เว็บไซต์ข่าวอังกฤษ “เดอะ ซัน” รายงานจากเมืองแอตแลนตา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ว่า “แอนนี ฮอว์คินส์-เทิร์นเนอร์” สาวชาวอเมริกันวัย 57 ปี ที่อาศัยอยู่ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจียของสหรัฐ หรือที่รู้จักกันในนาม “นอร์มา สทิตซ์” เจ้าของสถิติหน้าอกโดยธรรมชาติใหญ่ที่สุดในโลก ที่ได้รับการลงบันทึกในกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส ด้วยคัพ 102 ZZZ เต้าสองข้างมีน้ำหนักรวมกันมากถึง 38.5 กิโลกรัม กำลังเฉลิมฉลอง 25 ปีที่เธอประสบความสำเร็จในธุรกิจเพราะการมีขนาดหน้าอกที่ใหญ่ผิดปกติ

แอนนีเล่าว่า เธอเริ่มมีหน้าอกใหญ่ขึ้นตั้งแต่อายุห้าขวบ และเมื่ออายุได้เก้าขวบ ขนาดหน้าอกของเธอก็ไปอยู่ที่คัพ 36 D แล้วและมันยังโตขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่หยุดอีกด้วย จนกระทั่งเธอไปพบแพทย์ ได้รับการวินิจฉัยว่า มีอาการเต้านมโตผิดปกติ (gigantomastia) และทุกวันนี้ก็ยังโตขึ้นไม่หยุดอีกด้วย แอนนีถูกเพื่อนๆเรียกว่า “เด็กหญิงอกปลาวาฬ” เธอเคยกลัวว่า ผู้ชายที่เข้ามาจีบเธอจะชอบเธอแค่ขนาดหน้าอกเท่านั้น

แต่ในปี 2534 เธอก็ได้พบกับ “อัลเลน เทิร์นเนอร์” อดีตทหารอากาศ ผู้ชายที่ดีที่เธอแต่งงานด้วย เขาได้ผลักดันให้เธอส่งรูปตนเองไปลงนิตยสารเพื่อหาประโยชน์จากหน้าอกขนาดมหึมานี้ ซึ่งแอนนีก็ได้รับเสียงตอบรับจากสื่ออย่างล้นหลาม เธอเริ่มมีชื่อเสียงและเริ่มทำธุรกิจของตนเองด้วยการให้สัมภาษณ์ลงนิตยสาร ไปพูดสุนทรพจน์ในที่ต่างๆ และตั้งเว็บไซต์ของเธอเองที่มีสมาชิกราว 1 ล้านคนแล้ว เธอสามารถหารายได้จากช่องทางต่างๆ ในปีแรกได้มากถึง 40,000 ปอนด์อังกฤษ (1.9 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม นายอัลเลนจากเธอไปด้วยโรคมะเร็งปอดในปี 2546 แต่แอนนีก็ยังคงทำธุรกิจเพื่อเลี้ยงดูลูกๆ ต่อไป แม้แพทย์จะบอกให้เธอไปผ่าตัดเอาเต้านมออก เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น แต่แอนนีไม่ยอมเพราะหน้าอกของเธอตอนนี้กลายเป็นอุปกรณ์ทำมาหากินที่สำคัญที่สุดไปแล้ว ทั้งนี้ แอนนีประสบปัญหามีเนื้องอกที่หลังเพราะน้ำหนักหน้าอกขนาดมหึมา ไม่สามารถนอนหงายได้เพราะอาจโดนทับจนตาย และไม่สามารถให้นมลูกได้ แต่เธอได้ปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตดังกล่าวได้แล้ว

ขอบคุณภาพจาก The sun
คลิปจากผู้ใช้ยูทูป Sergeyspb2009