คนที่ชื่นชอบการฟังเพลงของนักคัฟเวอร์เพลงทางยูทูบ ต้องรู้จักและเห็นคลิปคัฟเวอร์เพลงของสาวเสียงดี “โบกี้ไลอ้อน” (BOWKYLION) หรือ โบกี้-พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ วัย 23 ปี อย่างแน่นอน เพราะเธอมีแฟนคลับที่ติดตามทั้งคนไทยและต่างประเทศทางยูทูบแชลแนลมากถึง 2 แสนกว่าคน ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมการประกวดร้องเพลงบนเวทีเดอะวอยซ์ ซีซั่นที่ 4 กับพี่สาว ว่าน-รัชยาวีร์ วีระสุทธิมาศ หรือ ว่าน วันวาน แม้จะไม่ใช่ผู้ชนะ แต่การประกวดนี่เองคือจุดเริ่มต้นบนเส้นทางดนตรีของพวกเธอ โดย ว่าน วันวาน ร้องเพลง “แพ้หัวใจตัวเอง” ประกอบละคร “เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ” และเพลง “อย่าบอกว่า” ประกอบละคร “คลื่นชีวิต” ส่วนสาวโบกี้ร้องเพลง “ใจร้าย” ประกอบละคร “แรงตะวัน” ล่าสุดสาวโบกี้เซ็นสัญญาเข้าสังกัด วอท เดอะ ดัก เป็นศิลปินเต็มตัวมีซิงเกิ้ลแรกชื่อว่า “ใครอีกคน” ที่แต่งเนื้อร้องร่วมกับเพื่อนสนิทอย่างนักร้องหนุ่ม “เดอะทอยส์” วันนี้ “ฮันนี่บี” จึงขอนัดแนะสาวโบกี้พูดคุยถึงการก้าวสู่การเป็นศิลปินในครั้งนี้นั้นเปลี่ยนชีวิตเธอไปอย่างไรบ้าง ติดตามในบทสัมภาษณ์เลยค่า
      
เล่าจุดเริ่มต้นการเข้าสู่เส้นทางด้านดนตรีให้ฟังหน่อย?
        
“ชีวิตผูกพันดนตรีมาตั้งแต่เกิด คุณแม่เล่าให้ฟังว่า คุณแม่ร้องเพลงให้หนูกับพี่ฟังตั้งแต่ตั้งท้อง รู้ตัวอีกที่คือรักการร้องเพลงไปแล้ว ใช้ชีวิตอยู่กับเพลงโดยไม่รู้ตัว ทุกวันนี้การร้องเพลงคือความรัก เสียงของเราคือพรสวรรค์ที่แม่ให้มา แม่หนูรักการร้องเพลง เรียกว่ามีแม่เป็นแรงบันดาลใจ ถึงคุณแม่จากไปแล้ว แต่การร้องเพลงก็เป็นสมบัติที่แม่ให้เราเอาไว้ เสียงมันมีค่ามากกว่าเงินทอง คิดว่าเราจะใช้มันทำมาหากินได้ แต่ไม่รู้จะอยู่ในรูปแบบไหน ไม่รู้เป็นนักร้องกลางคืน หรือเป็นคุณครู ไม่ได้วางเป้าหมายขนาดนั้น ไม่ทะเยอทะยานดันตัวเอง ต้องการให้คนเห็นเอง ไม่ใช่จากการเค้นออกมา ซึ่งเราคิดว่าถ้าตรงนี้เป็นของเรามันก็เข้ามาเอง การร้องเพลงเป็นสิ่งที่เราชอบตั้งแต่เด็ก ๆ จึงเลือกเรียนต่อที่วิทยาลัยดนตรีพรีคอลเลจก่อน ตอน ม.4 จากนั้นก็เข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพิ่งเรียนจบปีนี้เองค่ะ“
      
อะไรทำให้ลองร้องคัฟเวอร์เพลงลงยูทูบ?
        
“คัฟเวอร์เพลงเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ก็ไม่คิดว่านี่คือการคัฟเวอร์จริงจัง  เพราะไม่ได้อยากให้คนมารู้จักหรือเป็นคนดังอะไรไม่อย่างนั้น แค่ชอบร้องเพลง จนตอนนั้นอกหักจะระบายอารมณ์ยังไงให้มีประโยชน์ ซึ่งคนทั่วไปอาจจะนั่งเศร้า แต่เราเลือกระบายผ่านการร้องเพลง เอาไปโพสต์ยูทูบแชนแนลตัวเองไว้เล่น ๆ จนคนเริ่มเข้ามาฟังหลายปีเข้าก็เริ่มปรากฏหน้าตาให้คนเห็นว่าเป็นใคร แล้วก็เคยประกวดดนตรีเวทีฮอตเวฟ ที่มีวงกับเพื่อน ๆ แล้วก็มาประกวดเดอะวอยซ์ซีซั่น 4 ที่เราชอบดู แต่ไม่เคยคิดไปลอง เพราะเราไม่กล้า ขี้อายมาก แต่พี่สาวบังคับอยากให้ลองให้เราเปิดโอกาสตัวเอง พอไปจริง ๆ ทำให้เราเปิดโลก กล้ามากขึ้นและทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น ถึงไม่ชนะการประกวด แต่ก็มีโอกาสร้องเพลงประกอบละครนั่นเองค่ะ” 
      
จุดเริ่มต้นแค่นั้นก็กลายเป็นความจริงจัง?
        
“เอาจริง ๆ หนูไม่รู้ว่าเรียกจริงจังไหม ที่ทำมาทุกอย่างก็ไม่มีรอยต่อในเวลาต่าง ๆ มันไปเรื่อย ๆ เพราะทุกวันนี้ยังทำงานโฮมเมดเหมือนเดิม อัดตรงผนังห้องตัวเอง ฉากสี ๆ ก็ซื้อกระดาษมาตัดแปะเอง อยากร้องอะไรก็ทำแบบนั้น เรามีไอเดียในการทำงานเพลงหรือคลิป โบกี้ทำคนเดียวจริง ๆ เพราะเราอธิบายให้คนอื่นฟังว่าอยากได้ยังไงจะยากมาก เช่น อยากร้องเพลงแบ่งเป็น 4-5 ช่อง เขาก็จะงงกันว่าทำยังไง สุดท้ายนั่งศึกษาแล้วทำเองเลยค่ะ(หัวเราะ) เราไม่เก่งเทคโนโลยีแค่พอทำได้ แต่ต่อ ยอดอะไรได้เยอะ แล้วเราต้องลองทำเรื่อย ๆ ก็ทำควบคู่กับการเรียนโดยไม่รู้ว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้เราด้วยค่ะ”

          
ชื่อ “โบกี้ไลอ้อน” มีที่มาอย่างไร?
            
“ตอนแรกคุณแม่ตั้งชื่อเล่นว่า “วุ้นเส้น” แต่สุดท้ายที่บ้านมาเถียงกันเองบอกว่าวุ้นเส้นขาดง่าย เลยเปลี่ยนมาเป็น “โบ” เพราะหนูชอบร้องเพลงของพี่โบ-สุนิตา แล้วคำว่า “กี้” มาจากชื่อของน้องหมา มารวมกันก็กลายเป็น “โบกี้” ส่วนคำว่า “ไลอ้อน” เพราะเราหัวฟูและชอบสิงโตเลยใช้ชื่อนี้มาถึงตอนนี้ค่ะ”
      
แล้วก้าวสู่การเป็นนักร้องมีค่ายได้ยังไง?
        
“หนูทำเพลง “เอาเลย” ออกมาส่งอาจารย์เฉย ๆ ที่คณะเราต้องแต่งเพลงทุกปี ต้องมีเพลงของตัวเอง สาขาที่หนูเรียนคือดนตรีป๊อปทั่วไป เราก็แต่งไว้ส่งอาจารย์ จนพี่สาวหนู พี่ว่าน วันวาน มาขอซื้อเพลงนี้ เราก็บอกว่าเอาไปเลยขำ ๆ พี่ก็บอกว่าเดี๋ยวให้คุยกับโปรดิวเซอร์ ก็รู้สึกว่าอ้าวเพลงเรามีค่าหนิ ไม่ขายดีกว่าแล้วก็เอาเงินมาลงทุนทำ กำกับ ตัดต่อ เสื้อผ้าเองหมด เรียกว่าทำแบบโฮมเมดเอง อัดจากหูฟังโทรศัพท์ ไม่ได้แต่งเติมเทคนิคพิเศษอะไร เพราะหนูไม่ได้มีอุปกรณ์ดนตรีเลย แต่ก็ออกมาเป็นเพลงนั้นได้ จนค่าย วอท เดอะ ดัก ติดต่อมาอยากให้มาร่วมงานกัน เราเป็นคนไม่เต้น ภาพในมิวสิกวิดีโอจะมั่น ๆ แต่ตัวจริงเราขี้อายเน้นร้องอย่างเดียวไม่เต้น ซึ่งเพลงเราก็ดันเป็นสไตล์อิเล็กทรอนิกส์ไปอีกเดี๋ยวคงค่อย ๆ ปรับตัวไปค่ะ”
           
ก่อนหน้านี้มีค่ายเพลงมาชักชวนให้เซ็นสัญญาเยอะไหม?
        
“ก็มีติดต่อมาจำนวนหนึ่งนะคะ แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองไม่พร้อม อย่างที่บอกว่าเราทำตามอารมณ์ตัวเอง ถ้าหากมีค่ายตอนนั้นก็กลัวค่ายจะตามอารมณ์เราไม่ทัน แต่พอถึงเวลาที่เราพร้อมก็มีค่ายวอท เดอะ ดัก มาชวนพอดี พี่บอล วงสครับติดต่ออยากให้มาร่วมงานด้วยกัน ดีใจมากเพราะค่ายนี้คือสวรรค์ของคนทำเพลงอินดี้ มีความอิสระ ค่ายทำให้เราเห็นภาพงานมากขึ้นอยู่เป็นครอบครัวซึ่งผู้ใหญ่เองก็ให้อิสระในการทำงานมาก ๆ ค่ะ”
      
จากคัฟเวอร์เพลงคนอื่นและทำเพลงเอง ตอนนี้มาทำเพลงกับค่ายมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง?
            
“แรก ๆ ยอมรับว่ากดดันตัวเอง เพราะเราต้องแต่งเพลงเข้าค่าย เริ่มสับสนว่าจะทำเพลงยังไง เพราะเพลงในแบบที่เราชอบไม่รู้จะตอบโจทย์คนฟังไหม แล้วมาอยู่ค่ายเราจะมาทำเพลงแค่ที่เราชอบ ก็เหมือนทำแล้วไว้ฟังเองแบบนั้นก็ไม่ได้ ที่ไม่รู้แนวเพลงที่ชัดเจนเพราะร้องเพลงหลายแนวมากเกินไป (หัวเราะ) จนลองค้นหาตัวเองแล้ว กลั่นกรองออกมาเป็นซิงเกิ้ลแรกคือ “ใครอีกคน” ที่แต่งและทำร่วมกับเดอะทอยส์ เพลงเศร้าและเพราะมาก ฟังที่ทอยส์ทำมาก็ชอบเลย กระแสตอบรับโอเคเลย แฟน ๆ ชอบที่เราร้องเพลงเศร้า เขาบอกเราถ่ายทอดอารมณ์นี้ได้ดี”
      
ฝากอะไรถึงแฟนเพลงที่ติดตามหน่อย?
        
“ศิลปินใหม่ ๆ เกิดขึ้นเยอะ แม้จะกดดันนิดนึง แต่เราก็จะทำในส่วนของเราให้ดีที่สุด ขอบคุณโอกาสที่เข้ามาโชคดีที่ได้ค่ายที่ดี งานเพลงก็ออกมาดี สมกับที่เรายังอยู่บนเส้นทางนี้ ไม่ได้เลือกเดินทางอื่น เพราะดนตรีเลือกเรา ไม่ใช่เราเลือกดนตรีอย่างเดียวค่ะ และขอบคุณแฟนคลับที่ติดตามตั้งแต่เราเป็นคนธรรมดาคัฟเวอร์เพลง พวกเขาคือแรงผลักดันให้เราเดินหน้าต่อไป ขอบคุณทุกคนที่เติมเต็มคำว่าศิลปินของหนู ฝากติดตามเพลง “ใครอีกคน” ด้วยนะคะ”
        
วันนี้ได้ทำความรู้จัก “โบกี้ไลอ้อน” นักร้องสาวเสียงดี ที่มีชื่อเสียงจากการคัฟเวอร์เพลง จนก้าวสู่การเป็นศิลปินมีค่ายเต็มตัวแล้ว ยังไงก็ฝากแฟน ๆ เป็นกำลังใจให้ทุกผลงานเพลงของเธอต่อไปด้วยนะคะ.

…………………………………………………
“ฮันนี่บี”