นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม เดือน ก.ค.64 โดยสำรวจโรงแรมกว่า 304 แห่งทั่วประเทศ ว่า ในเดือนนี้ ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่อย่างต่อเนื่อง มีอัตราการเข้าพักยังอยู่ในระดับต่ำมาก ส่งผลให้เกือบ 60% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่มีสภาพคล่องลดลงจากเดือนก่อน โดยโรงแรมส่วนใหญ่ที่เปิดกิจการมีสภาพคล่องลดลงมากกว่า 20% เฉลี่ยแล้วมีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจไม่เกิน 3 เดือน ส่วนกลุ่มที่มีสภาพคล่องเพียงพอไม่ถึง 1 เดือน พบว่า มีสัดส่วนค่อนข้างสูง ถึง 23% จากโรงแรมที่เปิดกิจการทั้งหมด โดยกระจายอยู่ในทุกภูมิภาค

ทั้งนี้จากการสำรวจสถานะกิจการ ของผู้ประกอบการ 272 แห่ง (ไม่รวมโรงแรมที่เป็นสถานกักตัว และฮอสพิเทล) มีโรงแรมเพียง 40.1% ที่ยังเปิดกิจการปกติ ที่เหลือ 38.2% เปิดกิจการเพียงบางส่วน และอีกกว่า 21.7% ที่ยังปิดกิจการชั่วคราว โดยสัดส่วนของโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย 2.2% ซึ่งโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวกว่า 56% คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งในไตรมาส 4 ปีนี้ ส่วนกลุ่มที่คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการภายในไตรมาส 3 นี้มีเพียง 12% เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น

ส่วนสถานการณ์รายได้ พบว่าโรงแรมส่วนใหญ่ยังมีรายได้อยู่ในระดับต่ำ โดยมากกว่า 56.9% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ทั้งหมด มีรายได้กลับมาไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ส่วนโรงแรมที่มีรายได้ที่ระดับ 11-30% มีสัดส่วน 18.3%, โรงแรมที่มีรายได้ระดับ 31-50% มีสัดส่วน 3.6%, โรงแรมที่มีรายได้ระดับ 51-70% มีสัดส่วน 7.1% และโรงแรมที่มีรายได้ระดับมากกว่า 70% มีสัดส่วน 14.2%

ขณะที่ อัตราการเข้าพัก เฉลี่ยยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 10% ทรงตัวจากเดือนก่อน เนื่องจากการเข้าพักที่ปรับเพิ่มขึ้นของโรงแรมในภาคใต้ โดยเฉพาะภูเก็ตที่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นสำคัญ ขณะที่ภาคเหนือและภาคกลางยังมีอัตราการเข้าพักลดลงต่อเนื่อง  นางมาริสา กล่าวว่า โรงแรมส่วนใหญ่ ประเมินว่าสถานการณ์ในเดือน ส.ค.นี้ จะปรับแย่ลงจากเดือน ก.ค. โดยคาดว่า อัตราเข้าพักเฉลี่ยต่ำกว่า 10% ในทุกภาค รวมทั้งประเทศอยู่ที่ 8% และต่ำสุดคือภาคเหนืออยู่ที่ 4% เท่านั้น