นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานให้บริการเรือ สินค้า และตู้สินค้า จำนวนท่าเรือ 5 แห่ง ที่อยู่ในความรับผิดชอบ ประกอบด้วย ท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน (ทชส.) ท่าเรือเชียงของ (ทชข.) และท่าเรือระนอง (ทรน.) ปีงบประมาณช่วง ต.ค.64-มิ.ย.65 รวม 9 เดือน เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบ 64 สรุปดังนี้

ทกท. เรือเทียบท่า 3,381 เที่ยว เพิ่มขึ้น 11.95% สินค้าผ่านท่า 13.97 ล้านตัน ลดลง 13.77% ตู้สินค้าผ่านท่า 0.95 ล้าน ที.อี.ยู. ลดลง 13.34%

ทลฉ. เรือเทียบท่า 7,517 เที่ยว เพิ่มขึ้น 4.88% สินค้าผ่านท่า 30.39 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.28% ตู้สินค้าผ่านท่า 6.56 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 5.81%

ทชส. เรือเทียบท่า 1,442 เที่ยว ลดลง 18.85% สินค้าผ่านท่า 60,972 ตัน ลดลง 20.02% ตู้สินค้าผ่านท่า 2,147 ตู้เพิ่มขึ้น 100%

ทชข. ไม่มีเรือเทียบท่าและไม่มีสินค้าผ่านท่า เนื่องจากการค้าขายที่ ทชข. เป็นการค้าระหว่างประเทศไทยและส.ป.ป.ลาว ปัจจุบันการขนส่งสินค้าระหว่างทั้งสองประเทศ ได้ทำการค้าขายที่ด่านสากลผ่านทางสะพานมิตรภาพชายแดนไทย-ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย)

ทรน. เรือเทียบท่า 132 เที่ยว ลดลง 27.87% สินค้าผ่านท่า 60,916 ตัน ลดลง 35.68% ตู้สินค้าผ่านท่า 2,241 ตู้ ลดลง26.38%

ทั้งนี้พบว่า ในรอบ 9 เดือน มีเรือเทียบท่าที่ ทกท. และ ทลฉ. รวม 10,898 เที่ยว เพิ่มขึ้น 6.98% สินค้าผ่านท่า 44.36 ล้านตัน ลดลง 3.38% และตู้สินค้าผ่านท่า 7.52 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 2.94% ส่วนผลการดำเนินงานด้านการเงินของ กทท. ระยะ 9 เดือน มีรายได้สุทธิ 11,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.63% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (ยอดเบื้องต้นก่อนผู้สอบบัญชีรับอนุญาตสอบทาน)

ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่องจาก เดือน ต.ค.64-มิ.ย.65 ที่ร้อยละ 2.4 ชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยทั้งปี65 จะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 2.7-3.2 หลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว ทั้งการบริโภคภายในประเทศ การท่องเที่ยว และการเกษตร สะท้อนการเติบโตของตู้สินค้าของ กทท. ที่ขยายตัวสอดคล้องกับการส่งออกของประเทศ