ่งใช้ความรุนแรงและกำลังเป็นเครื่องมือในการจัดการกับผู้ชุมนุมไม่เป็นไปตามหลักการที่ยอมรับทั่วไป เช่น ยิงกระสุนยางจากพื้นที่สูง ยิงเข้าใส่ตัวบุคคล ยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปในที่ชุมนุมและพื้นที่โดยไม่ใส่ใจต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้คน มีการยั่วยุผู้ชุมนุมให้โกรธแค้น

ทั้งนี้เป็นที่ยอมรับกันว่า การชุมนุมสาธารณะอาจเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดการละเมิดต่อกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายจราจร กฎหมายเกี่ยวกับการใช้เครื่องเสียง การเผาสิ่งของในที่สาธารณะ กระทั่งการฝ่าฝืนกฎหมายการชุมนุมสาธารณะ ฯลฯ แม้ผู้เข้าร่วมการชุมนุมจะมีการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว แต่การกระทำผิดต่อกฎหมายเหล่านี้ก็ไม่เป็นเหตุผลสำคัญที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถใช้ความรุนแรงต่อประชาชนเพื่อเป็นการตอบโต้ได้ตามอำเภอใจ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจคือบุคคลที่ทำหน้าที่ในฐานะของกลไกของรัฐประเภทหนึ่ง หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อเกิดการกระทำอันเป็นความผิดต่อกฎหมายขึ้นก็คือการดำเนินการจัดการกับปัญหาภายใต้กรอบที่กฎหมายได้กำหนดไว้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมิใช่คู่ความขัดแย้งโดยตรงกับประชาชนในการปฏิบัติตามหน้าที่ หากเป็นผู้ใช้อำนาจรัฐจึงย่อมกระทำการอย่างระมัดระวัง หากจะมีการใช้กำลังหรืออาวุธ ก็ต้องเป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นมาตรการขั้นสุดท้ายหรือเป็นไปเพื่อป้องกันตนเอง

ทั้งนี้ทางเครือข่ายได้เรียกร้องไปยังผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะของผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงาน โดยต้องดำเนินการในทุกวิถีทางไม่ให้เกิดการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก 2.หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อทำการสอบสวนค้นหาข้อเท็จจริง เฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนต่อการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามประชาชนเพื่อนำมาสู่การลงโทษในกรณีที่ได้มีการใช้อำนาจและปฏิบัติการที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ทั้งในส่วนของผู้บังคับบัญชาและในส่วนของระดับปฏิบัติงาน

อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็มได้ที่นี่