“มองไกล เห็นใกล้” อย่างเหตุการณ์กลุ่มนักเรียนวิวาททำร้ายคู่อริต่างสถาบันเปิดศึกตะลุมบอน ยกพวกตีกันชุลมุนหน้าอาคารนิมิบุตร แม้จะไร้ซึ่งอาวุธ แต่ต้องยอมรับว่าพฤติกรรมมิต่างอะไรกับหนังบู๊ เลือดร้อน ชกตีกันชนิดไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย  

ที่ผ่านมาเห็นความพยายามแก้ไขขั้นเคยงัด “ไม้แข็ง” นำคำสั่ง “คสช.ที่ 30/2559” มาบังคับ บูรณาการทั้งหน่วยงานและกฎหมายเด็ดขาดขึ้น รวมไปถึงเอาโทษกลุ่ม “รุ่นพี่” ที่ยุยงส่งเสริม “รุ่นน้อง” ตีกับสถาบันคู่อริ ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหา แต่สุดท้ายยังแก้ไขไม่ได้ พลันแต่เกิดเหตุซ้ำไปซ้ำมาไม่จบสิ้น  

ล่าสุดฝั่งนครบาล โดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ตั้งโต๊ะหารือตัวแทนสองสถาบัน เพื่อถกแนวทางป้องปราม ก่อนได้บทสรุป ฝ่ายหนึ่งจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ อีกฝ่ายเปิดการเรียนการสอนตามปกติ, นำตารางเรียนของสองสถาบันมากำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อ “เหลื่อม” เวลาเรียน

มีการกำหนดพื้นที่ปลอดภัย (Safe Zone) แต่ละสถาบัน ลดโอกาสปะหน้าจนเกิดปัญหาวิวาทตามมา พร้อมให้มีการตรวจสอบประวัตินักศึกษาที่เคยก่อเหตุ และตรวจประวัติการรับนักศึกษาใหม่ของแต่ละสถาบัน

ที่น่าสนใจคือแนวคิดที่ว่าต่อไปอาจต้องนำกำลัง “ตำรวจควบคุมฝูงชน” ไปประจำจุดเสี่ยง ใกล้กับสถานที่ที่มักเกิดเหตุทะเลาะวิวาท หรือสถาบันที่มักพบปัญหาบ่อย เพื่อเตรียมพร้อมส่งกำลังเข้าระงับเหตุ รวมถึงพิจารณาจัด “ชุดเคลื่อนที่เร็ว” เพื่อตามจับกุมผู้ก่อเหตุทันที! 

ต้องยอมรับนะครับว่า…ต่อให้มีการควบคุมอย่างดีจากสถาบันและเจ้าหน้าที่ ก็ใช่ว่าปัญหาจะไม่เกิด เพราะ “แก่นแท้ต้นตอ” มาจากค่านิยมจากรุ่นสู่รุ่น

รุ่นพี่เองก็มีส่วนปลูกฝังค่านิยมผิดๆ จนกลายเป็นห่วงโซ่ไม่จบสิ้น ถ่ายทอดต้นฉบับความคิด “นักเรียนนักเลง” ที่คอยไล่ล่าอริ พฤติกรรมไม่ต่างอะไรกับการเย้ยกฎหมาย

ครั้นจะทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ลากคอมาลงโทษ เชือดไก่ให้ลิงดูก็ดูแรงไป แต่เมื่อเทียบกับความสูญเสียศพแล้วศพเล่าที่สังเวยให้ค่านิยมผิดๆ ก็อาจดูสมเหตุสมผล

มีอุทาหรณ์เรื่องหนึ่งที่ พล.ต.ท.สำราญ เคยถ่ายทอดว่า ครั้งหนึ่งตำรวจเคยจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอดีตนักเรียนอาชีวะที่เคยก่อเหตุรุนแรง ยกพวกตีกันจนถูกออกหมายจับ แม้ปัจจุบันเรียนจบ มีเงินเดือนสูงถึง 8 หมื่นบาท แต่ต้องมาถูกดำเนินคดีจากความคึกคะนองและค่านิยมที่ผิดๆ สมัยเรียนจนทำร้ายปัจจุบันและเสียไปถึงอนาคต  

หวังว่าอุทาหรณ์นี้จะเป็นบทเรียนให้คนหลงผิดฉุกคิดกลับตัว…ก่อนทุกอย่างจะสายเกิน!!!

มหาปราบ