เมื่อวันที่ 25 ส.ค. จากกรณีมีข่าวว่าอดีตนักมวยดังฉายา เวนิส บขส. หรือ นายประเวศ พลเชียงขวาง หรือ เวศ ปัจจุบัน อายุ 73 ปี อดีตนักมวยแชมป์โลกชื่อดัง หมัดซ้ายพิฆาต ที่เคยมีอนาคตรุ่งโรจน์เมื่อหลาย 10 ปีก่อน ภูมิลำเนาอยู่บ้านโคกสว่าง ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เสียชีวิต เผยแพร่ผ่านทางสื่อโซเชียล ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบพบว่าไม่เป็นความจริง จากการสอบถาม นางณิยมรัศม์ พลเชียงขวาง อายุ 78 ปี พี่สาวของ เวนิส บขส. ยืนยันว่า เจ้าตัวยังรักษาอาการป่วยอยู่ที่ รพ.นครพนม หลังเกิดอาการช็อกจากโรคความดัน เบาหวาน ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังแพทย์ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.นครพนม ปัจจุบันอาการยังทรงตัว อยู่ระหว่างการดูแลรักษาของแพทย์พยาบาลอย่างใกล้ชิด

สำหรับ นายประเวศ พลเชียงขวาง หรือ เวศ ปัจจุบันอายุ 73 ปี ฉายา เวนิส บขส.ซ้ายพิฆาต ถือว่าเป็นอดีตนักมวยแชมป์โลกชื่อดังที่เคยมีอนาคตรุ่งโรจน์ เมื่อเกือบ 50 ปีก่อน เดิมเส้นทางชีวิตมีใจรักในอาชีพนักมวยมาตั้งแต่เด็กสมัยเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา เนื่องจากชีวิตครอบครัวยากจนจึงอยากมีรายได้จากการชกมวยเพื่อแลกค่าตัวทำให้เดินสายรับจ้างชกมวยตามงานวัดตั้งแต่ค่าตัวไม่กี่ร้อยบาท เนื่องจากพี่ชายทำค่ายมวยในชื่อ ค่ายพายทอง จนกระทั่งมีแววจึงได้ไต่เต้าขึ้นมาตั้งแต่มวยวัด จนถึงระดับมวยอาชีพ จนกระทั่งเรียนจบชั้น มศ.3 ในสมัยนั้น จากโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย โรงเรียนประจำจังหวัดนครพนม จึงได้มีคนมาชักชวนไปอยู่กับค่ายมวยชื่อดัง ค่ายมวย บขส. ที่ กทม.

โดยเริ่มจากมวยแทนจนกระทั่งเป็นนักมวยขึ้นชั้น จากมวยไทยสู่มวยสากล ทำให้ได้แชมป์มวยรอบครั้งแรก ศึกมวยรอบพ็อบท็อป เมื่อประมาณ 2508 ได้ค่าตัวประมาณ 1,500 บาท กลายเป็นแรงบันดาลใจมุ่งมั่นในการฝึกซ้อม จนกระทั่งก้าวขึ้นสู่มวยแชมป์ฟลายเวตประเทศไทย (เวทีลุมพินี) เมื่อปี 2513 แชมป์ฟลายเวต WBC เมื่อปี 2515-2516 ซึ่งถือเป็นแชมป์สูงสุดของนักมวยระดับโลก และแชมป์แบนตั้มเวตประเทศไทย เวทีราชดำเนิน เมื่อปี 2522-2524 ซึ่งเคยได้รับค่าตัวสูงสุดที่ประมาณ 1.2 ล้านบาท ทำให้ชีวิตอนาคตรุ่งเรืองสูงสุดในยุคนั้น ไม่แตกต่างนักมวยชื่อดัง และดาราดังระดับประเทศ จนมีวงการละครมาทาบทามไปแสดงละคร

นายประเวศ พลเชียงขวาง หรือ เวศ เวนิส บขส. เคยเปิดเผยชีวิตสุดแสนรันทด กับผู้สื่อข่าวว่า ชีวิตไม่เที่ยงแท้ เคยรุ่งโรจน์มาตลอด จนกระทั่งชีวิตได้เข้าสู่ขาลงจนทำให้ต้องแขวนนวมลาวงการมวยหลังจากชกมวยแพ้หลายครั้ง เนื่องจากสภาพร่างกายถดถอยตามกาลเวลา จนต้องอำลาวงการเมื่อประมาณปี 2524 ซึ่งมีอายุได้ 32 ปี โดยทางบริษัทขนส่งได้บรรจุเข้าเป็นพนักงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับ แต่ตัดสินใจลาออกหลังทำงานได้ประมาณ 10 ปี เพื่อกลับบ้านเกิดหันมาทำงานเปิดบริษัทจัดหางานส่งแรงงานไปต่างประเทศ พร้อมปักหลักสร้างครอบครัวแต่งงานกับภรรยาคนแรก คนบ้านเดียวกัน จนมีลูกด้วยกัน 2 คน แต่โชคไม่เข้าข้างทำธุรกิจได้ประมาณ 5 ปี เกิดปัญหาขาดทุนจากบริษัทใหญ่ล้ม ทำให้ทรัพย์สินที่เคยมีหลาย 10 ล้านบาท หายไปในระยะเวลาไม่กี่ปี จนเป็นหนี้สิน ชีวิตตกต่ำ เพราะไม่มีรายได้ที่มั่นคง

ที่สำคัญครอบครัวแตกแยกไปคนละทางเพื่อเอาตัวรอด ซึ่งปัจจุบันลูกชายและลูกสาวไปอาศัยอยู่กับแม่ ทำงานมีครอบครัวที่ประเทศแคนาดา จนกระทั่งสุดท้ายบั้นปลายของชีวิตต้องมาทำไร่ทำนา อาศัยรายได้เบี้ยยังชีพคนแก่ ส่วนภรรยาคนล่าสุดชาว อ.นาแก จ.นครพนม เสียชีวิตเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้อยู่ลำพัง อาศัยพี่น้องดูแลช่วยเหลือตามสภาพ จากบรรดาพี่น้องทั้งหมด 5 คน ตนเป็นคนที่ 4

“ที่สำคัญความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิตนอกเหนือจากรางวัลเกียรติยศในวันที่ 29 กันยายน 2515 ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ได้แชมป์ฟลายเวต WBC ซึ่งถือเป็นแชมป์สูงสุดของนักมวยระดับโลก ชกกับนักมวยแชมป์โลก เบตูลิโอ กอนซาเลซ ชาวเวเนซุเอลาเวนิส ชนะคว้าแชมป์ พร้อมได้รับพระราชทานเข็มรางวัล และได้เคยเข้าเฝ้าในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกทั้งพระองค์ท่านได้เสด็จทอดพระเนตรการชกมวยด้วยพระองค์เอง

หลังจากชนะแล้วได้ลงจากเวทีเพื่อเข้าเฝ้ากราบฝ่าพระบาท พระองค์ท่านทรงตรัสถามว่า เจ็บมั้ย เหนื่อยมั้ย เก่งมากหนู ขอให้รักษาแชมป์ไว้นานๆ แบบรุ่นพี่ และยังทอดพระเนตรด้วยแววตายิ้มแย้ม เมตตา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น หาที่สุดมิได้ และเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต ที่พระองค์ท่านทรงมีพระเมตตา ตนในฐานะพสกนิกรชาวไทยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สิ่งเดียวที่ตอบแทนได้คือทำความดีเพื่อสังคม และไม่สร้างปัญหากับสังคม” เวนิส บขส. กล่าวไว้