ในช่วง 3 – 4 ปีหลังมานี้กระแสของ “ซีรี่ส์วาย” หรือซีรี่ส์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรักผู้ชายและผู้ชายนั้นมาแรงมาก จากคอนเท้นต์เฉพาะกลุ่ม ค่อย ๆ เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงสู่ตลาดระดับเอเชีย กลายเป็นคอนเทนต์ที่ทั้งค่ายใหญ่ ค่ายเล็กหันมาให้ความสนใจ นิยายวายหลายเรื่องถูกหยิบมาทำเป็นซีรี่ส์ แจ้งเกิดคู่จิ้นสายวายโด่งดังเป็นพลุแตกชั่วข้ามคืนไปหลายคน ซึ่งไม่ใช่ดังเฉพาะแค่ในเมืองไทย แต่ยังเป็นที่นิยมในหมู่แฟนคลับต่างชาติ เช่น ในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ด้วย นอกจากนี้เหล่าคู่จิ้นจากซีรี่ส์วายยังกอบโกยทั้งงานอีเว้นท์ พรีเซ็นเตอร์ แฟนมีตติ้งต่าง ๆ รวมไปถึงยึดเทรนด์ทวิตเตอร์ในอันดับสูงอยู่บ่อยครั้ง และปี 2020 นี้ก็ยังคงมีคู่จิ้นสายวาย ที่ควงกันแจ้งเกิดสุดปังไม่น้อย ส่วนคู่วายหน้าเดิม ๆ ก็ยังคงความฮอตไม่แพ้กัน วันนี้ “บันเทิงเดลินิวส์” เลยไม่พลาดนำเรื่องราวของร้อนแรงของพวกเขามาฝากแฟน ๆ กัน
“ไบร้ทวิน” คู่จิ้นซุป’ตาร์ จับมือเคียงข้างทั้งทุกข์สุข
เริ่มกันที่คู่ร้อนแรงสุด ๆ ในปีนี้ อย่างหนุ่ม ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี และ วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ที่ควงแขนกันแจ้งเกิดแบบสุดปังใน “เพราะเราคู่กัน ทูเก็ตเตอร์ เดอะ ซีรี่ส์ (2gether The Series)” หรือ “คั่นกู” ซีรี่ส์วายจาก “จีเอ็มเอ็มทีวี (GMMTV)” ในบท “สารวัตร” และ “ไทน์” ที่ทั้งคู่โชว์เคมีแบบดีต่อใจ แสดงบทบาทออกมาได้ฟินขั้นสุด ทั้งซีนดราม่า คอมดี้กวน ๆ โดยเฉพาะเลิฟซีนกุ๊กกิ๊ก ก็ถูกถ่ายออกมาได้อย่างน่ารัก อบอุ่น ถูกใจแฟน ๆ จนจิกหมอนกันกระจุย
ด้วยความสามารถและเสน่ห์เฉพาะตัวของหนุ่ม ไบร้ท์ ทั้งสายตา รอยยิ้ม คำพูด หรือท่าทางการแสดง ต้องว่าเขาทำให้ “สารวัตร” เจ้าของวลีเด็ด “มองขนาดนี้ เดี๋ยวจูบให้ล้มเลย!” จากตัวอักษรในหน้ากระดาษนิยาย กลายเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และมีชีวิตชีวาขึ้นมาจริง ๆ จนทำให้ ไบร้ท์ กลายเป็น “แฟนในฝัน” ของหลายคน แถมยังมี #ทีมเมียสารวัตร เป็นของตัวเองด้วย เช่นเดียวกับหนุ่ม วิน ผู้มีรอยยิ้มสดใส ก็สามารถถ่ายทอดความเป็น “ไทน์” ได้แบบน่าเอ็นดู ซีนดราม่าก็เรียกคะแนนสงสารจนแม่ ๆ อยากเข้าไปปลอบ ส่วนซีนกวน ๆ ยั่ว ๆ ก็น่ารักน่าหยิก ด้วยความลงตัวของ “ไบร้ท์วิน” เลยทำให้ซีรี่ส์เรื่องนี้ครองใจแฟน ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ จนเกิดปรากฎการณ์ #คั่นกู ทะยานพุ่งติดเทรนด์ในโลกทวิตเตอร์ ทั้งในเมืองไทยที่ขึ้นอันดับ 1 ทุกอีพีที่ออนแอร์ แถมยังเคยขึ้นไปอยู่บนเทรนด์อันดับ 1 ของโลกด้วย
นอกจากนี้เพลงประกอบซีรี่ส์ อย่าง “คั่นกู” ที่หนุ่ม ไบร้ท โชว์เสียงร้อง ก็ยังกระตอบรับดีเยี่ยมยอดวิวถล่มทลาย และความร้อนแรงของซีรี่ส์ เลยพาให้ “ไบร้ทวิน” กลับมาสานต่อความรัก และเรื่องราวที่เติบโตขึ้นกับการประคับประคองชีวิตคู่ให้ไปตลอดรอดฝั่งในซีรี่ส์ “เพราะเรายังคู่กัน (ยังคั่นกู)” ตอนพิเศษ ตอกย้ำความฟิน สำหรับ “เพราะเรายังคู่กันฯ” แม้เป็นซีรี่ส์ที่ออนแอร์ในช่วงที่โควิด – 19 ระบาดหนัก แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความแรงของคู่นี้ได้ โดย “ไบร้ทวิน” ควงกันเดินหน้าโกยพรีเซ็นเตอร์ อีเว้นท์ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ รับทรัพย์กันแบบแน่น ๆ เน้น ๆ ทีเดียว
นอกจากความโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืนของ ไบร้ท์ และ วิน แล้ว ทั้งคู่ก็ไม่พ้นโดนมรสุมดราม่าโหมกระหน่ำลูกแล้วลูกเล่า โดยเฉพาะหนุ่ม ไบร้ท์ ที่มีทั้งดราม่าแฟนสาว ซึ่งลุกลามกลายเป็นสงครามทางโซเชียลระหว่างประเทศกับจีน การออกมาเล่าวีรกรรมสุดแสบของตัวเองสมัยเรียนด้วยความภาคภูมิใจ รวมถึงถูกแฉพฤติกรรมต่าง ๆ จนติด #BoycottBright เลยทีเดียว แน่นอนว่าหนุ่ม ไบร้ท ไม่ได้เพิกเฉย และได้ออกมายอมรับผิดพร้อมขอโทษ ซึ่งท่ามกลางกระแสลบที่เข้ามา แต่สิ่งหนึ่งคือแฟนคลับที่ไม่เคยปล่อยมือจาก ไบร้ท์ และยิ่งไปกว่านั้นก็คือหนุ่ม วิน ที่ยังคงให้กำลังใจกันเสมอ ซึ่งพิสูจน์ว่าทั้งคู่ไม่ได้เพียง “คู่กัน” แค่ในซีรี่ส์เท่านั้น แต่ยังอยู่ “เคียงข้างกัน” ในชีวิตจริง เพื่อฝ่าฝันทั้งทุกข์และสุขด้วยกัน จึงทำให้วันนี้ “ไบร้ทวิน” ยังเป็นคู่จิ้นตัวท็อปพากันฮอต ที่แฟน ๆ ต่างยังคงมอบความรัก แถมงานต่าง ๆ วิ่งชนจนสามารถสอยฉายา “จิ้นฟินหลาย (ล้าน)” มาครองทีเดียว
“มิวกลัฟ” คู่จิ้นสายบุญสุดหวาน งานแน่น
เป็นอีกคู่ที่มีแฟนคลับเทหัวใจซัพพอร์ทอย่างเนืองแน่น ทั้งในไทยและต่างประเทศ สำหรับหนุ่ม มิว – ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ และคู่จิ้น กลัฟ – คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ที่ควงคู่กันแจ้งเกิดจากซีรี่ส์ “ธารไทป์ เดอะ ซีรี่ส์ (TharnType The Series) เกลียดนักมาเป็นที่รักกันซะดี ๆ” ในบท “ธาร” และ “ไทป์” ด้วยเคมีที่เข้ากันอย่างกลมกล่อมของ “มิวกลัฟ” จึงทำให้แฟน ๆ อินและฟินหนักมาก
ซึ่งหนึ่งในเสน่ห์ของซีรี่ส์เรื่องนี้ คือฉากเลิฟซีนที่ทั้งคู่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างลงตัว เป็นธรรมชาติ จนทำให้ “มิวกลัฟ” สามารถคว้ารางวัล “ฉากจูบยอดนิยม” จากเวที “ไลน์ ทีวี เบสต์ คิส ซีน (LINE TV BEST KISS SCENE)” ไปครองได้สำเร็จทั้งที่เป็นการเจอกันครั้งแรกของทั้งคู่ ซึ่งเป็นซีนที่ “ธาร” นั้นค่อย ๆ จูบที่ข้อเท้า “ไทป์” เพื่อแสดงความรักในหัวใจ บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งฉากสุดหวานซึ้ง ที่ออกมาจากอินเนอร์จริง ๆ
นอกจากนี้ทั้งคู่ยังคว้ารางวัล “ฮาว เดอะ เบสต์ คัปเปิล อวอร์ด (HOWE THE BEST COUPLE AWARD)” ของ HOWE MAGAZINE รวมทั้งยังควงคู่กันไปเหมารางวัลบนเวที “แคส อวอร์ด2020 (KAZZ Awards 2020)” อาทิ กลัฟ คว้ารางวัล ชายนิ่ง สตาร์ ฝ่ายชาย ( Shining Star Male) ส่วน มิว คว้ารางวัล วัยรุ่นชายมาแรงแห่งปี เป็นต้น และด้วยความที่ภาคแรกประสบความสำเร็จท่วมท้น จึงทำให้มีภาคต่อ “ธารไทป์ เดอะ ซีรี่ส์ ซีซั่น 2 (TharnType The Series Season 2)” ออกมาสานต่อความจิ้น ที่เล่าเรื่องหลังจากภาคแรก 7 ปี แถมยังคอนเฟิร์มว่าเลิฟซีนดุดันกว่าซีซั่นแรก ซึ่งยังคงได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี รวมไปถึง “มิวกลัฟ” ยังพากันปัง กวาดงานพรีเซ็นเตอร์ และร่วมกิจกรรมของแบรนด์ต่าง ๆ มากมายด้วย สำหรับสิ่งทีทำให้แฟน ๆ หลงรักคู่นี้ นอกจากการแสดงคู่ที่เข้ากันได้ดีแล้ว ก็คือมิตรภาพนอกจอที่สวยงามที่ทั้งคู่มีให้กันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการคอมเม้นต์ให้กำลังใจกันในโซเชียล หรือการที่ มิว และ กลัฟ ต่างไปให้กำลังแบบติดขอบเวที เวลาที่อีกฝ่ายมีกิจกรรมเดี่ยว เรียกว่าเป็นภาพที่ดีต่อใจแฟน ๆ ให้ชิปแบบไม่ต้องชงจริง ๆ รวมถึงทั้งคู่ยังเป็นคู่จิ้นสายบุญที่มักชวนแฟนคลับมาทำกิจกรรมการกุศลด้วยกันตลอด ในส่วนชาวด้อมของ 2 หนุ่ม ก็มีชื่อแสนน่ารักว่า “หวานใจมิวกลัฟ” ซึ่งบอกเลยว่าพลังด้อมนี้ไม่ธรรมดา เพราะไม่ว่าจะงานเดี่ยว งานคู่ พลังแฟนคลับก็ผลักดันจนชื่อของทั้ง มิว และ กลัฟ ติดอันดับในโลกทวิตเตอร์อยู่ตลอดเวลาเลยทีเดียว
“บิวกิ้นพีพี” คู่จิ้นสุดเรียล มาแรงแซงโค้ง
ย้ายมาที่ค่าย “นาดาวบางกอก” บ้าง กับสองหนุ่มหน้าใส บิวกิ้น – พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ พีพี – กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ที่ต้องบอกว่าเป็นคู่จิ้นที่มาแรงแซงทางโค้งสุด ๆ ซึ่งทั้งคู่แจ้งเกิดจากซีรีส์ “รักฉุดใจนายฉุกเฉิน” ในบทของ “หมอเต่า” และ “ทิวเขา” ที่ บิวกิ้น และ พีพี ถ่ายทอดออกได้เป็นธรรมชาติ น่ารัก อบอุ่น และหวานจนขโมยซีนพระนางของเรื่อง ยิ่งฉากก่อนจบ ที่ นาดาวฯ บีบหัวใจคนดู เขียนบทให้ “หมอเต่า” เสียสละชีวิตจนตัวเองตาย ก็ทำเอาแฟน ๆ ใจสลาย และเดือดดาลถึงขั้นขู่เผาค่ายกันเลยทีเดียว ก่อนตามมาด้วยเสียงเรียกร้องให้ บิวกิ้น และ พีพี กลับมาแสดงคู่กันอีกครั้ง แน่นอนด้วยความฮอตของทั้งคู่ นาดาวฯ ก็จัดให้ตามคำขอ ด้วยซีรีส์วายเรื่องแรกของค่าย อย่าง “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” ฝีมือผู้กำกับ บอส-นฤเบศ กูโน ที่ดึงทั้งคู่มารับบท “เต๋” และ “โอ้เอ๋ว” เพื่อนสนิทที่บางสิ่งในใจเรียกร้องมากกว่านั้น โดยทั้งคู่ต้องเรียนรู้ และค่อย ๆ หาคำตอบผ่านช่วงเวลาแห่งความเปราะบางของวัยรุ่น
สำหรับ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่เข้ามายกระดับมาตรฐานซีรี่ส์วาย ที่ไม่ได้ขายเพียงแค่จิ้นและความฟิน แต่เป็นชีวิตจริง ๆ ที่เล่าเรื่องราวความรักและความรู้สึกของคน ๆ นึง กับการก้าวผ่านการ “กีดกัน” ของคำว่าเพศ สะท้อนถึงความรักของกลุ่ม “แอลจีบีทีคิว (LGBTQ)” ออกมาได้แบบแท้จริงและสวยงาม
นอกจากฝีมือการกำกับ พลอตและบทพูดที่เรียล ตัวละครที่เหมาะสม รวมไปถึงฝีมือการแสดงของ “บิวกิ้นพีพี” ที่ได้รับเสียงชื่นชมมหาศาลแล้ว ส่วนอื่นในเรื่องก็ได้รับคำชมไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นคอสตูม ภาพสวย เพลงเพราะ มูดแอนด์โทนที่ลงตัว รวมทั้งความละเอียดต่าง ๆ ที่ทีมงานได้ใส่ไว้ในเรื่อง ล้วนทำให้ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” ไม่ใช่แค่ซีรี่ส์วาย แต่เป็นอีกหนึ่งซีรี่ส์ที่เล่าเรื่องราวความรักได้อย่างครบรส ทั้งทุกข์และสุข แถมกระแสความแรงของซีรี่ส์เรื่องนี้ยังทำเอาแฟน ๆ ขอไปตามรอย “เต๋” และ “โอ้เอ๋ว” ที่ภูเก็ต ซึ่งเป็นโลเคชั่นหลักของเรื่องนี้ด้วย
แน่นอนว่าการที่ซีรี่ส์ได้รับเสียงชื่นชมมากมายขนาดนี้ ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับการแสดงของ “บิวกิ้นพีพี” ที่ถ่ายทอดได้อย่างสมจริง ไม่เพียงแค่นั้นมิตรภาพนอกจอของทั้งคู่ที่มีมาอย่างยาวนาน ก็น่ารักและสวยงามไม่แพ้ในจอ แถมยังดูเป็นธรรมชาติ ไร้ซึ่งการประดิษฐ์ใด ๆ เลยทำให้แฟน ๆ ทั้งอินทั้งลุ้นอยากให้ทั้งคู่นั้นเป็นแฟนกันจริง ๆ ทีเดียว ด้วยความฮอตของ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” พาร์ทนี้ จึงไม่แปลกใจเลยที่ นาดาวฯ จะไฟเขียวสร้าง “แปลรักฉันด้วยใจเธอ พาร์ท 2” แล้ว โดยครั้งนี้เป็นเรื่องราวการเติบโต ความฝัน และความสัมพันธ์ของ “เต๋” กับ “โอ้เอ๋ว” ที่จะเกิดขึ้นในสองรั้วมหาวิทยาลัย ในเมืองกรุงเทพฯ ปักหมุดรอดูได้ในวันที่ 11 มี.ค ปีหน้า ได้เลย
“หยิ่นวอร์” คู่จิ้นฮอตปรอทแตก จากแก๊งหนุ่มวิศวะ
คู่จิ้นขวัญใจสายวาย ที่มาแรงสุด ๆ อีกคู่ต้องยกให้ หยิ่น – อานันท์ ว่อง และ วอร์ – วนรัตน์ รัศมีรัตน์ จากซีรี่ส์ “กลรักรุ่นพี่” หนึ่งในโปรเจกต์ “เอ็น ออฟ เลิฟ (En of love) รักวุ่น ๆ ของหนุ่มวิศวะ” ในบท “วี” และ “มาร์ค”
ที่แม้จะเป็นซี่รี่ส์สั้นเพียงแค่ 4 ตอน แต่ทั้งคู่โชว์เคมีที่เข้ากันแบบโดนใจ กับเรื่องราววุ่นวายของเหล่านักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่มาพร้อมความรักที่เกิดผิดจังหวะและผิดเวลา ความไม่ชัดเจนในความสัมพันธ์ กลายเป็นดราม่าผสมความฟินได้ลงตัว รวมถึงการแสดงของ หยิ่น และ วอร์ ที่นอกจากรูปร่างลักษณะจะแคสติ้งได้ตรงตามที่นิยายได้บรรยาย จนถูกใจแฟน ๆ แล้ว ฝีมือการแสดงของทั้งคู่ ยังโชว์เคมีที่ทำให้แฟน ๆ หลงรักและอินตามได้ง่ายดาย
ด้วยความฮอตของ “หยิ่นวอร์” จึงทำให้แฟน ๆ เรียกร้องอยากดูเวอร์ชั่นยาวของซีรี่ส์เรื่องนี้ ซึ่งในตอนจบแฟน ๆ ได้โหมกระหน่ำติดแฮชแท็ก #ENOFLOVEep8 ในทวิตเตอร์ จนขึ้นอันดับหนึ่งในเทรนด์ทวิตเตอร์โลกทีเดียว จากกระแสตอบรับที่ร้อนแรง ล่าสุดทาง Studio WabiSabi ผู้ผลิตจึงจัดให้ ด้วยการนำ “หยิ่นวอร์” กลับมารับบทนำอีกครั้งใน “กลรักรุ่นพี่ (Love Mechanics)” เวอร์ชั่นซีรี่ส์เต็ม ที่จะขยายเรื่องราวความรักทั้งคู่ พร้อมมอบความฟินในปีหน้า ซึ่งหลังประกาศรวมถึงปล่อยโปสเตอร์คู่สุดหวานออกไป ก็สร้างความตื่นเต้นดีใจให้แฟน ๆ ที่จะได้เห็นตัวละครที่รักกลับมาสร้างความสุขอีกครั้ง จน #กลรักรุ่นพี่ซีรี่ส์เต็ม ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์ในไทยเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากเคมีที่ลงตัวของ “หยิ่นวอร์” ในซีรี่ส์ จนพากันดังแล้ว อีกหนึ่งบททดสอบของทั้งคู่ คือต้องเผชิญมรสุมดราม่ามากมาย ที่โถมใส่เหมือนรับน้องแบบรัว ๆ โดยเฉพาะเรื่องงานแฟนมีตติ้งของทั้งคู่ ที่ทำให้เกิดการชุมนุมระหว่างโควิด -19 ระบาด รวมถึงดราม่าขายบัตรแพงต่าง ๆ นานา แต่ทั้งคู่ก็จับมือเคียงข้างกันเผชิญปัญหา พร้อมน้อมรับมาปรับปรุง ท่ามกลางกำลังใจจากแฟนคลับที่ส่งมาแบบแน่น ๆ
“คริสสิงโต” คู่จิ้นอมตะ ฆ่าไม่ตาย
ต้องยกให้เป็นคู่จิ้นในตำนาน สำหรับ คริส-พีรวัส แสงโพธิรัตน์ และ สิงโต – ปราชญา เรืองโรจน์ ที่แจ้งเกิดจากซีรี่ส์ “โซตัส เดอะ ซีรี่ส์ (SOTUS The Series) พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง” ในบทของ “อาทิตย์” และ “ก้องภพ” ที่ออนแอร์ครั้งแรกในปี 2016 ก่อนกลับมาสานต่อความรักกันอีกครั้งในเวอร์ชั่นที่เติบโตขึ้น ใน “โซตัส เอส เดอะ ซีรี่ส์ (Sotus S The Series)” ในปี 2017
แม้ตอนนี้จะมีคู่จิ้นสายวายเพิ่มมากขึ้น และทั้งคู่ก็แยกย้ายมีผลงานเดี่ยวของตัวเองแล้ว แต่แฟนคลับ “ทีมพีรญา” ก็ยังคงเหนียวแน่น รวมถึง คริส และ สิงโต เอง ยังคงมีงานคู่กันตลอด
อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานนี้ทั้งคู่ก็มีดราม่า เมื่อหนุ่ม คริส ถูกขุดคลิปไลฟ์สด ทำนองเหยียดเพศ และการหยิบประเด็นข่มขืนขึ้นมาพูดเล่นกับ สิงโต ไปจนถึงเหตุการณ์ที่เจ้าตัวคอมเมนต์ตอบโต้ชาวเน็ตว่าเชิงเหยียดเชื้อชาติ ซึ่งทั้ง คริส และ สิงโต ได้ออกมาขอโทษพร้อมยอมรับผิด และบอกว่านี่เป็นเรื่องเก่าที่เขาได้รับโทษตั้งแต่ตอนที่ทำไปแล้ว และจดจำเป็นบทเรียน ซึ่งแฟน ๆ ก็พร้อมให้โอกาส และยังคงสนับสนุนเสมอ และเมื่อไหร่ก็ตามที่ทั้งคู่มีอีเว้นท์หรือกิจกรรม ก็จะมี “ทีมพีรญา” มาคอยให้กำลังใจ และซัพพอร์ทแบบจัดเต็ม ไม่มีแผ่วเลยทีเดียว
“ออฟกัน” คู่จิ้นเหนียวแน่น ขวัญใจของ “เบบี๋”
ส่วนอีกคู่จิ้นที่มีแฟน ๆ เหนียวแน่น และอยู่เคียงข้างทั้งสุขและทุกข์มายาวนาน ต้องยกให้คู่ของ ออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร และ กัน – อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์ ทั้งคู่เริ่มต้นด้วยกันในซีรี่ส์ “รุ่นพี่ ซีเคร็ท เลิฟ (Secret Love)” ตอน ปั๊ปปี้ ฮันนี่ (Puppy Honey) จากคู่รองในบท “ปิ๊ก – โรม”
ซึ่ง “ออฟกัน” โชว์เคมีได้อย่างโดดเด่นโดนใจแฟน ๆ จนทำให้ได้มาแสดงนำคู่กันอีกครั้ง “ทฤษฎีจีบเธอ (Theory of Love)” กับบทบาท “ค่าย” และ “เติร์ด” ที่สามารถกวาดหัวใจแฟนคลับได้ทั้งในและต่างประเทศ
มาในปีนี้ทั้งคู่อยู่กับเหล่า “เบบี๋” (ชื่อแฟนคลับ) มาแล้วถึง 5 ปีเต็ม โดยที่แฟน ๆ ยังคงมอบความรักเหนียวแน่น เห็นได้จากตอนที่หนุ่ม กัน เจอดราม่าถูกโยงเป็นมือที่สามทำให้คู่รักเน็ตไอดอล “หมออ๊บ-เต้ยบุญ” สั่นคลอน จนเกิด #อ๊บกัน สนั่นโลกทวิตเตอร์นั้น แฟนคลับก็ต่างออกมาปกป้องหนุ่ม กัน เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีเพื่อนซี้ คู่จิ้นสายฮา อย่าง เต-ตะวัน วิหครัตน์ และ นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ ที่แจ้งเกิดจากบทของ “พีท-เก้า” ในซีรีส์ “คิส เดอะ ซีรี่ส์ (Kiss the Series) รักต้องจูบ” , “คิส มี อะเกน (Kiss Me Again) จูบให้ได้ถ้านายแน่จริง” และ “ดาร์ค บลู คิส (Dark Blue Kiss) จูบสุดท้าย เพื่อนาย คนเดียว” , คู่จิ้นสุดฟินจากซีรี่ส์ “บังเอิญรัก เลิฟ บาย ช้านซ์ (Love By Chance)” อย่าง มีน – พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร และ แปลน -รัฐวิทย์ กิจวรลักษณ์ ก็เตรียมกลับมาสานต่อความฟินอีกครั้งใน “บังเอิญรัก ภาค 2” รวมทั้งคู่จิ้นสุดคิ้วท์ พร้อม – ราชภัทร วรสาร และ เบนซ์ – ณัฐพงศ์ ผาทอง จากซีรี่ส์ “เหนือพระราม” อีกหนึ่งเรื่องแห่งโปรเจ็ค ใน “เอ็น ออฟ เลิฟ รักวุ่น ๆ ของหนุ่มวิศวะ” และคู่จิ้นคู่หูทั้งงานแสดงและงานเพลง อย่าง คิมม่อน – วโรดม เข็มมณฑา และ คอปเตอร์ – ภานุวัฒน์ เกิดทองทวี แห่งซีรีส์ “เจ็น วาย เดอะ ซีรี่ส์ (Gen Y The Series) วัยรุ่นวุ่นYรัก”
นอกจากนั้นยังมีหนุ่ม แม็กซ์ – ณัฐพล ดิลกนวฤทธิ์ และ ตุลย์-ภากร ธนศรีวนิชชัย คู่จิ้นวายสายกล้ามแน่น ที่แจ้งเกิดสุดปังในซีรีส์ “แบด โรแมนซ์ (Bad Romance) ตกหลุมหัวใจยัยปีศาจ” และ “ทูเก็ทเตอร์ วิธ มี (Together With Me) อกหักมารักกับผม” ก่อนกลับมาตอกย้ำความจิ้นอีกครั้ง ในซีรีส์วายแนวสืบสวน อย่าง “พฤติการณ์ที่ตาย แมนเนอร์ ออฟ เดธ (Manner of Death)” ซึ่งถือเป็นการเปิดมิติใหม่แห่งวงการซีรี่ส์วาย ที่มาพร้อมเนื้อเรื่องที่สมจริง และสามารถบาลานซ์ความตื่นเต้นเร้าใจ สไตล์สืบสวนสอบสวน ลงตัวกับเคมีความฟินของ “แม็กซ์ตุลย์” ที่ยังคงแสดงได้เรียลและดีต่อใจจริง ๆ
ต้องบอกว่าเป็นอีกปีที่ตลาดคู่จิ้นสายวายยังคงฮอตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระแสความนิยมเหล่านี้ ถือเป็นอีกหนึ่งมิติของวงการบันเทิง ที่นอกจากเป็นทางเลือกของผู้ชมแล้ว หลาย ๆ ซีรี่ส์ยังเป็นเหมือนไฟฉาย ที่ส่องให้เห็นถึงความเป็น “แอลจีบีทีคิว (LGBTQ)” รวมถึงความรักของพวกเขาได้ชัดเจนขึ้น ส่วนปี 2021 ความนิยมต่อกลุ่มคู่จิ้นสายวายนี้จะไปในทิศทางใด และนักแสดงสายวายเหล่านี้จะสามารถพัฒนายกระดับความจิ้นในซีรี่ส์ ให้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนทางสังคมในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ให้เป็นรูปธรรมได้มากขึ้นหรือไม่ รวมถึงการเป็นนักแสดงในซีรี่ส์สายวายจะมีความมั่นคงในวงการมากน้อยแค่ไหน เป็นอีกเรื่องที่น่าจับตามองจริง ๆ
…ทีมบันเทิงเดลินิวส์…
