เป็นเรื่องราวที่ยังคาใจความรู้สึกของคนเป็นแม่ และครอบครัวกับเรื่องราวของ “น้องโชค” เด็กชาย ม.3 ที่อยู่ในห้องเรียน กำลังจะเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ แต่อยู่ดีๆ มีเสียงระเบิดดังขึ้น แล้วน้องก็ล้มลงไป และเสียชีวิตในที่สุด

จากกรณีเมื่อสัปดาห์ก่อน มีข่าวบอกว่า สาเหตุการเสียชีวิตของ น้องโชค เกิดจากคีย์บอร์ดระเบิด ซึ่งก็มีผู้เชี่ยวชาญรวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ออกมาชี้แจงว่าเป็นไปไม่ได้ จึงมีการสอบสวนลึกลงไปอีก พบว่ามีเด็กคนหนึ่งเอาปืนไปที่โรงเรียน แล้วอ้างว่าปืนลั่นไปโดน น้องโชค จนเสียชีวิต แต่ครอบครัวไม่เชื่อ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่  20 ก.ย. ที่วัดราษฎร์ประคองธรรม ศาลา 2 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี บรรยากาศงานสวดอภิธรรมศพน้องโชค มีญาติ และเพื่อนๆ ของน้องโชคมาร่วมฝังสวดอภิธรรมศพด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ซึ่งทางเข้าวัดได้มีจุดตรวจอาวุธ โดยมีเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.บางใหญ่ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามนนทบุรี คอยดูแลความเรียบร้อย เนื่องจากงานสวดอภิธรรมศพของน้องโชค ที่ 2 และคืนที่ 3 ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามนนทบุรี ได้ตรวจค้นพบเด็กวัยรุ่นซึ่งไม่รู้ว่ากลุ่มไหนเป็นกลุ่มไหน พกมีดเข้ามาในงานศพของน้องโชค เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับเพื่อนๆ ของน้องโชคที่เข้ามาร่วมฟังสวดอภิธรรมศพ จึงได้ขออำนวยความสะดวกกับเจ้าหน้าที่ ให้ช่วยเข้ามาดูแลในงาน

‘หลวงตา’ ตกใจ ‘น้องโชค’ มาปรากฏให้เห็นหน้าบ้าน เชื่ออยากทวงความยุติธรรม

ด้าน น.ส.ปวีณา อายุ 35 ปี แม่ของ น้องโชค กล่าวว่า แม่จะทวงความยุติธรรมหาความจริงให้ลูก หัวอกแม่คนหนึ่ง แม่ทำใจไม่ได้หรอกแต่ยังไงลูกก็ไม่ตายฟรีหรอก แม่จะหาความยุติธรรม ความจริงทุกอย่างให้ลูกเอง วันนี้ก็สวดเป็นคืนสุดท้าย ทั้งหมดสวดมา 5 คืน แม่จะเก็บร่างน้องไว้เพราะวันที่ 19 ก.ย. ครบ 7 วัน จะทำบุญให้น้องก่อนครบ 7 วัน รอในส่วนของเรื่องคดีจะคลี่คลายหาข้อเท็จจริงได้ชัดเจนมากขึ้น จนทำให้แม่เชื่อมั่นว่า มันเป็นไปตามที่ทางตำรวจแถลง ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่

“โชคแม่รักโชคนะ แม่มองหน้าลูกทุกวันเลยผ่านโลงเย็น แม่อยากได้ที่สุดคือให้ลูกกลับมาด้วยซ้ำ แต่มันไม่ได้แล้ว ในฐานะคนเป็นแม่ที่ต้องสูญเสียลูกคนเดียวไป แบบที่ลูกไม่ได้ตั้งตัว ทุกคนในครอบครัวเสียใจมาก แถมมาเป็นคดีอะไรก็ไม่รู้ แต่แม่เชื่อว่าแม่จะหาความจริงความยุติธรรมให้ลูกอย่างที่แม่บอก ลูกจะไม่ตายฟรี ลูกเป็นคนดีแม่ขอบคุณนะ” น.ส.ปวีณา กล่าว