เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในหลายพื้นที่ใน จ.สุรินทร์ ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุโนรู ที่ตกตลอดค่ำคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงในเขตอำเภอเมืองสุรินทร์, ชุมพลบุรี, ท่าตูม, รัตนบุรี, จอมพระ, สนม, โนนนารายณ์, ศีขรภูมิ, และสำโรงทาบ
นอกจากนี้สถานการณ์น้ำท่วมสุรินทร์ ยังขยายวงกว้างเข้าท่วมหมู่บ้าน พื้นที่นา รวมทั้งพื้นที่ลุ่มในท้ายอ่างเก็บน้ำ แม้ว่าอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ซึ่งรับน้ำจากเทือกเขาพนมดงรัก จะมีการเร่งระบายน้ำ จาก 18 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือเพียง 14 ล้านลูกบาศก์เมตร ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน อ่างเก็บน้ำลำพอก ศรีขรภูมิ ซึ่งเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่รองรับน้ำจากเทือกเขาพนมดงรัก ผ่านอำเภอสังขะ และศรีณรงค์ พบว่า มีมวลน้ำรวมตัวกันจนเอ่อล้นเข้าท่วมศีขรภูมิ และเส้นทางอื่น ๆ อีกหลายแห่ง จนชาวบ้านต่างได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ อำเภอสุดท้ายของ จ.สุรินทร์ ที่จะเกิดน้ำท่วมหนัก คือ ช่วงอำเภอตอนล่าง ได้แก่ สำโรงทาบ โดยพบว่า สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงและต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
สำหรับถนนสายหลักและเส้นทางหลวงหลายสาย ที่ยังคงมีน้ำท่วมอยู่และไม่สามารถจราจรไปมาได้ คือ ถนนสาย สร.4015 แยกทางหลวงหมายเลข 2371 บ้านอาโพน อำเภอศีขรภูมิ และสำโรงทาบ โดยพบว่า มีน้ำท่วมถนนสูงประมาณ 50-70 เซนติเมตร, ถนนสาย สร.3010 แยกทางหลวงหมายเลข 226 บ้านปราสาท อำเภอเมือง มีสภาพน้ำท่วมกัดเซาะถนนขาด ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 12 และถนนสายสุรินทร์-บุรีรัมย์ (เส้นลำชี) บริเวณหน้าสถานีโทรทัศน์ NBT และร้านอาหาร อำเภอกุ้งเผา มีน้ำท่วมกินวงกว้างเป็นระยะทางกว่า 300 เมตร
มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการ เบื้องต้น อำเภอสำโรงทาบ มีประชาชนเดือดร้อนประสบภัยน้ำท่วมแล้วจำนวน 4 ตำบล 19 หมู่บ้าน เกษตรกร 682 ราย พื้นที่นาเสียหาย 5,365 ไร่ พื้นที่ที่คาดว่าจะเสียหาย 4,927 ไร่ ในขณะพื้นที่ของหมู่บ้านป่าเวย ล่าสุดเดือดร้อน 45 ครัวเรือน และอยู่ในระหว่างสำรวจความเสียหาย
ขณะนี้ทางหน่วยบริการฯ สังขะ ได้รายงานสภาพทางสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่รับผิดชอบ ดังนี้ เส้นทาง 24 บริเวณ หลัก กม.239-240 ตำบลชบ อำเภอสังขะ มีน้ำท่วมขัง ระทาง ประมาณ 300 เมตร ลึกประมาณ 80 ซม. ถึง 100 ซม. ทั้งขาขึ้น (ไปอุบลฯ) และขาเข้า (ไป กทม.) รถยนต์เล็ก รถ จยย. ปิกอัพ ผ่านไม่ได้ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำกรวยยางมาปิดกั้นเส้นทาง จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยคอยบริการประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยงและประสานช่างซ่อมรถและรถยกในพื้นที่ขอความร่วมมือหากได้รับการร้องขอจากประชาชนประสานหมวกการทางสังขะ และแขวงการทางสุรินทร์นำกรวยและป้ายบอกเส้นทางเลี่ยงต่างๆ มาติดตั้ง พร้อมกับแนะนำเส้นทางเลี่ยง รถที่จะเข้าเข้า กทม. เมื่อมาถึงบริเวณสี่แยกสังขะให้กลับรถย้อนขึ้นไป ประมาณ 800 เมตร แล้วขวา 3 แยกสังขะ-สังขะ-ลำดวน (ทล.2077) เลี้ยวซ้ายเข้าตำบลกระเทียม-เข้า ทล.24 เข้า กทม. และทางเลี่ยงสำหรับรถที่จะเข้า ศรีสะเกษ-อุบลฯ ดังนี้ เมื่อออกจากอำเภอปราสาทตามเส้นทาง 24 เมื่อถึงสี่แยกตำบลกระเทียม ให้เลี้ยวซ้ายเข้าอำเภอลำดวน-เข้า ทล.2077 มุ่งหน้าอำเภอสังขะ-ไฟแดงสังขะ-เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางหลักเมืองสังขะและ เลี้ยวซ้ายเข้า ทล.24-ศรีสะเกษ อุบลฯ ประกอบกับการดำเนินการป้ายบอกทาง/อุปกรณ์การจราจรต่อไป
นอกจากนี้ จังหวัดสุรินทร์ได้ประกาศรายชื่อศูนย์พักพิงชั่วคราว อำเภอเมืองสุรินทร์ ให้กับประชาชนที่เดือดร้อน จำนวน 18 แห่ง คือ กก.ตชด.21 ต.เฉนียง, ม.เทคโนราชมงคลฯ ตำบลนอกเมือง, มรภ.สุรินทร์ ตำบลนอกเมือง, หอประชุม อบต.สวาย, วัดโคกเมือง-ตะเคียน ตำบลสวาย, หอประชุม อบต.ตระแสง, หอประชุม อบต.เฉนียง, หอประชุม อบต.คอโค, หอประชุม อบต.เพี้ยราม, หอประชุม อบต.ท่าสว่าง, หอประชุม อบต.กาเกาะ, โรงเรียนบ้านกาเกาะ-ระโยง ตำบลท่าสว่าง, โรงเรียนสำโรง-โคกเพชร ตำบลท่าสว่าง, โรงเรียนประทัดบุ-อาลอ ตำบลท่าสว่าง, โรงเรียนพญารามวิทยา ตำบลเพี้ยราม, วัดดอนวิเวก ตำบลนาดี, โรงเรียนบ้านแกใหญ่ ตำบลแกใหญ่ และวัดปทุมธรรมชาติ ตำบลแกใหญ่.
