เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ส.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐาน หมายเลขดำ อ.853/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอภิรักษ์ โกฎธิ อายุ 28 ปี ผู้บริหารแชร์ Forex 3-D, บริษัท อาร์เอ็มเอส แฟมิเลี่ย จำกัด โดย นายสรายุทธ ไชยเดช (พี่ชายพิ้งกี้) อายุ 41 ปี กรรมการผู้มีอำนาจ, บริษัท มีดีเพย์ จำกัด โดย นายศิษฎ์ธนาฒย์ โพธิ์เงิน ในฐานะผู้แทนนิติบุคคล, นายศิษฎ์ธนาฒย์ โพธิ์เงิน อายุ 32 ปี และ นายสุภิญญา มีสมปราชญ์ เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน รวม 3 ข้อหา พร้อมให้ชดใช้เงิน 2,489,820,321.52 บาท แก่ผู้เสียหาย ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งห้าให้การปฏิเสธ
อัยการโจทก์ฟ้องระบุว่า เมื่อระหว่างวันที่ 24 พ.ย.2558 ถึง 8 ก.ย.2563 จำเลยทั้งสี่กับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันหลอกลวงประชาชน โดยโฆษณาชักชวนบุคคลทั่วไปให้มาร่วมลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทางออนไลน์ในช่องทางเว็บไซต์และเฟซบุ๊กชื่อ “ฟอเร็กซ์3ดี” (www.Forex-3D.com) และใช้ชื่อกองทุน “ฟอเร็กซ์30” โดยจำเลยที่ 2 ที่มีจำเลยที่ 1 ดำเนินการอ้างว่า มีทีมงานมืออาชีพเป็นผู้ทำการลงทุนแทน โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้โดยไม่ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการซื้อขายหรือเทรดเงินตราต่างประเทศ เพียงแต่ขอให้ผู้เข้าร่วมลงทุนฝากเงินเข้ามาก็สามารถที่จะรอรับเงินกำไรปันผลได้เลย โดยที่มีการประกันเงินต้น 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีการขาดทุน โดยเมื่อสมัครร่วมลงทุนก็จะได้บัญชีส่วนตัวในการเข้าสู่ระบบ และจะต้องกำหนดยูสเซอร์เนม (USER NAME) และพาสเวิร์ด (PASSWORD) ของตัวเอง เพื่อจะใช้ในการเข้าระบบเพื่อตรวจสอบผลการลงทุนและค่าตอบแทนที่ได้รับในเว็บไซต์ดังกล่าว
ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวนายอภิรักษ์ จำเลยที่ 1 นายศิษฎ์ธนาฒย์ ทั้งในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจของจำเลยที่ 3 กับฐานะส่วนตัว จำเลยที่ 4 และ นายสภิญญา จำเลยที่ 5 มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขณะที่อัยการโจทก์และทนายความจำเลยที่ 1และ 2 มาศาล
ซึ่งอัยการโจทก์แถลงต่อศาลว่า ได้ฟ้องจำเลยเพิ่มเติมเข้ามาใหม่อีก 19 คน รวมทั้งนายสรายุทธ เป็นคดีหมายเลขดำ อ.2047/2565 คดีดังกล่าวศาลนัดพร้อมในวันที่ 26 ก.ย.2565 เวลา 09.00 น. และโจทก์มีความประสงค์ที่จะนำคดีดังกล่าวมารวมสำนวนพิจารณาเข้ากับคดีนี้ โจทก์จึงประสงค์ที่จะขอเลื่อนคดีไปนัดพร้อมในวันที่ 26 ก.ย.2565
ศาลสอบถามจำเลยที่ 1,3-5 และทนายความจำเลยที่ 1 และ 2 แล้วไม่คัดค้าน
พิเคราะห์แล้วเห็นว่ากรณีมีเหตุอันสมควร จึงให้เลื่อนคดีไปนัดพร้อมเพื่อประชุมคดี สอบคำให้การจำเลย ตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยานในวันที่ 26 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ขณะเดียวกันจำเลยที่ 3-5 ได้แถลงว่าได้ติดต่อทนายความไว้แล้วและประสงค์จะแต่งตั้งทนายความเข้ามาภายในนัดหน้า